วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร



วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร วัดไทย-รามัญในอำเภอพระประแดง ที่เคยมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ศิลปกรรมเก่าแก่ และจิตรกรรมโบราณที่ทรงคุณค่า สิ่งที่เด่นที่สุดคือบุษบกยอดปรางค์ที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ภายในพระอุโบสถ เป็นงานช่างสกุลวังหน้า ที่หาชมได้ยาก การเดินทางมาเที่ยวชมวัด มาได้หลายเส้นทาง ทั้งทางรถยนต์ หรือจะนั่งเรือข้ามฟากมาก็ได้

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ตั้งอยู่ในบริเวณชุมชนพระราชวิริยาภรณ์ ซอย 8 ถนนราชวิริยาภรณ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง วัดอยู่ติดคลองลัดหลวง ตรงข้ามฝั่งคลองกับวัดโปรดเกศเชษฐาราม หากเข้าจากถนนสุขสวัสดิ์ จะถึงวัดไพรชยนต์ฯ จะถึงก่อนวัดโปรดเกศฯ แต่ถ้ามาจากตลาดพระประแดง จะถึงวัดโปรดเกศฯ ก่อน  

วัดไพชยนต์พลเสพย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดปากลัด เพราะตั้งอยู่บริเวณปากคลองลัดหลวง บ้างก็เรียกว่า วัดวังหน้า หรือวัดกรมศักดิ์ก็มี วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในปี พ.ศ.2362 ซึ่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศักดิพลเสพ* เป็นแม่กอง มาดำเนินการสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ ป้อมปราการ และขุดคลองลัด ให้เสร็จลุล่วงจากที่ค้างไว้ เมื่อกรมหมื่นศักดิพลเสพสร้างเมืองเสร็จ ท่านจึงได้สร้างวัดขึ้นด้วย และเรียกวัดนี้ว่า วัดกรมศักดิ์ แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า วัดวังหน้า (ตามตำแหน่งของพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศักดิพลเสพ) ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานนามให้วัดใหม่ว่า วัดไพชยนต์พลเสพย์ โดยคำว่า "ไพชยนต์" มีความหมายถึงบุษบกยอดปรางค์ที่อยู่ภายในพระอุโบสถ ส่วนคำว่า "พลเสพ" นำมาจากคำท้ายชื่อของกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ

* พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศักดิพลเสพ หรือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ (พ.ศ.2328 - 2375) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 (เป็นลูกพี่ลูกน้องกับรัชกาลที่ 2) ทรงรับราชการในรัชกาลที่ 2 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (ผู้มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป)

เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาภายในเขตวัด จะเป็นบริเวณสำหรับประกอบพิธีฌาปณกิจ และศาลาสวดพระอภิธรรม จากนั้นจะมีลานจอดรถกว้าง จากลานจอดรถหากตรงไปจนสุดทาง เป็นบริเวณที่มีต้นไม้ร่มรื่นริมคลองลัด และมีเส้นทางเลี้ยวไปยังเขตพุทธาวาส ที่ตั้งของพระอุโบสถ พระวิหาร รอยพระพุทธบาท บุษบก และหลวงพ่อเนตร

พระอุโบสถ และพระวิหาร จะตั้งอยู่เคียงคู่อยู่ในอาณาเขตเดียวกัน โดยหันหน้าไปทางคลองลัดหลวงที่อยู่ทิศตะวันออก หากยืนหันหน้าเข้าหาอาคารทั้ง 2  ซ้ายมือจะเป็นวิหาร ส่วนขวามือเป็นพระอุโบสถ มีกำแพงแก้วล้อมรอบอาคารทั้ง 2 ไว้ มุมกำแพงแก้วมีวิหารคดอยู่ทั้ง 4 มุม ด้านหลังโบสถ์และวิหาร ประกอบด้วยเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งเรียงกัน 3 องค์

บริเวณโบสถ์ วิหาร และพระเจดีย์ มีกำแพงประดับช่องลมลวดลายจีน ซุ้มประตูกำแพงประดับลายปูนปั้น บานประตูเป็นภาพวาดเทพผู้พิทักษ์ในแบบจีน ด้านนอกกำแพงประดิษฐานพระพุทธรูปอริยาบทนั่ง ปางประธานพร และมีตุ๊กตาสิงห์แบบจีนประดับอยู่
 

