ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรปราการ (Samutprakan City Pillar Shrine) หรือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะ เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองสมุทรปราการ มีความผสมผสานทางวัฒนธรรม โดยมีเจ้าพ่อผู้คุ้มครองเมืองตามรูปแบบจีน และมีเสาหลักเมืองตามความเชื่อแบบพราหมณ์ฮินดู ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ในเขตชุมชนเมืองปากน้ำ สามารถโดยสารรถประจำทางได้สะดวก
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรปราการ ตั้งอยู่ริมถนนประโคนชัย ในตัวเมืองสมุทรปราการ ถนนด้านหน้าศาลหลักเมือง เป็นถนนวันเวย์ (เดินรถทางเดียว) บริเวณนี้อยู่ใกล้ป้ายรถเมล์ และข้างซอยศาลหลักเมืองเป็นจุดต่อรถสองแถว (คิวรถสองแถวสาย 36) จึงมีผู้คนมาต่อรถบริเวณนี้กันมาก
ศาลหลักเมืองแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ครั้งสร้างเมืองปากน้ำ โดยประกอบพิธีฝังหลักเมืองเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเมีย มีการฝังอาถรรพ์ ลงแผ่นยันต์องครักษ์ไว้ด้วย ศาลเดิมเป็นแบบทรงไทย ต่อมาได้ทรุดโทรมลง และมีการบูรณะซ่อมแซม เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2529 โดยเปลี่ยนรูปแบบเป็นศาลเจ้าแบบจีน ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจึงมีวัฒนธรรมความเชื่อแบบผสมผสานทั้งไทยและจีน สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบจีน เห็นได้ตั้งแต่ซุ้มประตูรั้วที่ตกแต่งแบบจีน ด้านข้างซุ้มประตูประดับด้วยสิงโตคู่ มีเสาฟ้าดินมังกร เตาเผากระดาษเงินกระดาษทอง ภายในศาลเจ้ามีภาพวาดฝาผนัง ประติมากรรมนูนต่ำ แผ่นป้ายตัวอักษรจีน การประดับโคมไฟจีน เป็นต้น
ที่จริงแล้วศาลหลักเมืองจังหวัดสมุทรปราการ มี 2 แห่งคือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง และศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ ศาลหลักเมืองพระประแดง อยู่ฝั่งอำเภอพระประแดง เป็นศาลที่มีพระพิฆเนศ ส่วนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ เป็นศาลเจ้าแบบจีน อยู่ทางตัวเมืองปากน้ำ ซึ่งศาลนี้มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ไม่มีที่จอดรถภายในศาล สามารถจอดด้านหลัง หรือหาที่จอดบริเวณอื่นแล้วเดินมา เมื่อเข้าไปในอาคารศาลเจ้า ตรงกลางมีโต๊ะสำหรับวางเครื่องสักการะ ด้านในสุดเป็นซุ้มขององค์เจ้าพ่อหลักเมือง ใกล้กันเป็นเสาหลักเมือง ซุ้มพระสังกัจจายน์ และองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม
องค์เจ้าพ่อหลักเมือง
องค์เจ้าพ่อหลักเมืองที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ เป็นองค์เทพผู้ที่คอยปกป้องคุ้มครองเมืองให้มีความร่มเย็นเป็นสุข องค์เจ้าพ่อมีลักษณะเป็นองค์เทพเจ้าตามคติความเชื่อแบบจีน ชื่อ เฉิงหวง (คำว่า เฉิง หมายถึง เมือง หรือกำแพงเมืองที่สร้างด้วยดิน ส่วนคำว่า หวง หมายถึง เทพเจ้า) เทพผู้มีหน้าตาน่าเกรงขาม มีพระมัสสุ(หนวด)ยาว องค์เทพเฉิงหวง ประทับอยู่ในซุ้มตรงกลางศาลเจ้า นั่งบนเก้าอี้ แต่งชุดเครื่องทรงสีทองในลักษณะของขุนนางจีนโบราณ สวมหมวกที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม ด้านข้างองค์เทพเฉิงหวง มีบริวารอยู่ในซุ้มด้านซ้ายและขวา
เสาหลักเมือง
เสาหลักเมือง ตั้งอยู่ทางขวามือของซุ้มเจ้าพ่อหลักเมือง มีลักษณะเป็นเสาไม้กลมทาสีทอง ทำจากไม้ชัยพฤกษ์** สูง 6 ศอกเศษ (ประมาณ 3 เมตร) ยอดด้านบนมีลักษณะกลมมนเป็นยอดบัวตูมแบบไทย (เหมือนกับเสาหลักเมืองกรุงเทพมหานคร) รอบเสาแกะสลักเป็นลายมังกรพันเสาแบบจีน ด้านหลังของเสาหลักเมืองทำเป็นซุ้มครึ่งซีกเปิดด้านหน้าตลอดแนวความสูงของเสา แต่ละวันมักจะมีผู้คนมาสักการะ และถวายผ้าแพรสี*** พันไว้รอบเสา จนบางครั้งแทบจะมองไม่เห็นตัวเสา หรือลวดลายของเสาหลักเมืองเลย
