วัดโปรดเกศเชษฐาราม



วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นวัดไทย-พุทธเพียงวัดเดียวในย่านพระประแดง วัดที่มีมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรม และงานจิตรกรรมเก่าแก่ ถือเป็นมรดกตกทอดจากช่างฝีมือในยุคเก่า ชมพระมณฑปกลางน้ำ กราบนมัสการพระพุทธชินนาถศาสดา และพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่มีการจัดงานสงกรานต์ ปล่อยนกปล่อยปลาประจำทุกปี การเดินทางมาวัดได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ หรือจะมาเรือข้ามฟาก ก็มีท่าเรือข้ามฟากอยู่ตรงวัดเลย

วัดโปรดเกศเชษฐาราม ตั้งอยู่ริมคลองลัดหลวง* บนถนนทรงธรรม ในตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง ซึ่งเป็นจุดตรงข้ามกันกับวัดไพรชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร (ในตำบลบางพึ่ง) หากเข้าทางถนนพระราชวิริยาภรณ์ จะผ่านวัดไพรชยนต์ก่อน พอข้ามสะพานข้ามคลองลัดหลวง แล้วจึงจะเป็นวัดโปรดเกศฯ

* คลองลัดหลวง เป็นคนละคลองกับคลองลัดโพธิ์ อยู่ไม่ไกลกันนัก คลองลัดหลวงขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ก่อนขุดคลองลัดโพธิ์ ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นทางลัดจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนลงสู่ตอนล่าง โดยไม่ต้องไปเสียเวลาอ้อมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงคุ้งบางกะเจ้า เป็นการขุดเชื่อมต่อกับคลองเจ้าเมือง ไปทะลุออกคลองตาลาว ต่อมาได้ทำการถมคลองบางส่วน เพราะเกรงว่า อาจเป็นเส้นทางที่ข้าศึกสามารถเข้ามาประชิดพระนครได้รวดเร็วขึ้นด้วย ปัจจุบันบริเวณปากคลองได้ทำประตูทางน้ำปิดกั้นไว้ เรือไม่สามารถแล่นผ่านจากแม่น้ำตอนบนไปตอนล่างได้

วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า วัดปากคลอง เพราะทางเหนือของวัด ตรงบริเวณปากคลองลัดหลวง เดิมมีศาลาที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ขณะนั้นไม่มีพระภิกษุจำพรรษา จนต่อมาในปี พ.ศ.2365 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดเกล้าให้พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นศักดิพลเสพ เป็นแม่กองในการสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ และป้อมปราการต่างๆ ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนั้นมีพระยาเพชรพิไชย (เกตุ) ช่วยเป็นพี่เลี้ยงในการก่อสร้าง เมื่อสร้างเมืองแล้วกรมหมื่นศักดิพลเสพ ได้สร้างวัดไพรชยนต์พลเสพย์ขึ้นทางริมฝั่งตะวันตกของคลองลัดหลวง ส่วนพระยาเพชรพิไชย (เกตุ) จึงขอสร้างวัดในฝั่งตรงข้ามกัน ทางทิศตะวันออกของคลอง โดยนำวัสดุที่เหลือจากการสร้างวัดไพชยนต์พลเสพย์ มาตกแต่งที่วัดโปรดเกศฯ นี้ วัดทั้งสองจึงเสมือนเป็นวัดพี่วัดน้องที่สร้างเสร็จในปีเดียวกัน ในช่วงแรกนั้นชาวบ้านยังคงเรียกว่าวัดปากคลอง จนกระทั่งภายหลังได้รับพระราชทานนามว่า “วัดโปรดเกศเชษฐาราม” และได้รับวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ.2368

สิ่งปลูกสร้างภายในวัด แต่เดิมนั้นประกอบด้วย พระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ทรงลังกา 2 องค์ หอระฆัง ศาลาการเปรียญไม้ใต้ถุนสูง และที่พำนักสงฆ์เพียงไม่กี่หลัง ส่วนพระมณฑปได้สร้างขึ้นในภายหลัง ในครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ให้พระยาเพชรพิไชย (เกตุ) มาต่อเติมเพิ่มแต่งวัดให้เสร็จสมบูรณ์ และดูแลสืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงรุ่นลูกของพระยาเพชรพิไชย (เกตุ)* ได้แก่ พระยาเพชรพิไชย (หนู) ผู้บูรณะพระอุโบสถ เขียนลวดลายบนเพดาน ทั้งโบสถ์และวิหารจนแล้วเสร็จ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2542 กองอนุรักษ์โบราณสถาน กรมศิลปากร ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลการบูรณะปฏิสังขรพระอุโบสถเป็นครั้งใหญ่อีกครั้ง