พระอุโบสถ  

พระอุโบสถของวัด สร้างแบบก่ออิฐถือปูน มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมสไตล์จีน ตามแบบพระราชนิยมรัชกาลที่ 3 หลังคาไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันประดับด้วยลวดลายดอกไม้ ที่ประดิษฐ์จากเครื่องถ้วยชาม เครื่องเคลือบ ประกอบกับการแต่่งด้วยปูนปั้น เป็นลวดลายพรรณพฤกษาอ่อนช้อย แต้มสีสันตัดกันกับพื้นสีขาวดูโดดเด่นสวยงาม ตรงกลางหน้าบันประดับด้วยแจกันเคลือบแบบจีน ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้ประหนึ่งว่าปักอยู่ในแจกัน ขอบฐานด้านล่างของหน้าบันตกแต่งด้วยเครื่องเคลือบชิ้นเล็กชิ้นน้อย เป็นลายนูนสูง เป็นแนวโขดหิน วิวทิวทัศน์ และสัตว์มงคลตามตามแบบศิลปกรรมจีน เช่น ลิง ไก่ ม้า วัว นก เป็นต้น

ซุ้มประตูหน้าต่างภายนอกโบสถ์ ประดับด้วยเครื่องเคลือบและปูนปั้นลงสี ประกอบกันเป็นลวดลายดอกไม้ โดยเฉพาะกรอบด้านบนทำเป็นลายนูนสูงให้เห็นช่อดอกไม้บานแบบมีมิติ ส่วนบานประตูหน้าต่างแต่งด้วยลายรดน้ำเป็นลายพฤกษา ต้นไม้ และสัตว์หิมพานต์ ใบเสมาของโบสถ์เป็นแบบติดผนัง ไม่มีซุ้มเสมา

ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานปูนปั้นบุทอง ปางมารวิชัย ประทับอยู่ในบุษบกยอดปรางค์* ทำจากไม้สักแกะสลักประดับด้วยกระจกสี ถือเป็นงานชิ้นเอกของสกุลช่างวังหน้า บุษบกทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสหลังใหญ่ มีจตุรมุข คือซุ้มเล็กๆ (มุข) ยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน แต่ละมุขเอียงสอบเข้ามาตรงกลางตามลักษณะการเข้าไม้แบบช่างไทย หลังคาหน้ามุข 2 ชั้น ทรงจั่ว หันหน้าออกด้านนอก ประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และหน้าบันสลักเป็นลายเครือเถาก้านแย่ง ส่วนของเรือนยอดบนบุษบกทำเป็นหลังคาลดหลั่นลงมา 5 ชั้น แต่ละชั้นมีซุ้มบันแถลง ส่วนยอดนั้นทำเป็นยอดปรางค์ ตามแบบศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภายในซุ้มจตุรมุขประดิษฐานพระพุทธรูปในพุทธลักษณะเดียวกัน ขนาดหน้าตัก 1 ศอก 4 นิ้ว (ประมาณ 60 เซนติเมตร) ประจำอยู่ทุกด้าน ฝาผนังและเสาภายในโบสถ์ ติดวอลเปเปอร์ ลวดลายเดียวกันกับลวดลายผนังในพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย (ที่อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ) ส่วนจิตรกรรมฝาผนังเป็นสีน้ำแสดงเรื่องราวพุทธประวัติ พุทธชาดก และไตรภูมิพระร่วง

* บุษบก ในที่นี้เป็นเรือนเครื่องทรงสูง ลักษณะคล้ายกับพระมณฑปย่อส่วน มีซุ้มหลังคาซ้อนชั้นขึ้นไป ลดหลั่นจนเป็นยอดแหลม หรืออาจทำเป็นยอดปรางค์ (แทนที่จะเป็นยอดปลายแหลม จะทำเป็นยอดทู่ๆ แบบพระปรางค์แทน) แต่ละชั้นหลังคาประดับด้วยบันแถลง (มีลักษณะเหมือนหน้าบันเล็กๆ ที่ประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกาเล็กๆ ด้วย)

