พระสมุทรเจดีย์



พระสมุทรเจดีย์ หรือพระเจดีย์กลางน้ำ* ปูชนียสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 2 เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์รวมแห่งจิตใจและจิตวิญญานของชาวปากน้ำ มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นเจดีย์ที่มีพระเจ้าแผ่นดิน 4 รัชกาลช่วยกันปรับปรุง ทำนุบำรุงรักษา จนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความผสมผสานทางสถาปัตยกรรมทั้งไทย จีน ยุโรป บริเวณองค์พระสมุทรเจดีย์จะมีงานเฉลิมฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่ทุกปี งานแห่ผ้าห่มองค์พระเจดีย์ ที่มีมานานกว่า 180 ปี การเดินทางไปยังพระสมุทรเจดีย์สะดวก ทั้งรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก

* พระสมุทรเจดีย์ เคยได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์กลางน้ำ เพราะในครั้งแรกที่สร้างนั้นเคยเป็นบริเวณเกาะกลางแม่น้ำ ต่อมาทางน้ำได้เปลี่ยน จนบริเวณนี้เกิดการทับถมของตะกอนที่ถูกพัดพามากับสายน้ำ เกิดเป็นสันดอน และกลายเป็นแผ่นดินงอก ส่วนที่เคยเป็นเกาะเลยกลายเป็นแผ่นดินผืนเดียวกับชายฝั่ง และในปี พ.ศ.2483 ได้มีการจัดตั้งท่าเรือคลองเตยเป็นท่าเรือใหม่ แทนการขนส่งที่เกาะสีชัง เพื่อความสะดวกในการขนส่งสินค้าเข้าสู่เมือง โครงการนี้ต้องมีการขุดลอกร่องน้ำในบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาให้ลึกขึ้น เพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่แล่นเข้ามาถึงท่าเรือคลองเตยได้ จึงทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางมากขึ้น ดินเลนในแม่น้ำไหลมาทับถมบริเวณริมฝั่งด้านพระสมุทรเจดีย์มากขึ้นเรื่อยๆ จนหมดหนทางที่จะทำให้พระสมุทรเจดีย์กลับมาเป็นเกาะได้เหมือนเดิมได้

พระสมุทรเจดีย์ ตั้งอยู่ทางฝั่งธนบุรี (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา) ในตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ หรือบริเวณตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ และตลาดปากน้ำ องค์พระเจดีย์ อยู่สุดทางถนนที่ตรงมาจากถนนสุขสวัสดิ์ เป็นบริเวณที่มีคิวรถเมล์ คิวรถสองแถว และเรือข้ามฟาก

ในปี พ.ศ.2370 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงให้ความสำคัญกับการสร้างป้อมปราการป้องกันข้าศึกทางทะเล จึงดำริให้สร้างเมืองใหม่บริเวณปากแม่น้ำ ให้เป็นเมืองหน้าด่านช่วยระวัง ป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามาทางปากอ่าวไทย โดยรับสั่งให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3 ในเวลาต่อมา) และสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เจ้าพระยาพระคลัง เป็นผู้ดูแลการสร้างป้อมปราการขึ้น 6 ป้อม ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นโปรดให้สร้างพระเจดีย์ไว้บริเวณเกาะเล็กๆ ที่อยู่ท้ายเกาะป้อมผีเสื้อสมุทร เพื่อให้เป็นศาสนสถาน แหล่งศูนย์รวมใจให้เกิดกุศลจิต ช่วยปกป้องคุ้มครองชาวปากน้ำให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง ทรงรับสั่งให้ กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ (ลูกพี่ลูกน้องกับรัชกาลที่ 2) และพระยาราชสงคราม เป็นผู้ออกแบบพระเจดีย์ เดิมสร้างเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบพระปรางค์ แล้วทรงพระราชทานนามว่า "พระสมุทรเจดีย์"

ในขณะเตรียมการก่อสร้าง ปรับพื้นที่ถมหินให้แน่นหนาก่อนสร้าง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสวรรคต มิทันได้เห็นพระเจดีย์ที่พระองค์ทรงดำรัสไว้ ต่อมาพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระโอรสพระองค์โต ได้ขึ้นครองราชย์เป็น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์จึงทรงสืบสานงานตามพระประสงค์ของพระราชบิดา โดยสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้าง ใช้เวลาประมาณ 7 เดือนเศษ แล้วเสร็จในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 หรือวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2371

พระเจดีย์แรกเริ่มที่สร้างตามรูปแบบที่รัชกาลที่ 2 ทรงออกแบบไว้ เป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ฐานกว้างด้านละ 10 วา 9 ศอก (ประมาณ 24.50 เมตร) ความสูงนับจากฐานถึงยอด 13 วา 3 ศอกคืบ (ประมาณ 27.75 เมตร) ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 4 พระองค์ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว สูง 2 ศอก ขึ้นไป 3 ชั้น ระเบียงประดับลวดลายแบบจีน บริเวณฐานพระเจดีย์ทั้ง 4 สี่ทิศ สร้างศาลารายมุงกระเบื้องแบบเก๋งจีน สำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อน หลังจากพระสมุทรเจดีย์สร้างเสร็จ ได้มีการจัดงานฉลองสมโภชพระเจดีย์อย่างยิ่งใหญ่ 5 วัน 5 คืน และภายหลังจากนั้นไม่นานนัก ได้มีโจรลักลอบปีนขึ้นไปที่องค์ระฆังพระเจดีย์ เจาะขโมยเอาพระบรมสารีริกธาตุออกไป ทำให้พระสมุทรเจดีย์ไม่มีพระบรมสารีริกธาตุมานานถึง 12 ปี

เวลาล่วงมาจนกระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทอดผ้าพระกฐินที่วัดพิชัยสงคราม ในตัวเมืองปากน้ำ และเสด็จแวะนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ ทรงดำรัสว่าองค์เจดีย์อันสำคัญนี้ ดูต่ำเตี้ย ไม่สง่างาม จึงปรึกษากับเจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกศาธิบดี (เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค)) และทรงทราบว่า พระบรมสารีริกธาตุภายในองค์พระเจดีย์ถูกโจรปีนขโมยออกไปหมดแล้ว พระองค์จึงพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 588 ชั่ง (ประมาณ 47,000 บาท) โปรดให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ขึ้นใหม่ให้มีความสูงใหญ่กว่าเดิม ไม่ให้คนปีนขึ้นไปได้ง่าย ทั้งยังให้ดูโดดเด่น สูงสง่าสมกับเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมือง หลังจากเจดีย์องค์ใหม่เสร็จ ได้ทำพิธีห่มผ้าแดง เพื่อเป็นการสักการะพระบรมสารีริกธาตุในองค์เจดีย์ และเพื่อให้มองเห็นตำแหน่งของเจดีย์จากระยะไกลได้อย่างชัดเจน

บริเวณรอบองค์เจดีย์ ทรงรับสั่งให้รื้อศาลาเก๋งจีนทางทิศใต้ออก แล้วสร้างเป็นวิหารหลวงหลังใหญ่ มีหอเทียน หอระฆัง ส่วนทางทิศเหนือรื้อศาลาเก๋งจีนออกแล้วสร้างศาลาที่ประทับแทน และก่อกระถางปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ที่นำมาจากเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย ส่วนบริเวณท่าน้ำทางทิศตะวันออก สร้างท่าเทียบเรือ ลงหลักผูกเรือ และเสาหินหัวเหลี่ยม หลังจากนั้นทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ยกยอดพระสมุทรเจดีย์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2403  