* พระยาเพชรพิไชย เกตุ (ผู้เป็นต้นตระกูลเกตุทัต) เป็นบุตรของพระยาเพชพิชัย หง (ต้นตระกูลหงสกุล) ทั้ง 2 ตระกูลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่ เป็นผู้ที่เคยทำงานรับใช้ใกล้ชิดกับราชวงศ์มาตั้งแต่เริ่มตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมามีตระกูลกัษปะเกศเพิ่มขึ้นมาจนกลายเป็นตระกูลสามพี่น้อง

เมื่อผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาในเขตพุทธาวาส ส่วนของด้านหน้าเป็นลานจอดรถกว้างขวาง จอดได้สะดวก จากนั้นจะเป็นถนนเล็กๆ ตัดผ่านตรงกลางไปยังด้านใน ด้านซ้ายของถนนเป็นพระอุโบสถ อยู่ภายในกำแพงแก้วเตี้ย (มองเห็นซุ้มเสมาโดยรอบ) ถัดจากพระอุโบสถไปเป็นอาคารวิหาร ที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมในรูปแบบเดียวกัน และอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ต่อเนื่องเสมือนเป็นส่วนเดียวกันด้วย ส่วนด้านขวาของถนนเล็กๆ นี้ เป็นที่ตั้งของพระมณฑปกลางน้ำ สุดทางถนนเล็กๆ เข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของสังฆาวาส

จากบริเวณลานจอดรถด้านหน้า หากเดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือ จะมีถนนเลียบริมคลอง เป็นคลองลัดหลวงที่ใกล้ส่วนที่จะออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนเหนือ หากเดินไปตามถนนไปเรื่อยๆ ด้านขวามือจะเป็นด้านหลังของโบสถ์ และวิหาร ทั้งยังมีเจดีย์ทรงระฆังขนาดย่อมตั้งอยู่ 2 องค์ ส่วนด้านที่ติดริมคลองลัดหลวง จัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ สลับกับศาลาพื้นหินอ่อนหลังใหญ่ตั้งอยู่เป็นช่วงๆ ชายคลองมีศาลาท่าน้ำ และทางเดินให้ลงไปบริเวณริมน้ำด้วย
 

พระอุโบสถ  

พระอุโบสถของวัดเป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานของ 3 ชาติ คือไทย จีน และชาติตะวันตก พระอุโบสถก่ออิฐถือปูน สร้างตามแบบศิลปะพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 (สถาปัตยกรรมไทยผสมจีน) หลังคาเรียบ ไม่ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันมีขนาดใหญ่ ประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษา ใช้เครื่องลายครามทรงกลม ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นให้เป็นดอกไม้ และช่อดอก ได้เป็นลวดลายเครือเถาก้านแย่งที่อ่อนช้อย กรอบประตูหน้าต่างภายนอก ตกแต่งด้วยปูนปั้นนูนสูง เป็นลายดอกพุดตานลงสีทองตัดกับผนังโบสถ์สีขาวดูสะดุดตา รอบๆ โบสถ์ มีใบเสมาหินทราย ตั้งอยู่ภายในซุ้มรูปแบบหัวเม็ด ทั้ง 4 ทิศของโบสถ์ มีศาลารายสไตล์จีนตั้งอยู่ทั้ง 4 ด้าน และที่มุมกำแพงทางทิศใต้ มีเจดีย์ทรงปรางค์ตั้งอยู่มุมละ 1 องค์  

ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งในปี พ.ศ.2553 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานนามว่า "พระพุทธชินนาถศาสดา" มีความหมายว่า พระศาสดาที่ทรงเป็นที่พึ่ง เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะ พุทธลักษณะปางมารวิชัย หนัาตัก 2 ศอก 1 นิ้ว (ประมาณ 1.2 เมตร) ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีสูงที่ทำจากกระเบื้องเคลือบแบบดั้งเดิม ภายในบุษบกลวดลายสวยงาม ด้านหน้าพระประธาน มีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร อยู่ในอริยาบทยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นเสมอพระอุระ (อก) อยู่หลายองค์ ผนังด้านหลังพระประธาน เยื้องไปทางซ้ายและขวา เจาะผนังเป็นช่องลึกทรงสูง ด้านในเป็นปูนปั้นอัครสาวกแบบลอยตัว ยืนพนมมือหันหน้าเข้าหาพระประธาน

ภายในโบสถ์ไม่มีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเต็มผนังเหมือนโบสถ์อื่นทั่วไป แต่จะใช้วิธีเจาะช่องกำแพง และวาดภาพพุทธสาวก ภิกษุ ภิกษุณี ไว้ในช่องเหล่านั้นแทน เหนือบานประตูหน้าต่าง ยังประดับด้วยภาพเขียนเก่าใส่กรอบ เป็นภาพเขียนด้วยสีฝุ่น แบบเปอร์สเปคทีฟ (Perspective) ให้ความรู้สีกเป็น 3 มิติ ในภาพแสดงทัศนียภาพอาคารบ้านเรือนแบบชาวตะวันตก เป็นภาพเก่าที่หาดูได้ยาก เสาภายในพระอุโบสถ เป็นเสาลอยทรงสี่เหลี่ยมลบมุม เสาแต่ละต้นติดภาพพระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์
 