บุษบกยอดปรางค์หลังนี้ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (น้องของรัชกาลที่ 1) โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพระพุทธสิหิงค์ ครั้งที่ทรงอัญเชิญองค์พระลงมาจากเชียงใหม่ โดยนำมาไว้ยังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายหลังสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทเสด็จทิวงคต พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเกรงว่าอาจมีโจรมาขโมยทรัพย์สินมีค่าไป จึงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ไปประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) แต่ก็ไม่ได้นำบุษบกนี้ไปด้วย กระทั่งสมัยรัชกาลที่ 3 กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ (ลูกรัชกาลที่ 1) จึงขอบุษบกนี้มาประดิษฐานพระประธาน ณ วัดไพชยนต์พลเสพย์แทน
 

พระวิหาร

พระวิหาร เป็นอาคารที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบเดียวกันกับพระอุโบสถ ต่างกันที่ด้านหน้าและหลังของวิหารมีมุขยื่นออกมา มุขด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายเนตร* หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อเนตร ขนาดความสูง 1 วา 9 นิ้ว (ราว 2.22 เมตร) เป็นที่เคารพบูชาของชาวพระประแดงเป็นอย่างมาก ภายในซุ้มหลวงพ่อเนตรด้านในประดับกระจกสี และปูนปั้นลวดลายดอกไม้ ส่วนมุขด้านหลังพระวิหาร ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง บานประตูหน้าต่างของพระวิหาร เป็นลวดลายลงรักปิดทองสวยงาม

* พระปางถวายเนตร เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันอาทิตย์ พุทธลักษณะอยู่ในอริยาบทยืน ลืมพระเนตรทั้ง 2 เพ่งมองไปข้างหน้า พระหัตถ์ทั้งสองเหยียดลงมาประสานกันข้างหน้าระหว่างพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาวางอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย เป็นอาการที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมโพธิญาณแล้ว ยืนทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์โดยไม่กระพริบพระเนตรเลย เป็นเวลา 7 วัน

ภายในพระวิหาร ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1 วา 16 นิ้ว (ประมาณ 2.4 เมตร) เบื้องซ้ายและขวาขององค์พระ มีพระอัครสาวก พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร ผนังโดยรอบวิหารเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีความเก่าแก่ ทรงคุณค่า ด้านหลังพระประธานวาดเป็นภาพแสดงคติความเชื่อเรื่องไตรภูมิ สัตบริภัณฑ์คีรี ป่าหิมพานต์ และทวีปทั้งสี่ ส่วนผนังด้านตรงข้ามพระประธาน เป็นเรื่องท้าวมหาชมพู ทั้งยังเจาะผนังเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปอริยบทนั่ง หน้าตักกว้างประมาณ 16 นิ้ว จำนวนทั้งสิ้น 44 องค์ ภายในพระวิหารยังเป็นที่เก็บพระพุทธรูป โบราณวัตถุ และประติมากรรมเก่าแก่ เช่น ตู้ลายรดน้ำ พระพุทธรูปโบราณต่างๆ เป็นต้น พระวิหารนี้ โดยทั่วไปจะไม่ได้เปิดให้เข้าชม นอกจากมีงาน หรือมีหน่วยงานราชการ สถาบันศึกษา แสดงความจำนงค์ในการขอเข้าเยี่ยมชมในรูปการทัศนศึกษา
 

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด

- บุษบกยอดปรางค์ ภายในพระอุโบสถ
- หลวงพ่อเนตร หน้าพระวิหาร
- รอยพระพุทธบาท หลังพระวิหาร
- พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
 

ข้อแนะนำ

- หากต้องการเข้าชมวิหาร ควรติดต่อล่วงหน้า ปกติจะไม่ได้เปิดให้เข้าชมภายใน
- หากนั่งเรือข้ามฟาก ท่าสาธุประดิษฐ์ - คลองลัดหลวง เรือจะมาขึ้นหลังวัดโปรดเกศเชษฐาราม สามารถเดินมาที่วัดไพชยนต์พลเสพย์ได้

การเดินทาง

ห่างจากวัดโปรดเกศเชษฐาราม   400 เมตร
ห่างจากตลาด / ท่าเรือพระประแดง   2 กิโลเมตร
ห่างจากตลาดบางน้ำผึ้ง   6 กิโลเมตร
 