ต่อมาในปี พ.ศ.2426 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์เสด็จมาที่พระสมุทรเจดีย์ แล้วโปรดให้กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ เป็นแม่กองในการซ่อมแซมพระวิหารหลวง ทรงเห็นว่าศาลาทางทิศเหนือชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก จึงโปรดให้เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) รื้อศาลาเก่าออก แล้วสร้างเป็นศาลา 5 ห้องทรงยุโรปไว้แทน หลังจากรัชสมัยรัชกาลที่ 5 พระสมุทรเจดีย์ได้รับการดูแล ทำนุบำรุงเรื่อยมา และเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระสมุทรเจดีย์เป็นโบราณสถานสำคัญ
 

สิ่งที่น่าสนใจภายในพระสมุทรเจดีย์

องค์พระสมุทรเจดีย์

พระสมุทรเจดีย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นเจดีย์องค์ใหม่ที่รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างครอบเจดีย์องค์เดิมไว้ โดยให้ช่างไปดูต้นแบบเจดีย์ทรงลอมฟาง* จากอยุธยา ลักษณะเป็นเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำ เหนือองค์ระฆัง มีบัลลังก์ เสาหาน ก้านฉัตร และปล้องไฉน เจดีย์องค์ใหม่มีความสูง 19 วา 2 ศอกคืบ (ประมาณ 39.75 เมตร) หรือประมาณตึกสูง 13 ชั้น ที่คอองค์ระฆังบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 12 พระองค์ เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 4 อัญเชิญมาจากพระบรมมหาราชวังมาบรรจุไว้

ส่วนของฐานองค์เจดีย์ทำเป็นลานประทักษิณ 3 ชั้น ลานชั้นบนสุดสร้างพระเกี้ยว** ไว้ 4 มุม รอบฐานระเบียงชั้นสองเจาะซุ้มจระนำ ประดับช้างไว้ภายใน กำแพงแก้วรอบองค์เจดีย์ ประดับลวดลายแบบเหรียญจีนโบราณที่มีอยู่เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3  

* พระเจดีย์ทรงลอมฟาง (เขียนและอ่านว่า ลอมฟาง ไม่ใช่ล้อมฟาง) เป็นการเรียกเจดีย์ที่มีส่วนกลาง (เรือนธาตุ) เป็นทรงลอมฟาง หรือระฆังคว่ำ ถ้วยคว่ำ คำว่า ลอมฟาง นี้มาจากลักษณะการเก็บฟางข้าวในสมัยก่อน จะวางไว้ตามลานดิน มีไม้ปักกลาง แล้วนำฟางถมกองสูงขึ้นเหมือนจอมปลวก เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ป้องกันไม่ให้ฟางข้างในเปียกชื้น ปัจจุบันมักจะไม่ค่อยได้เห็นแล้ว

** พระเกี้ยว หรือจุลมงกุฏ หมายถึงเครื่องประดับพระเกศา ของพระโอรสหรือธิดาพระกษัตริย์ มีลักษณะเหมือนหมวกฉัตร ลดหลั่นเป็นชั้นๆ จนเป็นเหมือนมงกุฎยอดสูง พระเกี้ยวที่อยู่บนฐานไพทีรอบพระเจดีย์ ประจำอยู่ที่มุมทั้ง 4 ทิศ สร้างเป็นปูนปั้น มีลักษณะเป็นชั้นๆ ลดหลั่นขึ้นไป ดูคล้ายเจดีย์ทิศองค์เล็ก


วิหารหลวง

เป็นวิหารที่อยู่ทางทิศใต้ขององค์พระสมุทรเจดีย์ หากเข้าทางประตูด้านหน้าจะเห็นวิหารหลวงอยู่หน้าพระเจดีย์ วิหารหลวงสร้างแบบก่ออิฐถือปูน หลังคาซ้อนชั้น ประดับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ มีพาไล(เป็นเหมือนระเบียงยื่นออกมา) ทั้งด้านหน้าและหลัง หน้าบันเป็นลายปูนปั้นสีขาว ลวดลายนูนต่ำรูปช้างเก้าเชือกแบกพานพระเกี้ยว และฉัตร 7 ชั้น รายล้อมด้วยลายเครือเถา เทวดา และคนธรรพ์ พื้นด้านหลังประดับกระเบื้องสีน้ำเงิน

วิหารหลวงหันหน้าไปทางทิศใต้ ด้านหน้าวิหารมีหอเทียน หอระฆัง ด้านละคู่ ทางขึ้นสู่อาคารวิหารมีบันไดทางขึ้นอยู่ด้านข้าง มีประตูทางเข้า 3 บาน (ตรงกลางเป็นประตูสำหรับกษัตริย์) ซุ้มประตูเป็นลายปูนปั้น ไม่ได้ลงสี บานประตูวาดภาพเขียนสี รูปยักษ์ทวารบาล บานหน้าต่างเป็นลายรดน้ำ ภายในอาคารทาสีขาวเรียบ ไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ เรียงจากด้านหลังมาด้านหน้า ได้แก่

- พระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร หรือปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปองค์ที่อยู่ด้านในสุด อยู่ในอริยาบทยืน ยกพระหัตถ์ทั้ง 2 ขึ้นเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ไปด้านหน้า เบื้องหลังองค์พระปฏิมาประดับเป็นซุ้มทรงสูงประกอบลวดลายสวยงาม พระพุทธรูปปางห้ามญาตินี้ เป็นพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของรัชกาลที่ 3 และเป็นปางที่นิยมตั้งไว้ในวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ หรือทะเล ด้วยความเชื่อที่ว่าช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยทางน้ำด้วย

- พระปฏิมาชัยวัฒน์* หรือพระชัย หรือพระชัยหลังช้าง เป็นพระพุทธรูปองค์กลาง ถัดมาด้านหน้าพระยืน พุทธลักษณะคล้ายปางมารวิชัย อิริยาบทประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ขวาวางพาดอยู่บนพระเพลา (ตัก) ส่วนพระหัตถ์ซ้ายแตกต่างไปตรง ถือพัดยศแทนการวางพระหัตถ์บนพระเพลา

นอกจากนี้ด้านหน้ายังประกอบด้วย พระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทรองค์เล็ก และพระพุทธรูปปางมารวิชัยอีก 2 องค์

* พระชัยวัฒน์ หรือพระไชยวัฒน์ มีความหมายว่า การชนะอุปสรรค ชนะศัตรู และภัยอันตรายทั้งปวง เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำพระเจ้าแผ่นดินในทุกรัชกาล มักจะได้รับการอัญเชิญร่วมในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระบรมราชาภิเษก การถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ตลอดจนอัญเชิญร่วมขบวนเสด็จ เมื่อพระเจ้าแผ่นดินออกนอกพระนครไปยังที่ต่างๆ เช่น การเสด็จประพาสทางบก ทางน้ำ รวมถึงการนำพระชัยไปในการศึกด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการสงคราม (จึงเรียกว่า พระชัยหลังช้าง) พระชัยวัฒน์มีพุทธลักษณะปางมารวิชัย ที่พิเศษกว่า คือพระหัตถ์ซ้ายจะอยู่ในลักษณะถือด้าม


หอเทียน หอระฆัง

หอเทียนและหอระฆังตั้งอยู่หน้าวิหารหลวง อย่างละคู่ เป็นหอที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูน มีลักษณะดังนี้

- หอเทียน ด้านล่างเป็นฐานสี่เหลี่ยมสูง ด้านบนทำเป็นซุ้มทรงสูง หอเทียนเป็นที่วางประทีปโคมไฟ ในยุคที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง คอยให้แสงสว่างกับผู้ที่มากราบสักการะองค์พระสมุทรเจดีย์ยามค่ำคืน

- หอระฆัง สร้างให้มีความสูงจากพื้นไม่มาก เป็นซุ้มขนาดใหญ่ เป็นความเชื่อที่ว่า เมื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระเจดีย์แล้ว การเคาะระฆังเป็นการบอกกล่าวแก่เทพยดาให้รับรู้ และร่วมอนุโมทนาบุญ
 