พระวิหาร

ตั้งอยู่ถัดจากพระอุโบสถไปด้านข้าง อยู่ไม่ไกลกันนัก สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยและจีนเช่นเดียวกับพระอุโบสถ มีหน้าบันขนาดใหญ่ประดับชามสังคโลกประกอบปูนปั้นเป็นลายเครือเถาเช่นกัน ภายในวิหารประดิษฐาน "พระพุทธไสยาสน์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2365 (ประมาณ 195 ปีมาแล้ว) พระพุทธรูปมีความยาว 6 วา 2 ศอก (ประมาณ 13 เมตร) เป็นปูนปั้นลงรักดำ ปิดทองเหลืองอร่ามตลอดทั้งองค์ ปลายพระบาททั้ง 2 วางเสมอกัน ที่ฝ่าพระบาทเป็นงานประดับมุก ลายมงคล 108 ประการ* นับเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม ทั้งยังเป็นต้นแบบของการหล่อพระนอนวัดโพธิ์อีกด้วย

ภายในวิหารสามารถปิดทองที่องค์พระได้ ยกเว้นบริเวณฝ่าพระบาท ที่ต้องการแสดงภาพมงคล 108 ให้เห็นเด่นชัด

* มงคล 108 ประการ ที่เห็นตามรอยพระพุทธบาทจำลอง หรือที่ฝ่าพระบาทพระพุทธไสยาสน์ เช่นที่พระนอนวัดโพธิ์ หรือที่วัดโปรดเกศฯ นี้ ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมหาบุรุษลักษณะ ประกอบด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคลมากมาย ซึ่งแสดงถึงพระบารมีขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ปรากฏเป็นรูปสัญลักษณ์ของสวรรค์ ศาสตราวุธ ปราสาท เครื่องใช้ จักรราศี ไม้หอม กลีบดอกบัว เป็นต้น


เจดีย์ทรงลังกาองค์ใหญ่

เป็นเจดีย์สีขาวขนาดย่อม 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านหลังของโบสถ์ และวิหาร สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มสร้างวัด มีลักษณะตามแบบเจดีย์สมัยอยุธยา เป็นเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำ เหนือองค์เจดีย์ขึ้นไป เป็นบัลลังก์ เสาหาน ก้านฉัตร ปล้องไฉน ปลียอด และหยดน้ำค้าง รอบองค์เจดีย์มีกำแพงแก้วทรงกลมรอบฐาน ถัดออกไปเป็นลานประทักษิณ และรอบนอกมีกำแพงแก้วเตี้ยๆ ล้อมเป็นกรอบสี่เหลี่ยมกั้นอีกชั้นหนึ่ง
 

พระมณฑปเจดีย์

สร้างขึ้นภายหลังจากการสร้างโบสถ์และวิหาร ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหาร พื้นที่พระมณฑป* เป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส มีคูน้ำล้อมรอบ คล้ายเกาะกลางน้ำ มีสะพานเดินเชื่อมถึง เมื่อเข้าไปในบริเวณมณฑป จุดแรกจะเป็นศาลปู่ฤาษีนาคสิทธิโคดก ที่ชาวพระประแดงให้ความเคารพนับถือมาก มักจะมีผู้คนมากราบเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรให้ช่วยในเรื่องสุขภาพ โชคลาภต่างๆ

บริเวณพระมณฑป มีพื้นรอบนอกปูด้วยกระเบื้องตัวหนอน จัดแต่งด้วยไม้กระถางและไม้พุ่ม จากนั้นจะเป็นพื้นที่ภายในกำแพงแก้ว ที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมผสมผสานกันหลายชาติ ดูสอดคล้องเข้ากันอย่างลงตัว แนวกำแพงแก้วมีศาลารายสไตล์จีน มุงหลังคาด้วยกระเบื้องลอนแบบเก๋งจีน ที่มุมกำแพงทั้ง 4 ประดับเจดีย์รายสีขาวรูปแบบย่อมุมไม้สิบสอง ตรงกลางเรือนมณฑปเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมหลังใหญ่ ผนังด้านนอกทำเป็นซุ้มประตูโค้งต่อเนื่องกันแบบสไตล์ยุโรป ตรงกลางมีเจดีย์ที่ถือเป็นแบบอย่างงานศิลปกรรมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 1-3) เจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบ เป็นเจดีย์เพิ่มมุมตามแนวจากฐานด้านล่าง มีบัวทรงคลุ่ม** รองรับองค์ระฆังทรงสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมเรียวสอบขึ้นไป ส่วนยอดเป็นบัวทรงคลุ่มเถาเรียงต่อกันขึ้นไป ส่วนบนเป็นกรวยยาวที่เรียกว่า ปลี ที่ฐานเจดีย์เจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปยืนประจำ 4 ทิศ และมีระเบียงล้อมรอบองค์เจดีย์