เส้นทางรถยนต์

เส้นทาง ถนนสุขสวัสดิ์ -> เลี้ยวไปทางสะพานภูมิพล -> ถ.พระราชวีริยาภรณ์

1 ใช้เส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าพระประแดง จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปสะพานภูมิพล 1, 2
2 เมื่อเลี้ยวแล้ว ตรงเลาะเลนซ้ายไปเรื่อยๆ (ไม่ขึ้นสะพาน) ตามป้าย ถ.พระราชวีริยาภรณ์ ซึ่งจะมาสุดตรงสามแยก จากนั้นเลี้ยวซ้าย (มีป้ายบอกทางไปสวนสุขภาพลัดโพธิ์)
3 พอเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลนัก จะเจอสี่แยก ให้ตรงเข้าซุ้มประตูทางเข้าวัดไป ตรงไปราว 300 เมตร ก็จะเข้าสู่บริเวณวัด

* หากใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ตามป้ายบอกทางดาวคะนองมาเรื่อยๆ พอข้ามสะพานพระราม 9 (สะพานแขวน) ชิดซ้าย ออกถนนสุขสวัสดิ์ จากนั้นตรงไปไม่ไกล จึงเลี้ยวซ้ายตามป้ายทางขึ้นสะพานภูมิพล (แต่ไม่ขึ้นสะพาน)

 

เส้นทาง ถนนราษฎร์บูรณะ -> ถ.พระราชวีริยาภรณ์

1 ใช้เส้นทางถนนราษฎร์บูรณะ* จากแยกบุคคโล มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ ผ่านบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ธ.กสิกรไทยสาขาใหญ่ วัดรวก ตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางจะเชื่อมต่อกับ ถ.พระราชวีริยาภรณ์ ซึ่งทางเข้าวัดไพรชยนต์ จะอยู่ทางซ้ายมือ

* ถนนราษฏร์บูรณะ เป็นถนนเลียบชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ถนน 6 เลน แบบมีเกาะกลาง มีระยะทางสั้นๆ ประมาณ 5 กิโลเมตร ต่อมาจากถนนเจริญนคร (กรุงเทพฯ) เส้นทางจะตรงเชื่อมต่อกับ ถนนพระราชวีริยาภรณ์ (สมุทรปราการ)

 

รถโดยสารประจำทาง (ดูรายละเอียด เส้นทางรถประจำทาง)

รถเมล์

- นั่งรถเมล์สาย 6 มาทางสมุทรปราการ ผ่านบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ธ.กสิกรไทยสาขาใหญ่ วัดรวก พอถึงสี่แยกตรงหน้าวัดไพชยนต์พลเสพย์ ลงรถตรงแยกแล้วเดินเข้าวัด

สาย 6 บางลำพู - พระประแดง

เส้นทางเดินรถ: แยกบางลำพู - วัดชนะสงคราม - เลี้ยวเข้าถนนราชดำเนินกลาง - แยกคอกวัว - ศึกษาภัณฑ์ - วนวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย - กองสลาก - สนามหลวงฝั่งริมคลองหลอด (พระแม่ธรณีบีบมวยผม) - หน้าศาลฎีกา - ศาลหลักเมืองกรุงเทพ - หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน - เลี้ยวซ้ายข้างสวนเข้าเชตุ - แยกบ้านหม้อ - เลี้ยวเข้าถนนตรีเพชร - โรงเรียนสวนกุหลาบ - สะพานพุทธ - เลี้ยวเข้าถนนสมเด็จเจ้าพระยา - แยกท่าดินแดง - โรงพยาบาลตากสิน - ถนนเจริญนคร - ท่าน้ำคลองสาน - วัดเศวตฉัตร - แยกบุคคโล - ถนนราษฎร์บูรณะ - บิ๊กซีจัมโบ้ราษฎร์บูรณะ - ธนาคารกสิกรไทย(สำนักงานใหญ่) - ถนนพระราชวีริยาภรณ์ - วัดไพชยนต์พลเสพย์ - ถนนนครเขื่อนขันธ์ - วัดกลาง - เข้าเมืองพระประแดง - วัดพระยาปราบปัจจามิตร - ตลาดพระประแดง - ศาลหลักเมืองพระประแดง - วนไปจอดริมท่าน้ำพระประแดง

