วัดทองทั่ว ถือเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ที่อยู่คู่กับเมืองจันทบุรีมานานกว่า 200 ปี มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงมารวบรวมไพร่พลอยู่ในเมืองจันทบุรี ก่อนที่จะกอบกู้เอกราชให้กับอยุธยาได้สำเร็จ และยังเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบที่เมืองเพนียด
วัดทองทั่ว ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาสระบาป หมู่ 4 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อยู่ห่างจากโบราณสถานเมืองเพนียดไปประมาณ 400 เมตร
วัดทองทั่ว ตั้งชื่อตามตำนาน เมืองพระนางกาไว* เชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่พระนางกาไวหว่านทรัพย์สิน เงินทองไว้ทั่ว เพื่อใช้เป็นอุบายให้ทหารเก็บทองจนไม่สามารถติดตามจับตัวนางได้
วัดทองทั่วสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2310 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2318 (การได้เป็นวัดอย่างถูกต้องสมบูรณ์ โดยเป็นเขตที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่สงฆ์เพื่อใช้สร้างโบสถ์) โบสถ์เก่าแก่ของวัดจะอยู่ด้านข้างโบสถ์ใหม่ ซึ่งมีโครงสร้างเดิมตามแบบศิลปะสมัยอยุธยา เป็นวัดอารามหลวง โดยดูได้จากการตั้งใบเสมาคู่ วางบนฐานเตี้ย อยู่ในบริเวณ 8 ทิศรอบตัวโบสถ์ พระอุโบสถหลังเก่า ภายหลังมีการบูรณะซ่อมแซม จนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง ด้านหน้าโบสถ์มีสิงห์ตั้งอยู่ 1 ตัว ส่วนภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย คือ "พระพุทธสุวรรณมงคลศากยมุนีศรีสรรญเพ็ชญ์" หรือ "หลวงพ่อทอง" ที่ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวจันทบุรีมาช้านาน
ภายในบริเวณวัดมีจุดที่น่าสนใจที่สุด คือห้องจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบในบริเวณเมืองเพนียด มีโบราณวัตถุชิ้นสำคัญหลายชิ้น บางชิ้นมีอายุนับพันปี บ่งบอกถึงความเป็นมาที่เก่าแก่ของเมืองโบราณเพนียด ที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยขอมโบราณ โดยวัตถุโบราณชิ้นสำคัญที่ถือเป็นไฮไลท์ในพิพิธภัณฑ์คือ ทับหลังในรูปแบบศิลปะเขมรโบราณ แบบถาลาบริวัต ซึ่งนับได้ว่าเป็นยุคที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ค้นพบมา
พระนางกาไว ได้มีพระราชโอรสกับพระเจ้าพรหมทัต 1 พระองค์ และมีความคิดว่า หากพระเจ้าพรหมทัตสิ้นพระชนม์ ก็อยากให้บุตรของตนได้ขึ้นครองราชย์แทน จึงหาอุบายให้พระโอรส 2 พระองค์ที่เกิดจากมเหสีเดิมออกจากเมืองไป จึงทูลขอให้พระเจ้าพรหมทัตส่งพระโอรสทั้ง 2 ไปสร้างเมืองใหม่ พระโอรสทั้งสอง จำใจต้องออกไปตามที่บิดาบอก แต่ก็ขอคัดเลือกคนไปด้วย โดยเลือกเอาเฉพาะคนหนุ่มที่แข็งแรง และมีฝีมือในการรบ พร้อมทั้งแบ่งพลเมืองผู้ติดตามเพื่อออกไปสร้างเมืองใหม่ และเรียกเมืองนั้นว่า "เมืองสามสิบ" เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือของเมืองเพนียด (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี) เมื่อพระไวยทัต และพระเกตุทัต สร้างเมืองใหม่ได้แล้ว ก็เตรียมผู้คนไว้เพื่อรอวันกลับไปตีเมืองคืน
ต่อมา เมื่อพระเจ้าพรหมทัตสิ้นพระชนม์ พระนางกาไวได้ให้บุตรของตนขึ้นครองราชย์แทน แต่เนื่องจากพระโอรสยังทรงพระเยาว์ พระนางกาไวจึงสำเร็จราชการแทน ชาวบ้านจึงเรียกเมืองนั้นว่า "เมืองนางกาไว"