ภายในพระมณฑป ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางขัดสมาธิเพชร ตามพุทธลักษณะที่เรียกว่า ปางขนมต้ม

และยังมีพระพุทธบาทจำลอง ที่สร้างจากศิลาแลง มีลวดลายในพระบาทประดับมุกสวยงาม

* มณฑป เป็นสถาปัตยกรรมไทย ที่นิยมทำเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส หลังคาทำเรือนยอด เหมือนปิรามิดซ้อนกันเป็นชั้นๆ แหลมเรียวขึ้นไป บ้างก็เรียกว่าหลังคาทรงบุษบก พระมณฑปมักใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระไตรปิฎก หรือรอยพระพุทธบาท เช่นพระมณฑปที่วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

** คำว่า บัวคลุ่ม ใช้เรียกองค์ประกอบสำคัญ ที่เป็นลักษณะเฉพาะของเจดีย์ย่อเหลี่ยม ทำเป็นรูปบัวมีกลีบขนาดใหญ่เป็นดอกเดี่ยวๆ เทินรับองค์ระฆัง (อยู่ก่อนถึงองค์ระฆัง) บ้างก็จะเป็นดอกเรียงต่อกันไปในส่วนยอด เรียกว่า บัวคลุ่มเถา (เถา ก็คือสิ่งที่เป็นจำพวกเดียวกันเรียงกันไปเป็นชุด เช่น ปิ่นโต 1 เถา)


ศาลาเปลื้องเครื่อง

เป็นศาลาที่เคยใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ในครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาประทับในปี พ.ศ.2489 ศาลานี้สร้างเพื่อเป็นที่เปลี่ยนฉลองพระองค์จากเครื่องทรงกษัตริย์ เป็นเครื่องทรงแบบเรียบก่อนที่จะบำเพ็ญพระราชกุศล
 

ข้อแนะนำ

- การเดินทางมาที่วัด สามารถโดยสารเรือข้ามฟาก ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ มาขึ้นที่ท่าคลองลัดหลวง แล้วเดินทะลุออกมาไม่ไกลก็ถึงวัดเลย
- จากวัดโปรดเกศฯ หากต้องการไปแวะไปยังวัดไพรชยนต์ ที่อยู่ตรงข้ามฝั่งคลอง ให้เดินออกมาทางหน้าวัด จากนั้นเลี้ยวขวา เดินเลียบถนนข้ามสะพานข้ามคลองลัดหลวง ตรงเชิงสะพานมีถนนชุมชนข้างคลอง สามารถเดินทะลุไปยังวัดไพรชยนต์ได้ (ห่างไปประมาณ 400 เมตร)

การเดินทาง

ห่างจากวัดไพชยนต์พลเสพย์   400  เมตร
ห่างจากตลาดพระประแดง / ท่าน้ำพระประแดง   1 กิโลเมตร
ห่างจากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง   7 กิโลเมตร

 

การเดินทางด้วยรถยนต์

เส้นทาง ถนนสุขสวัสดิ์ -> เลี้ยวไปทางสะพานภูมิพล -> ถ.พระราชวีริยาภรณ์

1 หากใช้เส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าพระประแดง ผ่านแยกวัดสนไปไม่ไกล จะเห็นป้ายบอกทางเลี้ยวไปสะพานภูมิพล 1 และ 2 จึงเลี้ยวซ้ายตามป้าย
2 เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ให้เลาะเลนซ้ายสุด (ไม่ขึ้นสะพาน) ตรงตามป้าย ถ.พระราชวีริยาภรณ์ จนสุดทางเป็นสามแยก จึงเลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงไปไม่ไกลนัก จะเป็นสี่แยกทางเข้าวัดไพรชยนต์พลเสพ (เห็นซุ้มวัดอยู่ข้างหน้า) แยกนี้ให้เลี้ยวขวา
3 พอเลี้ยวขวาไปได้หน่อย ลงจากสะพานข้ามคลองไป จะเห็นวัดโปรดเกศเชษฐารามอยู่ทางซ้ายมือ

* หากใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ตามป้ายบอกทางดาวคะนองมาเรื่อยๆ พอข้ามสะพานพระราม 9 (สะพานแขวน) ชิดซ้าย ออกถนนสุขสวัสดิ์ จากนั้นตรงไปไม่ไกล จึงเลี้ยวซ้ายตามป้ายทางขึ้นสะพานภูมิพล (แต่ไม่ขึ้นสะพาน)

 