 

เรือข้ามฟาก (ดูรายละเอียด เรือข้ามฟาก)

- ลงเรือข้ามฟาก ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ - ท่าคลองลัดหลวง (หรือเรียก ท่าวัดโปรดเกศเชษฐาราม) จะมาขึ้นหลังวัดโปรดเกศเลย เดินออกมาวัดอยู่ซ้ายมือ (เป็นท่าเรือสำหรับ จักรยาน + คน)

 

ข้อมูลการติดต่อ วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร

ที่อยู่  1 หมู่ 5 ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130
โทร 02-462-6033
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/วัดไพชยนต์พลเสพย์-ราชวรวิหาร-341004859250346/

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นวัดไทย-พุทธเพียงวัดเดียวในย่านพระประแดง วัดที่มีมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรม และงานจิตรกรรมเก่าแก่ ถือเป็นมรดกตกทอดจากช่างฝีมือในยุคเก่า ชมพระมณฑปกลางน้ำ กราบนมัสการพระพุทธชินนาถศาสดา และพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่มีการจัดงานสงกรานต์ ปล่อยนกปล่อยปลาประจำทุกปี การเดินทางมาวัดได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ หรือจะมาเรือข้ามฟาก ก็มีท่าเรือข้ามฟากอยู่ตรงวัดเลย
ห่างออกไป ประมาณ: 1.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดทรงธรรมวรวิหาร (Wat Songdham Worawihan) อำเภอพระประแดง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองนครเขื่อนขันธ์ ในสังกัดรามัญนิกาย วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเป็นวัดแรกพร้อมการสร้างเมือง ที่มีประวัติความเป็นมานานกว่า 200 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมอญที่อยู่ในถิ่นฐานพระประแดง ภายในวัดมีพระมหาธาตุรามัญเจดีย์ในรูปแบบมอญ เสาหงส์ ธงตะขาบ สัญลักษณ์แสดงตัวตนของชาวมอญ ที่ได้รับการสืบทอดทางวัฒนธรรมประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน และที่วัดยังเป็นศูนย์กลางการจัดงานประเพณีแห่หงส์ ธงตะขาบ ในช่วงสงกรานต์ประจำทุกปีอีกด้วย การเดินทางมาวัดสะดวก หาง่าย อยู่ใกล้ตลาดพระประแดง
ห่างออกไป ประมาณ: 1.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลพระเสื้อเมือง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ศาลเจ้าแม่" เป็นอีกศาลหนึ่งในย่านพระประแดง ที่ชาวพระประแดงให้ความเคารพศรัทธากันมาก ศาลนี้ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้กับศาลหลักเมืองพระประแดง และป้อมแผลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวชมที่เดินถึงกันได้ไม่ไกลนัก การเดินทางมาตลาดพระประแดง และศาลพระเสื้อเมือง เดินทางมาได้ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนสุขภาพลัดโพธิ์ เป็นสวนสาธารณะบริเวณใต้สะพานภูมิพล ในย่านพระประแดง สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผู้คนได้มานั่งเล่น เดินเล่น แวะให้อาหารปลา ชวนกันมาวิ่งออกกำลังกาย ชมวิวสะพานภูมิพล เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของสะพานภูมิพล และชุมชนย่านพระประแดง นอกจากนี้ภายในสวนสุขภาพ มีพิพิธภัณฑ์วงแหวนอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นจุดนัดพบของชาวนักปั่น นัดกันเที่ยวในช่วงวันหยุด การเดินทางมายังสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ไม่ซับซ้อน และมีลานจอดรถในบริเวณนี้ด้วย