ศาลาทรงยุโรป

ศาลาทรงยุโรป หรือศาลาห้าห้อง บ้างก็เรียกตึกฝรั่ง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระเจดีย์ ฝั่งตรงข้ามกับพระวิหารหลวง ศาลาหลังนี้สร้างเพิ่มเติมขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยรื้อศาลาหลังเก่าออก และสร้างอาคารทรงยุโรปขึ้นแทน เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ลักษณะเป็นอาคารทรงหลี่ยมผืนผ้า ผนังอาคารด้านข้างเจาะประตูสูงด้านละ 5 บาน (5 ห้อง) ด้านหน้าเจาะประตูสูง 4 บาน ประตูทุกบานติดกระจกใส ส่วนบนของประตูเป็นทรงโค้งมนแบบฝรั่ง ช่วงบนติดกระจกสี ช่วงล่างเป็นกระจกใสเปิดออกรับลมได้ 3 ด้าน ภายในเป็นโถงใหญ่ พื้นปูกระเบื้อง มีเสากลมเป็นคู่ๆ ส่วนบนของเสาทำเป็นสายรัดลายดอกไม้และพวงอุบะ

เหนือช่องประตูด้านข้าง มีภาพจิตรกรรมฝาผนังต่อเนื่องยาวแบบพาโนรามา ภายในภาพแสดงการจัดงานเฉลิมฉลอง สมโภชองค์พระสมุทรเจดีย์ในครั้งแรก ครั้งที่องค์เจดีย์ยังคงเป็นแบบย่อมุมไม้ตามต้นแบบเดิม มีขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค การจัดแสดงมหรสพ และงานออกร้านอยู่ภายในเรือแพ

ภายในศาลาทรงยุโรป ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ผู้ดำริให้สร้างองค์พระสมุทรเจดีย์ ทางจังหวัดสมุทรปราการได้ดำเนินการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ตั้งไว้เพื่อเป็นการรำลึก เพื่อแสดงความจงรักภักดี ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2539

* ศาลาห้าห้องทรงยุโรป บางวันอาจไม่ได้เปิดให้เข้าชมด้านใน


เสาหินหัวเหลี่ยม

เป็นเสาที่เห็นเรียงรายอยู่รอบบริเวณพระสมุทรเจดีย์ เสาทรงสี่เหลี่ยมมีความสูงไม่มากนัก โคนฝังอยู่ในดิน ส่วนบนเป็นสี่เหลี่ยมเรียบ สันนิษฐานว่าเดิมองค์เจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะ เสานี้จึงเป็นสิ่งแสดงขอบเขตขององค์พระสมุทรเจดีย์ ส่วนบนของเสาสำหรับวางโคมตะเกียง เมื่อชาวบ้านนำเรือเดินทางมาสักการะองค์พระสมุทรเจดีย์ยามค่ำคืน
 

เสาหินทราย

เป็นแท่งเสาหินฝังอยู่รอบองค์พระสมุทรเจดีย์เช่นกัน และอยู่ใกล้กับเสาหินหัวเหลี่ยม มีลักษณะเป็นเสากลมสูงพอๆ กับเสาหินหัวเหลี่ยม แต่มีหัวเสาทรงมนเป็นรูปบัวตูม มีไว้สำหรับผูกเรือผู้ที่มากราบสักการะองค์พระเจดีย์
 

ท่าเทียบเรือเก่า

เป็นท่าเทียบเรือดั้งเดิม เดิมเป็นท่าที่สร้างยื่นจากเกาะพระสมุทรเจดีย์ออกไป ปัจจุบันท่าเทียบเรือนี้อยู่บนพื้นดิน และไม่ได้ใช้แล้ว สันนิษฐานว่า เดิมเป็นท่าเทียบเรือพระที่นั่งในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และยกยอดพระเจดีย์
 

ศาลาราย

ศาลารายดั้งเดิม ยังคงเหลือให้เห็นอยู่ 2 หลัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก (ทางฝั่งแม่น้ำ) และทิศตะวันตกของเจดีย​์ เป็นอาคารชั้นเดียวเล็กๆ รูปลักษณ์แบบเก๋งจีน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เดิมมีด้วยกันทั้งหมด 4 หลัง หลังที่อยู่ทางทิศใต้ รัชกาลที่ 4 โปรดให้รื้อออกแล้วสร้างวิหารหลวงแทน ส่วนหลังที่อยู่ทางทิศเหนือ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างเป็นศาลาทรงยุโรปแทน

ศาลารายที่เห็นอยู่ เป็นศิลปะแบบจีนตามพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 สร้างเป็นอาคารทึบ 3 ด้าน เจาะผนังเป็นช่องทรงกลม ศาลานี้สร้างเพื่อเป็นที่พักผ่อนสำหรับผู้ที่เดินทางมานมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์

ต้นโพธิ์พุทธคยา

เป็นต้นโพธิ์จากประเทศอินเดีย อยู่ใกล้กับศาลาทรงยุโรป รัชกาลที่ 4 ทรงกั้นบริเวณ และปลูกต้นโพธิ์ไว้ ต่อมารัชกาลที่ 5 ได้ทรงโปรดให้สร้างฐานและนำต้นใหม่มาปลูกแทนต้นเดิมที่ตายไป

ประเพณีแห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ (ดูรายละเอียด งานประเพณีประจำปี)

ประเพณีแห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ นับเป็นประเพณีเก่าแก่ ที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ.2371 (189 ปีมาแล้ว) ภายหลังที่สร้างองค์พระสมุทรเจดีย์สร้างเสร็จในครั้งแรก ได้มีการฉลองสมโภช เพื่อเป็นการเคารพสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์ และยังเป็นการประกาศให้ผู้ที่อยู่ไกลออกไปได้รู้ เมื่อเห็นผ้าใหม่ ก็จะรู้ว่าเป็นเวลาเทศกาลเฉลิมฉลององค์พระสมุทรเจดีย์ ปัจจุบันประเพณีนี้ จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11

งานแห่ผ้าแดง ขึ้นห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ มีการจัดแต่งรถขบวนแห่อย่างสวยงาม ขบวนรถบุปผชาติ ทั้งประเภทสวยงาม ด้านความคิดสร้างสรรค์ การเดินขบวนพาเหรด วงดุริยางค์ มีผู้เข้าร่วมขบวนจากหน่วยงานราชการ ข้าราชการ นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ รวมถึงประชาชนชาวสมุทรปราการ และนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมากมาย

การจัดงานประเพณี จะประกอบด้วย การแห่ผ้าแดง การห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ การเวียนเทียนรอบองค์เจดีย์ และงานเฉลิมฉลอง

- การแห่ผ้าแดง

เป็นการจัดขบวนแห่ นำผ้าแดงผืนใหม่ที่จะใช้ห่มองค์เจดีย์ แห่ไปให้ชาวบ้านได้ร่วมบูชา อนุโมทนาบุญ ผ้าแดงที่จัดเตรียมไว้ จะมีการเตรียมตัดเย็บผ้ายาวติดเป็นผืนเดียวกันไว้ก่อน แล้วม้วนไว้เป็นก้อนกลม จัดวางบนพานดอกไม้ อัญเชิญขึ้นบุษบก แห่ไปพร้อมริ้วขบวนรถบุพชาติ จากนั้นมอบให้กับกองทัพเรือนำแห่ทางน้ำ ขึ้นบกที่อำเภอพระประแดง แล้วแห่บนบกให้ประชาชนและชาวพระประแดงได้ร่วมทำบุญ สักการะบูชา แล้วจึงนำกลับมายังพระสมุทรเจดีย์ เมื่อมาถึงบริเวณองค์พระสมุทรเจดีย์ จะคลี่กางผ้าออกเป็นผืนใหญ่ ให้ประชาชนและผู้ร่วมพิธีช่วยกันจับผืนผ้าเดินแห่ทักษิณาวรรต รอบองค์เจดีย์อีกครั้ง การแห่รอบองค์เจดีย์นี้จะมีผู้คนร่วมกันจับผ้าแดง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