** ไม้ชัยพฤกษ์ เป็นหนึ่งในไม้มงคลของไทย ที่ให้ความหมายถึงการมีโชค มีชัยชนะต่อข้าศึกศัตรู มักใช้ในการทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างอาคารบ้านเรือน การลงเสาเอก เสาหลักเมือง ซึ่งเป็นพิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ โดยมีความเชื่อว่า การทำพิธีสร้างหลักเมือง เป็นประเพณีโบราณเพื่อเป็นนิมิตมงคล เป็นขวัญกำลังใจ ศูนย์รวมจิตใจของคนแต่ละกลุ่มชุมชน หมู่บ้าน ตำบล รวมไว้เป็นหนึ่ง
การตั้งเสาหลักเมืองนั้น จะต้องตั้งไว้ในย่านกลางเมือง หรือในทำเลที่เหมาะสม มีการตั้งเครื่องบวงสรวง บูชา ถวายเครื่องเซ่นไหว้แก่รุกขเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อบอกกล่าว และเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองนั้นๆ บางครั้งก็จะมีพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ การลงยันต์ การผูกดวงชะตา หรือทำพิธีสาปแช่งร่วมด้วย (สำหรับการฝังอาถรรพ์ อาจเป็นเพียงการสวดปลุกเสกอาคมไว้ ส่วนที่กล่าวกันว่าเป็นการนำคนเป็นฝังลงไปในหลุมด้วยนั้น ยังเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อพิสูจน์ หรืออาจเป็นเพียงตำนานเล่าขานกันสืบมาเท่านั้น)
*** การพันผ้าแพรสีต่างๆ เป็นความเชื่อแต่โบราณว่าเป็นการถวายเครื่องสักการะให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชา เช่นต้นไม้ ศาล เจดีย์ การใช้ผ้าแพรสีผูกเสาหลักเมือง จึงเป็นเหมือนการเคารพสักการะต่อรุกขเทวดาที่ประจำอยู่ในต้นไม้ที่นำมาทำเป็นเสาหลักเมืองนั่นเอง
การเดินทาง
ห่างจากท่าเรือข้ามฟากวิบูลย์ศรี 300 เมตร
ห่างจากหอชมเมืองปากน้ำ 500 เมตร
ห่างจากพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ 2 กิโลเมตร
ห่างจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 4 กิโลเมตร
ห่างจากฟาร์มจระเข้ 3 กิโลเมตร
เส้นทางรถยนต์
เส้นทาง ถนนสุขุมวิท -> ถนนประโคนชัย
1 | ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ขาออก) จากแยกบางนา ตรงมาทางจังหวัดสมุทรปราการ ผ่านซอยแบริ่ง อิมพีเรียลสำโรง แยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จนถึงสามแยกศาลากลางปากน้ำ (จะเห็นหอนาฬิกาทางขวามือ) ตรงแยกนี้ให้ตรงเข้าตัวเมือง |
2 | เมื่อตรงผ่านแยกมาแล้ว ตรงไปเรื่อยๆ จนผ่านหน้าวัดพิชัยสงคราม (วัดนอก) ไปไม่ไกลนัก จะเห็นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทางซ้ายมือ (สามารถจอดรถไว้ที่วัดพิชัยสงครามได้) |
รถโดยสารประจำทาง (ดูรายละเอียด เส้นทางรถประจำทาง)
รถเมล์ (ถนนสุขุมวิท)
- ขึ้นรถเมล์ที่ผ่านเส้นสุขุมวิท เข้าสู่ตัวจังหวัดสมุทรปราการ รถเมล์ที่ผ่านได้แก่ สาย 25, 102, 142, 507, 511, 536
- พอผ่านหน้าวัดพิชัยสงคราม ลงป้ายถัดไป ตรงหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเลย
รถไฟฟ้า BTS (สำโรง) + รถเมล์
- ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง จากนั้นเดินสกายวอล์คไปลงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามอิมพีเรียล
- จากนั้นต่อรถเมล์ได้ทุกสายที่บอกว่าไปปากน้ำ เช่น สาย 25, 102, 142, 507, 511, 536, 365 แล้วลงหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองได้เลย
รถไฟฟ้า BTS สมุทรปราการ (จะเปิดใช้ในปี 2561-2562)
- ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสมุทรปราการ จากนั้นเดินไปยังศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ประมาณ 700 เมตร
เรือข้ามฟาก (ท่าพระสมุทรเจดีย์ - ท่าเรือสมุทรปราการ) (ดูรายละเอียด เรือข้ามฟาก)
- นั่งเรือข้ามฟากจากท่าพระสมุทรเจดีย์ มาขึ้นที่ท่าเรือวิบูลย์ศรี (ตรงตลาดปากน้ำ) ออกจากท่าเรือแล้ว เดินตรงไปทางวงเวียนอนุสาวรีย์รถไฟสายปากน้ำ เพื่อทะลุไปยังถนนเส้นหน้าวัดพิชัยสงคราม เลี้ยวขวาไปหน่อยจะเห็นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ข้อมูลการติดต่อ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปากน้ำ
เวลาเปิด 5.30 - 19.00 น.
ที่อยู่ 83 ถนนประโคนชัย ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270
โทร 02-387-2118