เส้นทาง ถนนราษฎร์บูรณะ -> ถ.พระราชวีริยาภรณ์

1 ใช้เส้นทางถนนราษฎร์บูรณะ* จากแยกบุคคโล มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ ผ่านบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ธ.กสิกรไทยสาขาใหญ่ วัดรวก ตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางจะเชื่อมต่อกับ ถ.พระราชวีริยาภรณ์
2 ตรงตามเส้นทางหลัก พอผ่านหน้าวัดไพรชยนต์พลเสพย์ไปหน่อย ลงสะพานข้ามคลองแล้ว จะเห็นวัดโปรดเกศเชษฐารามทางซ้ายมือ

* ถนนราษฏร์บูรณะ เป็นถนนเลียบชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ขนาด 6 เลน แบบมีเกาะกลาง มีระยะทางสั้นๆ ประมาณ 5 กิโลเมตร ต่อมาจากถนนเจริญนคร ตรงมาจนสุดตรงคลองแจงร้อน (ตรงช่วงโค้งหักศอก) จากนั้นก็จะเชื่อมต่อกับถนนพระราชวีริยาภรณ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

 

รถโดยสารประจำทาง (ดูรายละเอียด เส้นทางรถประจำทาง)

 

รถเมล์

- นั่งรถเมล์สาย 6 มาทางสมุทรปราการ ผ่านบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ธ.กสิกรไทยสาขาใหญ่ วัดรวก พอถึงสี่แยกตรงหน้าวัดไพชยนต์พลเสพย์ ให้ลงรถแล้วเดินตรงต่อไปอีกหน่อย ก็จะเป็นวัดโปรดเกศเชษฐาราม

สาย 6 บางลำพู - พระประแดง

เส้นทางเดินรถ แยกบางลำพู - วัดชนะสงคราม - เลี้ยวเข้าถนนราชดำเนินกลาง - แยกคอกวัว - ศึกษาภัณฑ์ - วนวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย - กองสลาก - สนามหลวงฝั่งริมคลองหลอด (พระแม่ธรณีบีบมวยผม) - หน้าศาลฎีกา - ศาลหลักเมืองกรุงเทพ - หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน - เลี้ยวซ้ายข้างสวนเข้าเชตุ - แยกบ้านหม้อ - เลี้ยวเข้าถนนตรีเพชร - โรงเรียนสวนกุหลาบ - สะพานพุทธ - เลี้ยวเข้าถนนสมเด็จเจ้าพระยา - แยกท่าดินแดง - โรงพยาบาลตากสิน - ถนนเจริญนคร - ท่าน้ำคลองสาน - วัดเศวตฉัตร - แยกบุคคโล - ถนนราษฎร์บูรณะ - บิ๊กซีจัมโบ้ราษฎร์บูรณะ - ธนาคารกสิกรไทย(สำนักงานใหญ่) - ถนนพระราชวีริยาภรณ์ - วัดไพชยนต์พลเสพย์ - ถนนนครเขื่อนขันธ์ - วัดกลาง - เข้าเมืองพระประแดง - วัดพระยาปราบปัจจามิตร - ตลาดพระประแดง - ศาลหลักเมืองพระประแดง - วนไปจอดริมท่าน้ำพระประแดง

 

เรือข้ามฟาก (ดูรายละเอียด เรือข้ามฟาก)

- ลงเรือข้ามฟาก ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ - ท่าคลองลัดหลวง (หรือเรียก ท่าวัดโปรดเกศเชษฐาราม) จะมาขึ้นหลังวัดโปรดเกศเลย เดินออกมาวัดอยู่ซ้ายมือ (เป็นท่าเรือสำหรับ จักรยาน + คน)

 

ข้อมูลการติดต่อ วัดโปรดเกศเชษฐาราม

ที่อยู่ 45 ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130
โทร 02-462-5484
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/watprodket/

ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว :

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร วัดไทย-รามัญในอำเภอพระประแดง ที่เคยมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ศิลปกรรมเก่าแก่ และจิตรกรรมโบราณที่ทรงคุณค่า สิ่งที่เด่นที่สุดคือบุษบกยอดปรางค์ที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ภายในพระอุโบสถ เป็นงานช่างสกุลวังหน้า ที่หาชมได้ยาก การเดินทางมาเที่ยวชมวัด มาได้หลายเส้นทาง ทั้งทางรถยนต์ หรือจะนั่งเรือข้ามฟากมาก็ได้
ห่างออกไป ประมาณ: 1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดทรงธรรมวรวิหาร (Wat Songdham Worawihan) อำเภอพระประแดง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองนครเขื่อนขันธ์ ในสังกัดรามัญนิกาย วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเป็นวัดแรกพร้อมการสร้างเมือง ที่มีประวัติความเป็นมานานกว่า 200 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมอญที่อยู่ในถิ่นฐานพระประแดง ภายในวัดมีพระมหาธาตุรามัญเจดีย์ในรูปแบบมอญ เสาหงส์ ธงตะขาบ สัญลักษณ์แสดงตัวตนของชาวมอญ ที่ได้รับการสืบทอดทางวัฒนธรรมประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน และที่วัดยังเป็นศูนย์กลางการจัดงานประเพณีแห่หงส์ ธงตะขาบ ในช่วงสงกรานต์ประจำทุกปีอีกด้วย การเดินทางมาวัดสะดวก หาง่าย อยู่ใกล้ตลาดพระประแดง
ห่างออกไป ประมาณ: 1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนสุขภาพลัดโพธิ์ เป็นสวนสาธารณะบริเวณใต้สะพานภูมิพล ในย่านพระประแดง สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผู้คนได้มานั่งเล่น เดินเล่น แวะให้อาหารปลา ชวนกันมาวิ่งออกกำลังกาย ชมวิวสะพานภูมิพล เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของสะพานภูมิพล และชุมชนย่านพระประแดง นอกจากนี้ภายในสวนสุขภาพ มีพิพิธภัณฑ์วงแหวนอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นจุดนัดพบของชาวนักปั่น นัดกันเที่ยวในช่วงวันหยุด การเดินทางมายังสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ไม่ซับซ้อน และมีลานจอดรถในบริเวณนี้ด้วย
ห่างออกไป ประมาณ: 1.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลพระเสื้อเมือง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ศาลเจ้าแม่" เป็นอีกศาลหนึ่งในย่านพระประแดง ที่ชาวพระประแดงให้ความเคารพศรัทธากันมาก ศาลนี้ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้กับศาลหลักเมืองพระประแดง และป้อมแผลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวชมที่เดินถึงกันได้ไม่ไกลนัก การเดินทางมาตลาดพระประแดง และศาลพระเสื้อเมือง เดินทางมาได้ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง (Phra Pradaeng City Pillar Shrine) เป็นศาลหลักเมืองแห่งเดียวที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความศรัทธาของชาวพระประแดง และชาวปากน้ำ แต่ละวันจะมีผู้คนมากราบสักการะ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ความสำเร็จ สมปรารถนา และช่วยขจัดปัดเป่าความไม่ดีในชีวิต ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ในบริเวณตลาดพระประแดง ใกล้ศาลพระเสื้อเมือง และป้อมแผลงไฟฟ้า การเดินทางสะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ป้อมแผลงไฟฟ้า (Phlaeng Faifa Fortress) หนึ่งในป้อมปราการสำคัญที่ตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นป้อมเดียวในอำเภอพระประแดงที่ยังคงมีสภาพเหลือให้เห็นค่อนข้างสมบูรณ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งนี้ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน เพื่อการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ชาติไทย สำหรับอนุชนคนรุ่นหลัง ได้รำลึกถึงอดีต ป้อมนี้อยู่ติดกับตลาดเทศบาล มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึงได้ และสามารถเดินทางมาโดยรถเมล์ หรือเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 4.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
คุ้งบางกะเจ้า เป็นพื้นที่สีเขียวที่ยังคงเหลือไว้ให้เป็นปอดของคนเมือง ทั้งคนกรุงเทพฯ และชาวสมุทรปราการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศึกษาระบบนิเวศธรรมชาติ และชมวิถีชีวิตชุมชน เหมาะกับการเที่ยวแบบวันเดียวจบ ชวนครอบครัว และกลุ่มเพื่อน เติมพลังให้กับชีวิต ด้วยการปั่นจักรยานเที่ยว เพิ่มออกซิเจนให้ปอด ชื่นชมธรรมชาติสีเขียวที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เที่ยวแนวอีโค่ทริป ชวนกันไปทำกิจกรรมชิคๆ ย้อมผ้าบาติกมัดย้อม ธูปหอมสมุนไพร ชมพิพิธภัณฑ์ปลากัดของไทย สัมผัสวิถีชีวิต Slow life นั่งชมเรือใหญ่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหว้พระในวัดเก่าแก่ เดินช้อป แวะชิมของกินมากมายในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และยังมีที่เที่ยวเชิงศึกษานิเวศชุมชนท้องถิ่นอีกมากมาย มีจักรยานให้เช่าหลายจุด เดินทางมาง่าย จะเอารถมาเองหรือไม่ ก็ไม่ลำบากเลย