ห่างออกไป ประมาณ: 1.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง (Phra Pradaeng City Pillar Shrine) เป็นศาลหลักเมืองแห่งเดียวที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความศรัทธาของชาวพระประแดง และชาวปากน้ำ แต่ละวันจะมีผู้คนมากราบสักการะ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ความสำเร็จ สมปรารถนา และช่วยขจัดปัดเป่าความไม่ดีในชีวิต ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้ศาลพระเสื้อเมือง และป้อมแผลงไฟฟ้า การเดินทางสะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ป้อมแผลงไฟฟ้า (Phlaeng Faifa Fortress) หนึ่งในป้อมปราการสำคัญที่ตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นป้อมเดียวในอำเภอพระประแดงที่ยังคงมีสภาพเหลือให้เห็นค่อนข้างสมบูรณ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งนี้ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน เพื่อการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ชาติไทย สำหรับอนุชนคนรุ่นหลัง ได้รำลึกถึงอดีต ป้อมนี้อยู่ติดกับตลาดเทศบาล มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึงได้ และสามารถเดินทางมาโดยรถเมล์ หรือเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 4.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
คุ้งบางกะเจ้า เป็นพื้นที่สีเขียวที่ยังคงเหลือไว้ให้เป็นปอดของคนเมือง ทั้งคนกรุงเทพฯ และชาวสมุทรปราการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศึกษาระบบนิเวศธรรมชาติ และชมวิถีชีวิตชุมชน เหมาะกับการเที่ยวแบบวันเดียวจบ ชวนครอบครัว และกลุ่มเพื่อน เติมพลังให้กับชีวิต ด้วยการปั่นจักรยานเที่ยว เพิ่มออกซิเจนให้ปอด ชื่นชมธรรมชาติสีเขียวที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เที่ยวแนวอีโค่ทริป ชวนกันไปทำกิจกรรมชิคๆ ย้อมผ้าบาติกมัดย้อม ธูปหอมสมุนไพร ชมพิพิธภัณฑ์ปลากัดของไทย สัมผัสวิถีชีวิต Slow life นั่งชมเรือใหญ่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหว้พระในวัดเก่าแก่ เดินช้อป แวะชิมของกินมากมายในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และยังมีที่เที่ยวเชิงศึกษานิเวศชุมชนท้องถิ่นอีกมากมาย มีจักรยานให้เช่าหลายจุด เดินทางมาง่าย จะเอารถมาเองหรือไม่ ก็ไม่ลำบากเลย
ห่างออกไป ประมาณ: 5.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ หนึ่งในไฮไลท์ของการปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า หากไม่ได้แวะมาที่นี่ เท่ากับว่ายังมาไม่ถึงคุ้งบางกะเจ้าก็ว่าได้ เที่ยวชมสวนที่มีความเป็นธรรมชาติทั้งที ต้องขี่จักรยานเที่ยว ซอกแซกมุดซุ้มต้นไม้ สูดอากาศให้เต็มปอด พักสายตากับสีเขียวของต้นไม้ ใต้ความร่มรื่นของสวนป่า ให้อาหารปลา เดินชมวิวสบายตาที่สะพานไม้ริมบึงใหญ่ แล้วชักชวนกันไปปีนหอดูนก ปิดท้ายด้วยยกก๊วนโพสท่าถ่ายรูปเก๋ๆ กับลานไม้ระแนงก่อนกลับ นับว่าเป็นสวนที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ห่างออกไป ประมาณ: 5.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง (Bangnamphung Floating Market) ในคุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง ตลาดต้องชมของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตลาดนัดท้องถิ่นขนาดใหญ่ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดช้อป นัดมาชิมกันทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ แหล่งอาหารการกิน ของคาวของหวาน ของกินเล่น ของสดของแห้ง ผักผลไม้ สินค้าพื้นถิ่น ยังเป็นเที่ยวชมของผู้ที่มาปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า การเดินทางรถยนต์ ตลาดนี้รถยนต์เข้าถึงได้ แม้ไม่มีรถก็มีรถโดยสารประจำทางท้องถิ่น และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 5.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ตั้งอยู่ในบริเวณคุ้งบางกะเจ้า ใกล้กับสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของปลากัด ที่เคยอยู่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตคนไทยมาตั้งแต่ยุคเก่าก่อน นำมาต่อสู้พนันขันต่อจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ปัจจุบันได้นำมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม หรือเป็นงานอดิเรก นับเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับปลากัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ที่พิพิธภัณฑ์ มีปลาให้ชม ได้เพิ่มเติมความรู้เรื่องปลากัด และยังเป็นสถานที่พักผ่อน มีความร่มรื่น แวะมาเที่ยวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อยู่ในเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า ที่รถยนต์เข้าถึงได้ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ​์