- การห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์

พระสมุทรเจดีย์ในรูปแบบเดิมที่เริ่มสร้างนั้นเป็นแบบย่อมุม มีเหลี่ยมมุมให้ปีนขึ้นไปได้ง่าย และเจดีย์ยังไม่สูงเท่าปัจจุบัน ทำให้นำผ้าขึ้นไปห่มองค์เจดีย์ได้ไม่ยากนัก ครั้นเมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงสร้างองค์ใหม่ครอบไว้ เป็นทรงกลมสูงมาก ทั้งยังเป็นทรงกลมที่ปีนได้ยาก จึงหาผู้ที่จะปีนขึ้นไปห่มผ้าพระเจดีย์ไม่ได้ ในที่สุดมีผู้อาสาปีนขึ้นไปห่มผ้าแดงให้กับองค์เจดีย์เป็นคนแรกคือ นายรอด รุ่งแจ้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลรุ่งแจ้ง ถือว่าเป็นตระกูลที่ได้รับการสืบทอด นำผ้าขึ้นห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

การขึ้นห่มผ้าแด่องค์พระสมุทรเจดีย์นั้น ยังคงใช้วิธีการแบบเก่าคือใช้คนปีนบันไดไม้ไผ่ นำผ้าขึ้นไปห่มด้านบนเลย เมื่อทำพิธีแห่ผ้าแดงรอบองค์เจดีย์แล้ว จะเปลี่ยนเป็นม้วนผ้าแดงตามแนวยาวของผ้า จากนั้นผู้ที่นำผ้าขึ้นห่ม จะต่อพะอง (บันไดไม้ไผ่) พาดองค์เจดีย์แล้วปีนนำผ้าขึ้นไป เมื่อถึงบริเวณบัลลังก์สี่เหลี่ยมจะต้องค่อยๆ คลี่ปลายผ้าลงมาจากทุกด้าน ผู้ที่คลายผ้าด้านต่างๆ จะโรยตัวมาตามเชือก จับให้ผ้าแดงแนบองค์เจดีย์ การห่มจะห่มเฉพาะตรงองค์ระฆัง ที่อยู่ใต้บัลลังก์สี่เหลี่ยมลงมา (เป็นส่วนที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ) ห่มจากบนลงล่าง ให้คลุมองค์ระฆังไว้ทั้งหมด แล้วมัดปลายผ้าไว้ให้ตึง


- พิธีเวียนเทียนรอบองค์พระสมุทรเจดีย์

เป็นการเวียนเทียนรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ หลังจากที่ห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์แล้ว เป็นการสักการะต่อพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ภายในเจดีย์
 

- งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ และงานกาชาด

นับเป็นงานใหญ่ของจังหวัดสมุทรปราการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นการเฉลิมฉลองสมโภชหลังจากที่ห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์แล้ว มีการจัดงานรื่นเริง การแสดงมหรสพ ประดับไฟเจดีย์ แสงสีเสียง การแข่งเรือพาย มีการออกร้านแบบงานกาชาด ขายของกินของใช้มากมาย ในบริเวณทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำ ฝั่งพระสมุทรเจดีย์มีการประดับประดาไฟ จัดงานร้านค้า ฝั่งศาลากลางจังหวัด ก็ออกร้าน และมีการแสดงมากมายเช่นกัน แต่เดิมมีการจัดงาน 7 วัน 7 คืน หลังจากนั้นเป็น 9 วัน 9 คืน ไปจนถึง 10-12 วัน

การเดินทาง

ห่างจากป้อมผีเสื้อสมุทร   400 เมตร
ห่างจากป้อมพระจุลจอมเกล้า   7 กิโลเมตร
ห่างจากอำเภอพระประแดง   14 กิโลเมตร
ห่างจากวัดสาขลา   13 กิโลเมตร
 

เส้นทางรถยนต์

เส้นทาง ถนนสุขสวัสดิ์ -> พระสมุทรเจดีย์

1 ใช้เส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าไปทางพระประแดง ผ่านแยกวัดสน แยกสะพานภูมิพล สามแยกพระประแดง บิ๊กซีสุขสวัสดิ์(บิ๊กซีพระประแดง) แยกถนนกาญจนาภิเษก ตรงตามป้ายป้อมพระจุลจอมเกล้า
2 จนกระทั่งถึงสามแยกพระสมุทรเจดีย์ (ตรงหอนาฬิกา) จึงเบี่ยงซ้ายตามป้ายบอกทางไปพระสมุทรเจดีย์
3 เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ตรงไปอีกเกือบๆ 1 กิโลเมตร จนสุดทางที่องค์พระสมุทรเจดีย์ (อยู่ทางซ้ายมือ) เลี้ยวซ้ายนำรถเข้าไปจอดในบริเวณด้านข้างองค์พระสมุทรเจดีย์ได้

* หากใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ตามป้ายบอกทางดาวคะนอง พอข้ามสะพานพระราม 9 (สะพานแขวน) แล้วชิดซ้ายเพื่อออกถนนสุขสวัสดิ์ เมื่อเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์แล้ว ตรงตามป้ายบอกทาง ป้อมพระจุลจอมเกล้า

** หากใช้วงแหวนอุตสาหกรรม สะพานภูมิพล (จากถนนปู่เจ้าสมิงพราย หรือ ถนนพระราม 3) ตามป้ายบอกทางลงถนนสุขสวัสดิ์ (พระประแดง) จากนั้นตรงตามป้ายบอกทาง ป้อมพระจุลจอมเกล้า

*** หากใช้ถนนวงแหวนรอบนอก กาญจนาภิเษก (จากฝั่งตะวันออก หรือ ฝั่งตะวันตก) ตามป้ายทางออกถนนสุขสวัสดิ์ (พระสมุทรเจดีย์) เมื่อเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์แล้ว ตรงตามเส้นทางไปเรื่อยๆ

 

รถโดยสารประจำทาง (ดูรายละเอียด รถโดยสารประจำทาง)

รถเมล์

- หากขึ้นรถเมล์สาย ปอ.20 (ท่าน้ำดินแดง - พระสมุทรเจดีย์) ลงสุดสายที่ท่าเรือพระสมุทรเจดีย์
- เดินออกจากท่าเรือแล้วเลี้ยวขวาไปราว 300 เมตร

สาย ปอ. 20 ท่าดินแดง - พระสมุทรเจดีย์ (รถแอร์ ยูโรสีส้ม)

เส้นทางเดินรถ ท่าน้ำท่าดินแดง - ถนนลาดหญ้า - วงเวียนใหญ่ - ตลาดวงเวียนใหญ่ - แยกตากสิน - แยกมไหศวรรย์ - บิ๊กซีดาวคะนอง - บางปะแก้ว - บิ๊กซีบางปะกอก - โรงพยาบาลบางปะกอก 1 - แยกประชาอุทิศ - ถนนสุขสวัสดิ์ - กม.9(ลงทางด่วน) - แยกวัดสน - แยกพระประแดง - บิ๊กซีสุขสวัสดิ์(บิ๊กซีพระประแดง) - โรงเรียนราชประชาสมาสัย - วัดใหญ่ - สามแยกพระสมุทรเจดีย์(หอนาฬิกา) - ท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์

** สาย 20 ที่เป็นรถมินิบัส (รถร้อน) จะสุดที่บิ๊กซีพระประแดง ไปไม่ถึงพระสมุทรเจดีย์ หากนั่งสายนี้มา ให้ลงรถที่บิ๊กซี แล้วต่อรถสองแถวใหญ่ สายพระประแดง - พระสมุทรเจดีย์