ห่างออกไป ประมาณ: 5.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ หนึ่งในไฮไลท์ของการปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า หากไม่ได้แวะมาที่นี่ เท่ากับว่ายังมาไม่ถึงคุ้งบางกะเจ้าก็ว่าได้ เที่ยวชมสวนที่มีความเป็นธรรมชาติทั้งที ต้องขี่จักรยานเที่ยว ซอกแซกมุดซุ้มต้นไม้ สูดอากาศให้เต็มปอด พักสายตากับสีเขียวของต้นไม้ ใต้ความร่มรื่นของสวนป่า ให้อาหารปลา เดินชมวิวสบายตาที่สะพานไม้ริมบึงใหญ่ แล้วชักชวนกันไปปีนหอดูนก ปิดท้ายด้วยยกก๊วนโพสท่าถ่ายรูปเก๋ๆ กับลานไม้ระแนงก่อนกลับ นับว่าเป็นสวนที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ห่างออกไป ประมาณ: 5.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง (Bangnamphung Floating Market) ในคุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง ตลาดต้องชมของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตลาดนัดท้องถิ่นขนาดใหญ่ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดช้อป นัดมาชิมกันทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ แหล่งอาหารการกิน ของคาวของหวาน ของกินเล่น ของสดของแห้ง ผักผลไม้ สินค้าพื้นถิ่น ยังเป็นเที่ยวชมของผู้ที่มาปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า การเดินทางรถยนต์ ตลาดนี้รถยนต์เข้าถึงได้ แม้ไม่มีรถก็มีรถโดยสารประจำทางท้องถิ่น และเรือข้ามฟาก
ห่างออกไป ประมาณ: 5.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ตั้งอยู่ในบริเวณคุ้งบางกะเจ้า ใกล้กับสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของปลากัด ที่เคยอยู่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตคนไทยมาตั้งแต่ยุคเก่าก่อน นำมาต่อสู้พนันขันต่อจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ปัจจุบันได้นำมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม หรือเป็นงานอดิเรก นับเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับปลากัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ที่พิพิธภัณฑ์ มีปลาให้ชม ได้เพิ่มเติมความรู้เรื่องปลากัด และยังเป็นสถานที่พักผ่อน มีความร่มรื่น แวะมาเที่ยวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อยู่ในเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า ที่รถยนต์เข้าถึงได้ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ​์
ห่างออกไป ประมาณ: 5.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
บ้านธูปหอมสมุนไพร อยู่ในบริเวณคุ้งบางกะเจ้า ใกล้กับตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า บ้านธูปหอมสมุนไพร เปิดชมในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ร่วมทำกิจกรรมเบาๆ เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่มาก ในการลงมือทำธูปหอมไล่ยุง และผ้ามัดย้อม งานวิถีชาวบ้านที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น กิจกรรมนี้เหมาะกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแนะนำชาวต่างชาติให้มาร่วมสืบสานวิถีชีวิตในแบบไทยๆ
ห่างออกไป ประมาณ: 6.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ฟาร์มเห็ดช่างแดง เป็นฟาร์มที่อยู่ในคุ้งบางกะเจ้า นับเป็นหนึ่งในแหล่งเที่ยวชมภูมิปัญญาทางการเกษตรชุมชน ได้เห็นวิถีชีวิตการทำอาชีพเพาะเห็ด เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ชาวต่างชาติ และผู้ที่สนใจเรียนรู้การทำก้อนเห็ด เพาะเห็ด และศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพได้ ทางไปฟาร์มเห็ดช่างแดงมีรถยนต์เข้าถึง หรือคนที่ปั่นจักรยานเที่ยวคุ้งบางกะเจ้าอยู่แล้ว จะแวะชมก็อยู่ไม่ไกลจากวัดบางน้ำผึ้งนอก
ห่างออกไป ประมาณ: 6.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
วัดบางน้ำผึ้งนอก วัดเก่าแก่อายุราว 350 ปี โบราณสถานที่ยังคงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย แวะกราบขอพรหลวงพ่อใหญ่ ชมภาพจิตรกรรมในพระอุโบสถหลังเก่า ที่เป็นตำนานเล่าขาน บนบานหน้าต่างโบสถ์ ที่มาของคำว่ามอญแหวก (ปัจจุบันภาพเลือนลางไปมาก) เดินเล่นชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำ มีศาลาให้นั่งพัก ถ่ายภาพแม่น้ำมุมกว้าง และมีท่าเรือข้ามฟากใหญ่ ที่ข้ามมาจากวัดบางนานอก เพื่อจะไปยังตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง บริเวณวัดมีร้านเช่าจักรยาน และร้านค้ามากมาย