ห่างออกไป ประมาณ: 5.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
บ้านธูปหอมสมุนไพร อยู่ในบริเวณคุ้งบางกะเจ้า ใกล้กับตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า บ้านธูปหอมสมุนไพร เปิดชมในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ร่วมทำกิจกรรมเบาๆ เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่มาก ในการลงมือทำธูปหอมไล่ยุง และผ้ามัดย้อม งานวิถีชาวบ้านที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น กิจกรรมนี้เหมาะกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแนะนำชาวต่างชาติให้มาร่วมสืบสานวิถีชีวิตในแบบไทยๆ
ห่างออกไป ประมาณ: 6.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ฟาร์มเห็ดช่างแดง เป็นฟาร์มที่อยู่ในคุ้งบางกะเจ้า นับเป็นหนึ่งในแหล่งเที่ยวชมภูมิปัญญาทางการเกษตรชุมชน ได้เห็นวิถีชีวิตการทำอาชีพเพาะเห็ด เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ชาวต่างชาติ และผู้ที่สนใจเรียนรู้การทำก้อนเห็ด เพาะเห็ด และศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพได้ ทางไปฟาร์มเห็ดช่างแดงมีรถยนต์เข้าถึง หรือคนที่ปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้าอยู่แล้ว จะแวะชมก็อยู่ไม่ไกลจากวัดบางน้ำผึ้งนอก
ห่างออกไป ประมาณ: 6.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดบางน้ำผึ้งนอก วัดเก่าแก่อายุราว 350 ปี โบราณสถานที่ยังคงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย แวะกราบขอพรหลวงพ่อใหญ่ ชมภาพจิตรกรรมในพระอุโบสถหลังเก่า ที่เป็นตำนานเล่าขาน บนบานหน้าต่างโบสถ์ ที่มาของคำว่ามอญแหวก (ปัจจุบันภาพเลือนลางไปมาก) เดินเล่นชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำ มีศาลาให้นั่งพัก ถ่ายภาพแม่น้ำมุมกว้าง และมีท่าเรือข้ามฟากใหญ่ ที่ข้ามมาจากวัดบางนานอก เพื่อจะไปยังตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง บริเวณวัดมีร้านเช่าจักรยาน และร้านค้ามากมาย
ห่างออกไป ประมาณ: 8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) เป็นสถานที่แสดงศิลปกรรมในแนวอุดมคติ ที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อทางศาสนา และจักรวาล เกิดจากการสร้างสรรค์ความงามทางตะวันออกแบบไทย ผสมผสานกับงานศิลปะตะวันตก ก่อให้เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่วิจิตรงดงามและทรงคุณค่า ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม วิจิตรศิลป์ และประณีตศิลป์อันละเอียดอ่อน ทั้งยังเป็นสถานที่จัดเก็บรักษาโบราณวัตถุ ของเก่าของสะสมของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้รักและหลงใหลในงานศิลปะอีกด้วย การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไม่ยากเลย สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ก่อนเข้าตัวเมืองปากน้ำ มีรถเมล์ผ่านหลายสาย และจะมีรถไฟฟ้า BTS ผ่าน
ห่างออกไป ประมาณ: 9.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกิจการทหารเรือ ที่เคยใช้งานจริงในกองทัพเรือไทย ทั้งยังจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เรือจำลองสมัยต่างๆ เพื่อเป็นการให้ความรู้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวชมในวันหยุด นักเรียนนักศึกษามาทัศนศึกษา เป็นการได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวก มาโดยรถโดยสารก็ไม่ยุ่งยาก มีรถเมล์ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์หลายสาย