* หากขึ้นรถเมล์สาย ปอ.140 (ทางด่วน), ปอ.142 (ทางด่วน) พอลงจากทางด่วนแล้ว ให้ลงรถเมล์ป้ายแรก แล้วต่อรถเมล์สาย ปอ.20 (ให้ขึ้นเฉพาะรถใหญ่ รถมินิบัสจะไปไม่ถึง)

** หากขึ้นรถเมล์สาย 35, 138(ที่เป็นรถไปอู่ราชประชา), สาย 20(ที่เป็นรถมินิบัส) ลงรถที่ป้ายบิ๊กซี พระประแดง จากนั้นต่อสาย ปอ.20 หรือรถสองแถวใหญ่หกล้อ สายพระประแดง - พระสมุทรเจดีย์

รถสองแถวใหญ่หกล้อ (1146) พระประแดง - พระสมุทรเจดีย์

เส้นทางเดินรถ ท่าน้ำพระประแดง - ตลาดพระประแดง - วัดกลาง - ถนนนครเขื่อนขันธ์ - สามแยกพระประแดง - บิ๊กซีสุขสวัสดิ์(บิ๊กซีพระประแดง) - วัดครุใน - รพ.บางปะกอก 3 - แยกถนนกาญจนาภิเษก - โรงเรียนราชประชาสมาสัย - แยกพระสมุทรเจดีย์ - ท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์


รถตู้ (ดูรายละเอียด รถตู้)
- นั่งรถตู้สาย บางปะแก้ว - พระสมุทรเจดีย์ (คิวรถอยู่แถวตลาดบางปะกอก ช่วงแยกพระราม 2)
 

เรือข้ามฟาก (ดูรายละเอียด เรือข้ามฟาก)

ท่าเรือวิบูลย์ศรี (ตลาดปากน้ำ) - ท่าพระสมุทรเจดีย์

- นั่งเรือข้ามฟากจากตัวเมืองปากน้ำ (ท่าเรือวิบูลย์ศรี) ตรงตลาดปากน้ำ มาขึ้นท่าพระสมุทรเจดีย์
- ออกจากท่าเรือแล้ว เดินเลี้ยวขวาไปทางองค์พระสมุทรเจดีย์ (ประมาณ 300 เมตร)

ท่าเรือเภตรา (ปู่เจ้าสมิงพราย) - ท่าพระประแดง

- นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือเภตรา ตรงสุดถนนปู่เจ้าสมิงพราย มาขึ้นฝั่งที่ท่าพระประแดง
- จากนั้นขึ้นรถสองแถวใหญ่หกล้อ สายพระประแดง - พระสมุทรเจดีย์ (ขึ้นแถวท่าน้ำได้) ไปลงสุดสายที่พระสมุทรเจดีย์

 

ข้อมูลการติดต่อ ป้อมพระจุลจอมเกล้า

เวลาเปิด 07.00 - 19.00 น.

ที่อยู่ 114 หมู่ 3 ถนนสุขสวัสดิ์ - พระสมุทรเจดีย์ ตำบลปากคลองปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290
โทร. (ไม่มีข้อมูล)

ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip :1

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ป้อมผีเสื้อสมุทร (Phi Seur Samut Fort) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของชาติ ตั้งอยู่ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ป้อมปืนเก่าแก่เกือบ 200 ปี มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้สถานที่จริงทางประวัติศาสตร์ ศึกษาระบบนิเวศริมชายฝั่งแม่น้ำ ทั้งยังได้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ชมธรรมชาติ ชมค้างคาวแม่ไก่เกาะตามยอดไม้ ป้อมผีเสื้อสมุทรตั้งอยู่ในบริเวณที่รถยนต์เข้าไม่ถึง ต้องเดินจากองค์พระสมุทรเจดีย์ไป ซึ่งอยู่ในระยะไม่ไกลมากนัก หากจะนำจักรยานไปด้วยก็ไม่ลำบาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
อุทยานการเรียนรู้ และหอชมเมืองสมุทรปราการ แลนด์มาร์คกลางเมืองสมุทรปราการ ศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดในทุกด้าน และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม ภายในอาคารประกอบด้วยส่วนนิทรรศการ รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองสมุทรปราการไว้ทั้งหมด บนสุดเป็นหอคอย เป็นจุดสำหรับขึ้นชมทัศนียภาพเมือง มองเห็นลำน้ำเจ้าพระยา ไปจนถึงทะเลปากอ่าวไทย พื้นที่สีเขียวของบางกะเจ้า พระสมุทรเจดีย์ ป้อมผีเสื้อสมุทร ป้อมพระจุลจอมเกล้า พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกิจการทหารเรือ ที่เคยใช้งานจริงในกองทัพเรือไทย ทั้งยังจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เรือจำลองสมัยต่างๆ เพื่อเป็นการให้ความรู้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวชมในวันหยุด นักเรียนนักศึกษามาทัศนศึกษา เป็นการได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวก มาโดยรถโดยสารก็ไม่ยุ่งยาก มีรถเมล์ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์หลายสาย
ห่างออกไป ประมาณ: 1.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรปราการ (Samutprakan City Pillar Shrine) หรือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะ เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองสมุทรปราการ มีความผสมผสานทางวัฒนธรรม โดยมีเจ้าพ่อผู้คุ้มครองเมืองตามรูปแบบจีน และมีเสาหลักเมืองตามความเชื่อแบบพราหมณ์ฮินดู ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ในเขตชุมชนเมืองปากน้ำ สามารถโดยสารรถประจำทางได้สะดวก
ห่างออกไป ประมาณ: 3.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) เป็นสถานที่แสดงศิลปกรรมในแนวอุดมคติ ที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อทางศาสนา และจักรวาล เกิดจากการสร้างสรรค์ความงามทางตะวันออกแบบไทย ผสมผสานกับงานศิลปะตะวันตก ก่อให้เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่วิจิตรงดงามและทรงคุณค่า ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม วิจิตรศิลป์ และประณีตศิลป์อันละเอียดอ่อน ทั้งยังเป็นสถานที่จัดเก็บรักษาโบราณวัตถุ ของเก่าของสะสมของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้รักและหลงใหลในงานศิลปะอีกด้วย การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไม่ยากเลย สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ก่อนเข้าตัวเมืองปากน้ำ มีรถเมล์ผ่านหลายสาย และจะมีรถไฟฟ้า BTS ผ่าน
ห่างออกไป ประมาณ: 3.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ สถานที่ท่องเที่ยวในตำนานที่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของหลายๆ คน สถานที่ท่องเที่ยวฮิตติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดสมุทรปราการมานาน และเป็นหนึ่งในฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถานที่สร้างความสุขให้กับครอบครัวในวันหยุด ไฮไล์ของที่นี่คือการแสดงโชว์การจับจระเข้ด้วยมือเปล่า การแสดงช้าง ให้อาหารสัตว์ ถ่ายรูปกับสัตว์ เช่นเสือ ลิงชิมแปนซี และการเดินดูสัตว์อื่นๆ การเดินทางมายังฟาร์มจระเข้ไม่ยาก มีหลายเส้นทาง มีป้ายบอกเป็นระยะๆ หากไม่มีรถส่วนตัว ก็มีรถประจำทางเข้ามาถึงหน้าฟาร์มจระเข้เลย
ห่างออกไป ประมาณ: 6.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดอโศการาม เป็นวัดที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานตามแนวทางของท่านพ่อลี ธัมมธโร ภายในวัดมีพระธุตังคเจดีย์ เป็นเจดีย์องค์แรกและองค์เดียวในประเทศไทย ที่ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และอรหันตธาตุของพระพระธุดงค์กรรมฐานในสายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงเป็นปูชนียสถานองค์สำคัญ ที่ควรแห่งการกราบสักการะบูชา เพื่อระลึกถึงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และอริยสงฆ์ผู้เป็นครูบาอาจารย์ นอกจากนี้พระธุตังคเจดีย์ ยังแสดงความหมายของ ธุดงควัตร ที่เป็นข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการขัดเกลากิเลส โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติภาวนาในสายกรรมฐาน การเดินทางไปยังวัดมีเส้นทางไม่ยุ่งยากซับซ้อน อยู่ใกล้เมือง และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง
ห่างออกไป ประมาณ: 7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ป้อมพระจุลจอมเกล้า หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ป้อมพระจุล สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ สถานที่ควรค่าแห่งการจดจำ และร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในอดีต บอกเล่าแก่ลูกหลาน และอนุชนคนรุ่นหลัง ให้ได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้แวะกราบสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 เดินชมป้อม หลุมปืน และปืนเสือหมอบ ที่ครั้งนึงเคยได้ร่วมยิงต้านเรือรบฝรั่งเศส ขึ้นชมเรือหลวงแม่กลอง เรือรบที่ใช้งานมายาวนานที่สุด
ห่างออกไป ประมาณ: 7.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เมืองโบราณ เป็นสถานที่เที่ยวสุดคลาสสิค พิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่แสดงงานศิลปะกลางแจ้งขนาดใหญ่ บอกเล่าความเป็นตัวตนของคนไทย ผ่านชิ้นงานรังสรรค์อันปราณีต ประดิษฐ์โบราณสถานสถานที่สำคัญ รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมเก่าแก่จากทุกมุมของประเทศ จำลองไว้ให้รุ่นลูกหลาน ได้เห็น รู้จัก ศึกษาเรียนรู้ และรักความเป็นไทยมากขึ้น
ห่างออกไป ประมาณ: 8.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง หรือ ศาลเจ้าห้าพระองค์ หรือ ศาลเจ้ามูลนิธิธรรมกตัญญู ศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมและประติมากรรมจีนสวยงาม ชมสิงโตคู่แกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพดานศาลเจ้าประดับไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรตระการตา กราบสักการะเทพเจ้า 5 พระองค์ (โหงวหวังเอี้ย) และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพร เสริมดวงชะตา แก้ชง นอกจากนี้ช่วงเทศกาลตรุษจีน* และเทศกาลหยวนเซียว** ของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลประดับโคมไฟในรูปต่างๆ กว่าห้าพันดวง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ป้อมแผลงไฟฟ้า (Phlaeng Faifa Fortress) หนึ่งในป้อมปราการสำคัญที่ตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นป้อมเดียวในอำเภอพระประแดงที่ยังคงมีสภาพเหลือให้เห็นค่อนข้างสมบูรณ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งนี้ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน เพื่อการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ชาติไทย สำหรับอนุชนคนรุ่นหลัง ได้รำลึกถึงอดีต ป้อมนี้อยู่ติดกับตลาดเทศบาล มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึงได้ และสามารถเดินทางมาโดยรถเมล์ หรือเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 8.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง (Phra Pradaeng City Pillar Shrine) เป็นศาลหลักเมืองแห่งเดียวที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความศรัทธาของชาวพระประแดง และชาวปากน้ำ แต่ละวันจะมีผู้คนมากราบสักการะ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ความสำเร็จ สมปรารถนา และช่วยขจัดปัดเป่าความไม่ดีในชีวิต ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้ศาลพระเสื้อเมือง และป้อมแผลงไฟฟ้า การเดินทางสะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 8.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลพระเสื้อเมือง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ศาลเจ้าแม่" เป็นอีกศาลหนึ่งในย่านพระประแดง ที่ชาวพระประแดงให้ความเคารพศรัทธากันมาก ศาลนี้ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้กับศาลหลักเมืองพระประแดง และป้อมแผลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวชมที่เดินถึงกันได้ไม่ไกลนัก การเดินทางมาตลาดพระประแดง และศาลพระเสื้อเมือง เดินทางมาได้ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 8.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