ฝ่ายพระไวยทัต และพระเกตุทัต เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ยกทัพมาเมืองเพนียดเพื่อชิงเมืองคืน แต่ก็ไม่สามารถสู้กำลังของฝ่่ายพระนางกาไวได้ จึงต้องถอยทัพกลับไป และไปขอกำลังเสริมจากกษัตริย์ขอม ที่ประทับอยู่ ณ เมืองนครธมให้มาช่วย กษัตริย์ขอมยอมยกทัพมาช่วยรบ และมาตั้งพลับพลาอยู่นอกเมือง (ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี) และยกกองทัพไปร่วมกับทัพของพระไวยทัต พระเกตุทัต เพื่อเข้าตีเมืองนางกาไว
ส่วนพระนางกาไว เมื่อรู้ว่ากองทัพตนสู้ไม่ได้ จึงได้หนีขึ้นหลังช้างออกมา พร้อมทั้งขนทรัพย์สมบัติ หนีมาทางประตูเมืิองทางทิศใต้ เมื่อกองทัพของพระไวยทัตเข้ายึดเมืองได้ ก็ให้ทหารตามพระนางกาไวไป ส่วนพระนางกาไวเมื่อเห็นทหารตามออกมาจวนตัว ก็ทิ้งเพชรทอง และทรัพย์สมบัติโปรยออกไปตามทาง เพื่อล่อให้ทหารเก็บ และตนจะได้หนีได้ สถานที่ที่พระนางกาไวได้หว่านเพชรทองเอาไว้ จึงได้มีชื่อเรียกว่า "บ้านทองทั่ว" (ปัจจุบันคือบริเวณวัดทองทั่ว)
พิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว
[:nonewline:]
พิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่พบในเขตโบราณสถานเมืองเพนียด ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ด้านโบราณวัตถุ และโบราณคดี อยู่ในวัดทองทั่ว สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน
พิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว ริเริ่มโดยพระถาวร ถาวโร เจ้าอาวาสวัดทองทั่ว ที่มีความตั้งใจทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน โดยรวบรวมโบราณวัตถุที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ได้การสำรวจบริเวณเมืองเพนียด และนำมาเก็บไว้ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ภายในวัด โดยเริ่มเปิดให้เข้าชม เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2550
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ เน้นการเผยแพร่เนื้อหาความรู้ด้านประวัติศาสตร์เมืองเพนียด ตำนานพระนางกาไว ภาพถ่ายโบราณสถาน รวมถึงการจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่พบภายในบริเวณเมืองเพนียด เช่น ทับหลัง ศิลาจารึก เศียรเทวรูป พระพุทธรูป ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม ชิ้นส่วนกลองมโหระทึก ถ้วยชามดินเผา ไห ครกหิน ที่บดยา เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องประดับ ธรรมมาสน์ ตู้พระไตรปิฎก หีบคัมภีร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุบางชิ้นที่พบที่เมืองเพนียด และถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่อื่นๆ ด้วยเช่น จารึกเพนียด ขนาดกว้าง 49 เซนติเมตร สูง 47 เซนติเมตร หนา 16.5 เซนติเมตร ทำด้วยศิลาทราย จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ สันสกฤต และเขมร (อายุราวพุทธศตวรรษที่12 และ 15) ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดวชิรญาณ กองหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพฯ
สำหรับโบราณวัตถุชิ้นสำคัญในพิพิธภัณฑ์ ที่น่าสนใจ และแสดงถึงความเก่าแก่ของศิลปะเขมรได้แก่ ชิ้นส่วนทับหลังศิลปะแบบถาลาบริวัต* ที่มีอายุประมาณ 1,400 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะเขมรโบราณที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย และเป็นศิลปะที่เก่าแก่กว่านครธม นครวัด ของเขมร