ห่างออกไป ประมาณ: 9.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พระสมุทรเจดีย์ หรือพระเจดีย์กลางน้ำ* ปูชนียสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 2 เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์รวมแห่งจิตใจและจิตวิญญานของชาวปากน้ำ มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นเจดีย์ที่มีพระเจ้าแผ่นดิน 4 รัชกาลช่วยกันปรับปรุง ทำนุบำรุงรักษา จนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความผสมผสานทางสถาปัตยกรรมทั้งไทย จีน ยุโรป บริเวณองค์พระสมุทรเจดีย์จะมีงานเฉลิมฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่ทุกปี งานแห่ผ้าห่มองค์พระเจดีย์ ที่มีมานานกว่า 180 ปี การเดินทางไปยังพระสมุทรเจดีย์สะดวก ทั้งรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ร้านอาหารใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้าน ณ นารายณ์ ร้านอาหารไทยเล็กๆ สไตล์เรือนไทยริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น เป็นร้านเก่าแก่ในอำเภอพระประแดง สงบเงียบ เรียบง่าย รับลมธรรมชาติ ชมวิวสะพานภูมิพล นั่งมองเรือใหญ่แล่นผ่านไปมา ช่วงเย็นถึงค่ำได้ความสวยงามโรแมนติก เหมาะกับพาครอบครัวมารับประทานอาหาร ทางเข้าร้านอาจซับซ้อนนิดหน่อย ใกล้กับร้านมีลานจอดรถเล็กๆ
ห่างออกไป ประมาณ: 0.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านบ้านสุขสวัสดิ์ ปลาแม่น้ำ เป็นร้านอาหารย่านพระประแดง (ฝั่งธนบุรี) อยู่ก่อนขึ้นสะพานภูมิพล (ร้านอยู่ริมถนน ไม่ได้ติดแม่น้ำ) ร้านมีสไตล์นั่งทานในสวนหลังบ้าน เสริฟอาหารรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เอาใจคนชอบทานปลา (โดยเฉพาะปลาแม่น้ำ) เป็นร้านที่เหมาะกับครอบครัว หรือนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ ร้านอยู่ริมถนน หาไม่ยาก เดินทางสะดวก ทางร้านมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านระเบียงริมน้ำ ร้านอาหารมีชื่อย่านพระประแดง บรรยากาศติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านสไตล์ง่ายๆ ไม่หรูหรามาก ตอนกลางวัน เห็นวิวสะพานภูมิพล นั่งมองเรือสินค้าลำใหญ่แล่นเข้า-ออก ช่วงเย็นถึงค่ำได้ความโรแมนติก เวลาสะพานภูมิพลประดับไฟ ยิ่งสวยงาม เหมาะกับการมานั่งทานข้าวกับครอบครัว คู่รัก หรือนัดพบปะกับกลุ่มเพื่อนๆ การเดินทางไปยังร้านอาจดูซับซ้อนเล็กน้อย ที่จอดรถค่อนข้างจำกัดสักหน่อย (มีคนช่วยโบกหาที่จอดให้)
ห่างออกไป ประมาณ: 3.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านส้มตำพาเพลิน สาขาดั้งเดิม ตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ ย่านพระประแดง ร้านที่เน้นอาหารประเภทส้มตำจานโต สำหรับสาวกคนชอบส้มตำรสแซบต้องตามมาชิม แวะมาลิ้มลองความจัดจ้านของส้มตำ และอาหารอีสาน ร้านอยู่ริมถนน ใกล้ทางยกระดับทางด่วนกาญจนาภิเษก เดินทางมาได้ไม่ยาก ภายในร้านมีที่จอดรถอยู่บ้าง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านก้ามปู ร้านอาหารเก่าแก่บนถนนเทพารักษ์ เปิดมานานกว่า 30 ปี เป็นที่รู้จักและเป็นร้านประจำของหลายๆ คน ร้านนั่งทานข้าวบรรยากาศแบบไทยๆ ภายใต้ความร่มรื่นราวสวนป่า เหมาะกับการต้อนรับแขก ทานกับครอบครัว ผู้สูงอายุ เด็กๆ คู่รัก หรือนัดกลุ่มเพื่อน เหมือนนั่งทานข้าวในสวนหลังบ้าน ได้พักผ่อนสบายๆ แบบไม่วุ่นวาย ไม่รีบร้อน เสริฟอาหารไทยประเภทกับข้าว ของคาวของหวานมากมาย เดินทางสะดวก อยู่ริมถนน หาไม่ยาก (ทางเข้าอาจดูยากนิดนึง)
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com