บ้านธูปหอมสมุนไพร อยู่ในบริเวณคุ้งบางกะเจ้า ใกล้กับตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า บ้านธูปหอมสมุนไพร เปิดชมในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ร่วมทำกิจกรรมเบาๆ เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่มาก ในการลงมือทำธูปหอมไล่ยุง และผ้ามัดย้อม งานวิถีชาวบ้านที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น กิจกรรมนี้เหมาะกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแนะนำชาวต่างชาติให้มาร่วมสืบสานวิถีชีวิตในแบบไทยๆ
ห่างออกไป ประมาณ: 8.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดทรงธรรมวรวิหาร (Wat Songdham Worawihan) อำเภอพระประแดง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองนครเขื่อนขันธ์ ในสังกัดรามัญนิกาย วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเป็นวัดแรกพร้อมการสร้างเมือง ที่มีประวัติความเป็นมานานกว่า 200 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมอญที่อยู่ในถิ่นฐานพระประแดง ภายในวัดมีพระมหาธาตุรามัญเจดีย์ในรูปแบบมอญ เสาหงส์ ธงตะขาบ สัญลักษณ์แสดงตัวตนของชาวมอญ ที่ได้รับการสืบทอดทางวัฒนธรรมประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน และที่วัดยังเป็นศูนย์กลางการจัดงานประเพณีแห่หงส์ ธงตะขาบ ในช่วงสงกรานต์ประจำทุกปีอีกด้วย การเดินทางมาวัดสะดวก หาง่าย อยู่ใกล้ตลาดพระประแดง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง (Bangnamphung Floating Market) ในคุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง ตลาดต้องชมของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตลาดนัดท้องถิ่นขนาดใหญ่ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดช้อป นัดมาชิมกันทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ แหล่งอาหารการกิน ของคาวของหวาน ของกินเล่น ของสดของแห้ง ผักผลไม้ สินค้าพื้นถิ่น ยังเป็นเที่ยวชมของผู้ที่มาปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า การเดินทางรถยนต์ ตลาดนี้รถยนต์เข้าถึงได้ แม้ไม่มีรถก็มีรถโดยสารประจำทางท้องถิ่น และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนสุขภาพลัดโพธิ์ เป็นสวนสาธารณะบริเวณใต้สะพานภูมิพล ในย่านพระประแดง สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผู้คนได้มานั่งเล่น เดินเล่น แวะให้อาหารปลา ชวนกันมาวิ่งออกกำลังกาย ชมวิวสะพานภูมิพล เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของสะพานภูมิพล และชุมชนย่านพระประแดง นอกจากนี้ภายในสวนสุขภาพ มีพิพิธภัณฑ์วงแหวนอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นจุดนัดพบของชาวนักปั่น นัดกันเที่ยวในช่วงวันหยุด การเดินทางมายังสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ไม่ซับซ้อน และมีลานจอดรถในบริเวณนี้ด้วย
ห่างออกไป ประมาณ: 9.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดบางน้ำผึ้งนอก วัดเก่าแก่อายุราว 350 ปี โบราณสถานที่ยังคงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย แวะกราบขอพรหลวงพ่อใหญ่ ชมภาพจิตรกรรมในพระอุโบสถหลังเก่า ที่เป็นตำนานเล่าขาน บนบานหน้าต่างโบสถ์ ที่มาของคำว่ามอญแหวก (ปัจจุบันภาพเลือนลางไปมาก) เดินเล่นชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำ มีศาลาให้นั่งพัก ถ่ายภาพแม่น้ำมุมกว้าง และมีท่าเรือข้ามฟากใหญ่ ที่ข้ามมาจากวัดบางนานอก เพื่อจะไปยังตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง บริเวณวัดมีร้านเช่าจักรยาน และร้านค้ามากมาย
ห่างออกไป ประมาณ: 9.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ฟาร์มเห็ดช่างแดง เป็นฟาร์มที่อยู่ในคุ้งบางกะเจ้า นับเป็นหนึ่งในแหล่งเที่ยวชมภูมิปัญญาทางการเกษตรชุมชน ได้เห็นวิถีชีวิตการทำอาชีพเพาะเห็ด เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ชาวต่างชาติ และผู้ที่สนใจเรียนรู้การทำก้อนเห็ด เพาะเห็ด และศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพได้ ทางไปฟาร์มเห็ดช่างแดงมีรถยนต์เข้าถึง หรือคนที่ปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้าอยู่แล้ว จะแวะชมก็อยู่ไม่ไกลจากวัดบางน้ำผึ้งนอก
ร้านอาหารใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 1.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านบ้านเมษา ร้านอาหารวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ก่อนเข้าตัวเมืองปากน้ำ (ร้านไม่ได้อยู่ที่บางปูนะ) ใกล้กับโรงเรียนนายเรือ และพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นร้านที่บรรยากาศดี ได้มุมมองและวิวที่แปลกตา ตอนกลางวันนั่งชมเรือสินค้าลำใหญ่แล่นเข้า-ออกปากแม่น้ำ ช่วงเย็นมองพระอาทิตย์ลับฟ้า นั่งรับลมสบายๆ ช่วงค่ำชมวิวองค์พระสมุทรเจดีย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (ยิ่งช่วงที่มีการประดับไฟพระสมุทรเจดีย์ตอนกลางคืนยิ่งสวยมาก) การเดินทางมาร้านไม่ยุ่งยาก อยู่ติดถนน ร้านมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านริมเขื่อน เป็นร้านอาหารที่คนปากน้ำมักจะแนะนำบอกต่อ ร้านอยู่ในย่านตัวเมืองปากน้ำ ที่อยู่ริมถนนในซอย ไม่ได้อยู่ริมเขื่อนหรือริมน้ำเหมือนชื่อแต่อย่างใด ลักษณะร้านจัดวางแบบง่ายๆ (สไตล์ร้านข้าวต้มรอบดึก) เอาใจคนชอบทานซีฟู้ด และคนที่ชอบทานอาหารราคาประหยัด ได้รสชาติอาหารถูกปาก โดยไม่เน้นบรรยากาศ หรือความหรูหรา ​ทางร้านเปิดขายตั้งแต่ช่วงบ่าย ไปจนถึงดึก เหมาะกับการมานั่งทานหลังเลิกงาน หรือทานอาหารเย็นกับครอบครัว ร้านหาไม่ยาก อยู่ใกล้แยกศาลากลาง มีรถไฟฟ้า และรถโดยสารประจำทางผ่านหลายสาย
ห่างออกไป ประมาณ: 2.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เรือนเพชร 2 หรือสุกี้เรือนเพชร สาขาศรีนครินทร์ อยู่เยื้องกับโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เป็นหนึ่งในร้านอาหารสไตล์ภัตตาคารจีน และสุกี้โบราณสูตรไหหลำ รสชาติสุกี้ในตำนานสุดคลาสสิค ที่มีมานานกว่า 50 ปี สืบทอดมาหลายยุค ถูกปากคนหลายรุ่น (ผู้ใหญ่มักจะชอบ) เรือนเพชรสุกี้มีอยู่หลายสาขา ที่ศรีนครินทร์จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ร้านกว้างขวาง เดินทางมาง่าย มีที่จอดรถสะดวก
ห่างออกไป ประมาณ: 2.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ครัวปีกไม้ เป็นร้านกึ่งสวนอาหาร ตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ร้านนี้เป็นที่รู้จักของคนปากน้ำ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ชอบบรรยากาศร้าน นั่งทานข้าวแบบสบายๆ ผ่อนคลายหลังเลิกงาน ได้นัด ทานข้าวกับเพื่อนๆ หรือกับครอบครัว ฟังดนตรีสดบรรเลงเพลงเก่า เพลงร่วมสมัย ที่ช่วยให้นั่งได้เพลินๆ ร้านนี้หาง่าย อยู่ริมถนน เดินทางไปได้สะดวก และภายในร้านมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 3.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนอาหารสมพงศ์ หรือ สมพงศ์ซีฟู้ด เป็นร้านเก่าแก่ของเมืองปากน้ำ ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ ลักษณะร้านเป็นสไตล์สวนอาหารกึ่งภัตตาคาร ที่นั่งได้สบายๆ เหมาะกับการหาที่ทานข้าวกับครอบครัว หรือเป็นสถานที่พบปะ นัดเจอกลุ่มเพื่อนฝูง ร้านอยู่ติดถนนใหญ่ หาง่าย เดินทางสะดวก และภายในร้านมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 3.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านเพ็ญ ร้านอาหารขนาดย่อม บนถนนศรีนครินทร์ ถือเป็นอีกร้านดังของเมืองปากน้ำ ที่หลายคนมักจะนึกถึง และติดใจในรสชาติอาหาร ความเป็นที่นิยมของร้านมาจากเมนูที่ไม่ค่อยเหมือนกับที่อื่นๆ โดยเฉพาะ ปลาเต๋าเต้ย หม้อไฟ ที่หาทานได้ยากในย่านนี้ ร้านเพ็ญ ตั้งอยู่ริมถนน หาง่าย เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 4.