ทับหลังแบบถาลาบริวัต ที่จัดแสดงอยู่ที่วัดทองทั่ว มีลักษณะครึ่งท่อน (อีกชิ้นส่วนถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ) มีขนาด กว้าง 49 ซม. ยาว 96 ซม. หนา 13.50 ซม. ทำจากหินทรายแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำ ลวดลายบนทับหลังเป็นตัวมกร** รูปร่างอ้วนเตี้ย มีหางเป็นลายก้านขด ตัวมกรกำลังอ้าปากคายท่อนพวงมาลัย ที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้งออกมา บนวงโค้งมีวงกลมรูปไข่ ภายในทำเป็นรูปครุฑหน้ามนุษย์หันหน้าตรง มือทั้งสองข้างถืองูหรือนาคอยู่ ซึ่งจากลวดลายดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะแบบคุปตะ ของอินเดีย
** ตัวมกร (อ่านว่ามะ-กะ-ระ หรือมะ-กอน) เป็นสัตว์ตามความเชื่อและจินตนาการ พบได้ในศิลปะของพม่า ล้านนา ไทย และเขมร ตัวมกรอาจมีลักษณะคล้ายมังกร หรือสัตว์หลายชนิดผสมกัน เช่นครึ่งบนเป็นสัตว์บก ช้าง จรเข้ หรือกวาง ผสมกับท่อนล่างเป็นสัตว์น้ำ ตัวมกรมักจะอยู่ในกิริยาสำรอก คายวัตถุ หรืออะไรบางอย่างออกมาจากปาก เช่นคายอุบะพวงมาลัย คายพญานาค
สิ่งที่น่าสนใจบริเวณวัดทองทั่ว
- พิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว อยู่ในอาคารเชื่อมต่อกับศาลาวัด เป็นศาลาหลังใหญ่เห็นได้ชัดเจน
- โบสถ์เก่าสมัยอยุธยา (อยู่ติดกับโบสถ์ใหม่)
- เจดีย์ทรงกลมสมัยอยุธยา (อยู่ข้างโบสถ์)
- โบราณสถานเมืองเพนียด (ห่างจากวัด 400 เมตร)
ใกล้กับวัดทองทั่ว เคยมีวัดเพนียด ซึ่งเคยเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยา อยู่ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันกลายเป็นวัดร้างไปแล้ว
เดินทางโดยใช้เส้นสุขุมวิทไปทางจังหวัดตราด วัดทองทั่วอยู่ก่อนถึงน้ำตกพลิ้ว หากออกมาจากตัวเมืองจันท์ ใช้ถนนเบญจมราชูทิศ หรือถนนท่าหลวง ออกไปทางเส้นสุขุมวิท แล้วเลี้ยวขวาไปทางจังหวัดตราด
ใช้เส้นสุขุมวิท
1 | ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) พอเจอสามแยกปากแซง ให้เลี้ยวขวา (ไปทางจังหวัดตราด) |
2 | ตรงไปสักระยะจะถึงป้ายหลักกิโลเมตรที่ 338 จึงเลี้ยวขวาเข้าซุ้มประตูเข้าวัดทองทั่ว (ก่อนหน้านั้นจะผ่านศูนย์ Toyota และ สะพานเล็ก ๆ ก่อน) |
3 | จากนั้น ตรงต่อไปจะเจอสามแยกแรก ให้เลี้ยวขวา |
4 | พอเลี้ยวแล้ว ตรงไปอีกหน่อย จะถึงสามแยกโรงเรียนวัดทองทั่ว ให้เลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวแล้วจะเจอทางเข้าวัดทางขวามือ (ผ่านทางเข้าโรงเรียน) |
จากตัวเมืองจันทบุรี
1 | หากออกจากตัวเมืองจันทบุรีทางถนนท่าหลวง ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรี แล้วไปจนสุดถนนท่าหลวง จะถึงถนนสุขุมวิทตรงแยกเกาะรงค์ จึงเลี้ยวขวาไปทางตราด * หากออกจากเมืองทางถนนเบญจมราชูทิศ (ผ่านตลาดพลอย) ข้ามสะพานตรีรัตน์แล้วตรงไปจนสุดทาง จะถึงถนนสุขุมวิทตรงแยกศักดิ์ชัย จึงเลี้ยวขวาไปทางตราด |
2 | จากนั้น ตรงตามถนนสุขุมวิทไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงป้ายหลักกิโลเมตรที่ 338 จึงเลี้ยวขวาเข้าซุ้มประตูวัดทองทั่ว (ถนนเทศบาล ซอย 26) |
3 | เลี้ยวแล้ว ตรงต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ถึงสามแยกหน้าโรงเรียนวัดทองทั่ว ให้เลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวแล้วจะเจอทางเข้าวัดทางขวามือ (ผ่านทางเข้าโรงเรียน) |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
วัดทองทั่ว
ที่อยู่ 35 หมู่ 4 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000
ติดต่อ 039-325-763, 089-249-0058, 091-998-6373