ห่างออกไป ประมาณ: 7.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) เป็นสถานที่แสดงศิลปกรรมในแนวอุดมคติ ที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อทางศาสนา และจักรวาล เกิดจากการสร้างสรรค์ความงามทางตะวันออกแบบไทย ผสมผสานกับงานศิลปะตะวันตก ก่อให้เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่วิจิตรงดงามและทรงคุณค่า ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม วิจิตรศิลป์ และประณีตศิลป์อันละเอียดอ่อน ทั้งยังเป็นสถานที่จัดเก็บรักษาโบราณวัตถุ ของเก่าของสะสมของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้รักและหลงใหลในงานศิลปะอีกด้วย การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไม่ยากเลย สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ก่อนเข้าตัวเมืองปากน้ำ มีรถเมล์ผ่านหลายสาย และจะมีรถไฟฟ้า BTS ผ่าน
ห่างออกไป ประมาณ: 9.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกิจการทหารเรือ ที่เคยใช้งานจริงในกองทัพเรือไทย ทั้งยังจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เรือจำลองสมัยต่างๆ เพื่อเป็นการให้ความรู้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวชมในวันหยุด นักเรียนนักศึกษามาทัศนศึกษา เป็นการได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวก มาโดยรถโดยสารก็ไม่ยุ่งยาก มีรถเมล์ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์หลายสาย
ห่างออกไป ประมาณ: 9.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พระสมุทรเจดีย์ หรือพระเจดีย์กลางน้ำ* ปูชนียสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 2 เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์รวมแห่งจิตใจและจิตวิญญานของชาวปากน้ำ มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นเจดีย์ที่มีพระเจ้าแผ่นดิน 4 รัชกาลช่วยกันปรับปรุง ทำนุบำรุงรักษา จนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความผสมผสานทางสถาปัตยกรรมทั้งไทย จีน ยุโรป บริเวณองค์พระสมุทรเจดีย์จะมีงานเฉลิมฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่ทุกปี งานแห่ผ้าห่มองค์พระเจดีย์ ที่มีมานานกว่า 180 ปี การเดินทางไปยังพระสมุทรเจดีย์สะดวก ทั้งรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และเรือข้ามฟาก
ร้านอาหารใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้าน ณ นารายณ์ ร้านอาหารไทยเล็กๆ สไตล์เรือนไทยริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น เป็นร้านเก่าแก่ในอำเภอพระประแดง สงบเงียบ เรียบง่าย รับลมธรรมชาติ ชมวิวสะพานภูมิพล นั่งมองเรือใหญ่แล่นผ่านไปมา ช่วงเย็นถึงค่ำได้ความสวยงามโรแมนติก เหมาะกับพาครอบครัวมารับประทานอาหาร ทางเข้าร้านอาจซับซ้อนนิดหน่อย ใกล้กับร้านมีลานจอดรถเล็กๆ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านบ้านสุขสวัสดิ์ ปลาแม่น้ำ เป็นร้านอาหารย่านพระประแดง (ฝั่งธนบุรี) อยู่ก่อนขึ้นสะพานภูมิพล (ร้านอยู่ริมถนน ไม่ได้ติดแม่น้ำ) ร้านมีสไตล์นั่งทานในสวนหลังบ้าน เสริฟอาหารรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เอาใจคนชอบทานปลา (โดยเฉพาะปลาแม่น้ำ) เป็นร้านที่เหมาะกับครอบครัว หรือนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ ร้านอยู่ริมถนน หาไม่ยาก เดินทางสะดวก ทางร้านมีที่จอดรถ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านระเบียงริมน้ำ ร้านอาหารมีชื่อย่านพระประแดง บรรยากาศติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านสไตล์ง่ายๆ ไม่หรูหรามาก ตอนกลางวัน เห็นวิวสะพานภูมิพล นั่งมองเรือสินค้าลำใหญ่แล่นเข้า-ออก ช่วงเย็นถึงค่ำได้ความโรแมนติก เวลาสะพานภูมิพลประดับไฟ ยิ่งสวยงาม เหมาะกับการมานั่งทานข้าวกับครอบครัว คู่รัก หรือนัดพบปะกับกลุ่มเพื่อนๆ การเดินทางไปยังร้านอาจดูซับซ้อนเล็กน้อย ที่จอดรถค่อนข้างจำกัดสักหน่อย (มีคนช่วยโบกหาที่จอดให้)
ห่างออกไป ประมาณ: 3.9 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านส้มตำพาเพลิน สาขาดั้งเดิม ตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ ย่านพระประแดง ร้านที่เน้นอาหารประเภทส้มตำจานโต สำหรับสาวกคนชอบส้มตำรสแซบต้องตามมาชิม แวะมาลิ้มลองความจัดจ้านของส้มตำ และอาหารอีสาน ร้านอยู่ริมถนน ใกล้ทางยกระดับทางด่วนกาญจนาภิเษก เดินทางมาได้ไม่ยาก ภายในร้านมีที่จอดรถอยู่บ้าง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านก้ามปู ร้านอาหารเก่าแก่บนถนนเทพารักษ์ เปิดมานานกว่า 30 ปี เป็นที่รู้จักและเป็นร้านประจำของหลายๆ คน ร้านนั่งทานข้าวบรรยากาศแบบไทยๆ ภายใต้ความร่มรื่นราวสวนป่า เหมาะกับการต้อนรับแขก ทานกับครอบครัว ผู้สูงอายุ เด็กๆ คู่รัก หรือนัดกลุ่มเพื่อน เหมือนนั่งทานข้าวในสวนหลังบ้าน ได้พักผ่อนสบายๆ แบบไม่วุ่นวาย ไม่รีบร้อน เสริฟอาหารไทยประเภทกับข้าว ของคาวของหวานมากมาย เดินทางสะดวก อยู่ริมถนน หาไม่ยาก (ทางเข้าอาจดูยากนิดนึง)
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com