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านรสสุคนธ์ เป็นหนึ่งในร้านเก่าแก่ของเมืองปากน้ำ ร้านนี้เดิมเคยตั้งอยู่บริเวณเรือนจำเก่า (ปัจจุบันกลายเป็นหอชมเมืองไปแล้ว) จึงเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของชาวปากน้ำเป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อย้ายไปอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ก็ยังคงมีลูกค้าที่ติดใจในรสชาติอาหารแบบไทยๆ ติดตามไปเป็นลูกค้าประจำอยู่เสมอ บรรยากาศของร้านเป็นแบบสบายๆ ไม่อึกทึกนัก จึงเหมาะกับการมาทานข้าวกับครอบครัว ได้ลิ้มรสอาหารที่คุ้นลิ้น ถูกปากถูกใจคนทุกวัย ร้านหาไม่ยาก ตั้งอยู่ริมถนน เดินทางสะดวก และด้านในมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านก้ามปู ร้านอาหารเก่าแก่บนถนนเทพารักษ์ เปิดมานานกว่า 30 ปี เป็นที่รู้จักและเป็นร้านประจำของหลายๆ คน ร้านนั่งทานข้าวบรรยากาศแบบไทยๆ ภายใต้ความร่มรื่นราวสวนป่า เหมาะกับการต้อนรับแขก ทานกับครอบครัว ผู้สูงอายุ เด็กๆ คู่รัก หรือนัดกลุ่มเพื่อน เหมือนนั่งทานข้าวในสวนหลังบ้าน ได้พักผ่อนสบายๆ แบบไม่วุ่นวาย ไม่รีบร้อน เสริฟอาหารไทยประเภทกับข้าว ของคาวของหวานมากมาย เดินทางสะดวก อยู่ริมถนน หาไม่ยาก (ทางเข้าอาจดูยากนิดนึง)
ห่างออกไป ประมาณ: 5.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านส้มตำดนตรี ร้านอาหารอีสานชื่อดังระดับจังหวัดที่คนสมุทรปราการรู้จักกันแทบทุกคน ปัจจุบันมีหลายสาขา ที่คนนิยมไปกันมากคือ ถนนเทพารักษ์ และ ถนนสายลวด เป็นร้านถูกปากสำหรับสาวกส้มตำ อาหารสไตล์อีสาน อาหารประเภทปลา และซีฟู้ดด้วย แวะชิมรสชาติแซบถูกปาก ราคามาตรฐาน ใกล้สาขาไหน แวะทานสาขานั้นได้เลย ร้านติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก
ห่างออกไป ประมาณ: 5.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ครัวปูหลน ร้านอาหารดังสมุทรปราการฝั่งพระประแดง ที่คนพื้นที่รู้จักกันดี อยู่ในเขตแหลมฟ้าผ่า ใกล้ที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ร้านบรรยากาศชายทุ่ง ริมบึง นั่งลมโกรก เย็นสบาย ราคาไม่แพง ขับรถแยกจากถนนสายหลักเข้าไปตามเส้นทางไปวัดสาขลา และวัดขุนสมุทรจีน สะดวกสำหรับคนมีรถ หน้าร้านมีที่จอดรถริมทาง
ห่างออกไป ประมาณ: 6.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ครัวโพธิ์ทะเล เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ในตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ร้านนี้เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เน้นอาหารซีฟู้ดสดใหม่ ราคาเป็นกันเอง ลักษณะ ร้านเป็นแบบง่ายๆ สบายๆ สไตล์ริมบ่อกุ้ง บึงปลา รับลมธรรมชาติ นั่งชมวังกุ้ง วังปลา อยู่ริมทางไปวัดสาขลา เข้าทางเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า สะดวกสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว
ห่างออกไป ประมาณ: 6.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านสโมสรท้ายเรือหลวงแม่กลอง เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีมานานนับ 10 ปี อยู่ในบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ของอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ร้านติดทะเลปากอ่าว บรรยากาศดี เห็นวิวปากแม่น้ำ ได้เดินเที่ยวชมเรือหลวงแม่กลอง ป้อมปืนเสือหมอบ พร้อมทั้งสามารถสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 นั่งพักผ่อนทานอาหาร ในราคามาตรฐาน เหมาะกับมากับครอบครัวในวันหยุด นัดเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน แล้วแวะทานข้าวก่อนกลับ การเดินทางควรมีรถยนต์ส่วนตัว
ห่างออกไป ประมาณ: 7.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านส้มตำพาเพลิน สาขาดั้งเดิม ตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ ย่านพระประแดง ร้านที่เน้นอาหารประเภทส้มตำจานโต สำหรับสาวกคนชอบส้มตำรสแซบต้องตามมาชิม แวะมาลิ้มลองความจัดจ้านของส้มตำ และอาหารอีสาน ร้านอยู่ริมถนน ใกล้ทางยกระดับทางด่วนกาญจนาภิเษก เดินทางมาได้ไม่ยาก ภายในร้านมีที่จอดรถอยู่บ้าง
ห่างออกไป ประมาณ: 7.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านอ่าวบางปู ร้านอาหารบรรยากาศริมทะเลบางปู หรืออยู่ในย่านที่เรียกว่า บางแสน ไม่ไกลจากตัวเมืองปากน้ำ ร้านบรรยากาศรับลมทะเลธรรมชาติ สามารถเดินชมทะเลกว่าง เห็นวิวพระอาทิตย์ตก นั่งสบายๆ สไตล์เป็นกันเอง ไม่เน้นหรูหรา ร้านอยู่ติดกับถนนริมเขื่อนเลียบทะเล (เป็นถนนเล็กๆ คั่นระหว่างร้านกับชายทะเล) ร้านกว้างขวาง มีที่จอดรถสะดวก
ห่างออกไป ประมาณ: 7.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านสายลม บางปู ร้านดังย่านบางปู (บางแสน 2) บรรยากาศริมทะเลปากอ่าวไทย ลมเย็นสบาย ร้านกว้างขวาง รองรับคนได้เยอะ มีที่ให้เดินเล่น ร้านตกแต่งสวยงามแปลกตา ออกสไตล์อาร์ต บวกกับความโรแมนติก เหมาะกับการหาที่ทานข้าวกับครอบครัว กับแฟน หรือกลุ่มเพื่อน มีมุมสวยๆ ของเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย ที่จอดรถสะดวก เดินทางมาง่าย หาไม่ยาก
ห่างออกไป ประมาณ: 7.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านเกาะยอ หนึ่งในร้านดังของสมุทรปราการ อยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ร้านขนาดใหญ่เปิดมานานกว่า 10 ปี บรรยากาศดี สไตล์กึ่งเรือนแพ เหมาะกับการทานข้าวกันครอบครัว นัดพบปะเพื่อนฝูง สังสรรค์ งานวันเกิด เลี้ยงรุ่น รับปริญญา จัดเลี้ยงงานปีใหม่ งานแต่งงาน มีให้บริการห้องคาราโอเกะเป็นส่วนตัว การเดินทางหาง่าย มีที่จอดรถสะดวก
ห่างออกไป ประมาณ: 7.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านครัวบุญเลิศ เป็นร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในร้านโปรดของหลายๆ คน ร้านมีขนาดกว้างขวาง เหมาะกับการรวมพล นัดพบปะ ทานข้าวกับครอบครัว นั่งสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนๆ จัดปาร์ตี้ งานเลี้ยง งานวันเกิด รับปริญญา งานบริษัท รวมถึงการจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ทางร้านมีที่จอดรถค่อนข้างกว้าง ให้บริการอาหารหลากหลาย มีดนตรีสด ห้องส่วนตัว ห้องคาราโอเกะ ร้านหาง่าย การเดินทางสะดวก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ และมีรถโดยสารสองแถวผ่านหลายสาย
ห่างออกไป ประมาณ: 8.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านโพธิ์ทะเล ร้านอาหารเก่าแก่ย่านบางปูเปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี เป็นร้านใหญ่ ติดริมทะเลปากอ่าวไทย บรรยากาศสบายๆ ดูง่ายๆ สไตล์เป็นกันเอง ไม่หรูมาก นั่งรับลมทะเลใต้ร่มเงาไม้ได้เรื่อยๆ ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ร้านอยู่ในซอยติดกับวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และไมอามี่ เบย์ไซด์ หาไม่ยาก มีที่จอดรถ หากมารถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่า เพราะต้องเข้าซอย
ห่างออกไป ประมาณ: 8.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านระเบียงริมน้ำ ร้านอาหารมีชื่อย่านพระประแดง บรรยากาศติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านสไตล์ง่ายๆ ไม่หรูหรามาก ตอนกลางวัน เห็นวิวสะพานภูมิพล นั่งมองเรือสินค้าลำใหญ่แล่นเข้า-ออก ช่วงเย็นถึงค่ำได้ความโรแมนติก เวลาสะพานภูมิพลประดับไฟ ยิ่งสวยงาม เหมาะกับการมานั่งทานข้าวกับครอบครัว คู่รัก หรือนัดพบปะกับกลุ่มเพื่อนๆ การเดินทางไปยังร้านอาจดูซับซ้อนเล็กน้อย ที่จอดรถค่อนข้างจำกัดสักหน่อย (มีคนช่วยโบกหาที่จอดให้)
ห่างออกไป ประมาณ: 9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านอาหารและกาแฟแม่คูซีน เป็นร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศริมทะเลปากอ่าวไทย บริเวณบางปู นั่งกินลม ชมพระอาทิตย์ตก นั่งได้สบายๆ รับลมธรรมชาติ ร้านจัดแต่งในสไตล์เท่ๆ ด้วยการนำของเก่ามาตกแต่งใหม่ แนวเอาใจวัยรุ่น และคนชอบถ่ายรูป เป็นร้านทานข้าวกับครอบครัว นั่งทานข้าวชิลๆ กับเพื่อน หรือชมทะเลกับคนรัก บริเวณร้านมีที่ให้เดินเล่นชมวิว ร้านหาไม่ยาก แต่หากไม่มีรถส่วนตัวอาจไม่ค่อยสะดวก เพราะต้องเข้าซอย
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com