อนุสรณ์สถานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในอำเภอบางคล้า ที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้อิสรภาพให้กลับคืนมาอีกครั้ง แวะเคารพสักการะ และรำลึกถึงคุณความดีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ปากน้ำโจ้โล้ สถูปเจดีย์อยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอบางคล้า ใกล้ถนนสายหลัก แวะได้สะดวก
พระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำคลองท่าลาด* ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนที่ปลายคลองไหลออกสู่แม่น้ำบางปะกง ห่างจากตัวอำเภอบางคล้าเกือบ 2 กิโลเมตร
* คลองท่าลาด มีความยาวประมาณ 33 กิโลเมตร ถือเป็นลำน้ำสายสำคัญของอำเภอพนมสารคาม และกล่าวกันว่าเป็นพื้นที่ลุ่มแม่น้ำที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี ลำน้ำสายนี้ไหลจากฝั่งตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก เกิดจากการรวมกันของลำน้ำคลองระบม ที่มีต้นน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำคลองระบม มาบรรจบกับคลองสียัด ที่มาจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ใกล้อ่างฤาไน ไหลมารวมกันเป็นคลองท่าลาด ที่คดเคี้ยว เลี้ยวผ่านตัวอำเภอพนมสารคาม และไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงตรงอำเภอบางคล้า หรือบริเวณสถูปเจดีย์ พระเจ้าตากสินมหาราช
กล่าวกันว่าบริเวณปากน้ำโจ้โล้ (หรือตรงคลองท่าลาด) เป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ช่วงก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก หรือก่อนปีพ.ศ.2310 ขณะนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสิน ยังดำรงตำแหน่งพระยาวชิรปราการ ทรงเห็นว่าอยุธยาคงไม่สามารถต้านกำลังพม่าไว้ได้ จึงได้ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา พร้อมด้วยกองทัพของพระองค์จำนวนหนึ่ง มาทางภาคตะวันออกเพื่อออกมาตั้งหลัก และรวบรวมไพร่พลกลับไปตีเอาพระนครคืน ขณะที่เดินทัพมาหยุดรอทหารที่ตามกองทัพมาไม่ทัน ได้มาหยุดประทับที่หนองน้ำเพื่อหุงหาอาหาร ได้เกิดปะทะกับกองทัพพม่า ทั้งทัพบกและทัพเรือที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำโจ้โล้ พระเจ้าตากทรงทราบ จึงรับสั่งให้ตั้งแนวรับ ขุดหลุมเพลาะ** วางปืนตับ เรียงหน้ากระดานไว้ พอทัพพม่าเข้ามาใกล้ ก็โจมตีจนพม่าแตกพ่ายไป
** สนามเพลาะ คือการทำแนวตั้งรับ หรือแนวป้องกันในการทำสงคราม มักจะขุดเป็นหลุมหรือคูเพื่อบังข้าศึก
หลังจากนั้นสมเด็จพระเจ้าตากก็ได้รวบรวมกองทัพ กลับไปกอบกู้อิสรภาพจากพม่าได้สำเร็จ และขึ้นเป็น "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4" ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี (บ้างก็เรียกว่า "สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี") ท่านทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นบริเวณปากน้ำโจ้โล้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะครั้งที่พระองค์เคยผ่านมาสู้รบกับพม่าในครั้งนั้นด้วย
อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นพระสถูปเจดีย์ที่สร้างขึ้นแทนของเดิมที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ พังทลายลงแม่น้ำไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 พระสถูปเจดีย์ใหม่นี้ สร้างในพื้นที่เดิม เมื่อปี พ.ศ.2539 - 2542 โดยงบประมาณจากกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี อนุญาตให้ใช้พื้นที่สร้าง จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 34.5 ตารางวา รูปแบบสถาปัตยกรรมของพระสถูปเจดีย์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีขาว มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ที่องค์เจดีย์มีซุ้มยื่นออกมา 4 ด้าน
หากเข้ามาถึงบริเวณพระสถูปเจดีย์ จะเป็นที่จอดรถโล่ง กลางแจ้ง ภูมิทัศน์โดยรอบมีสนามหญ้า ต้นไม้ใหญ่ตามรายทาง และมีศาลานั่งพักผ่อนใกล้ริมแม่น้ำ ช่วงกลางวันอาจจะค่อนข้างร้อน ตอนบ่ายๆ เย็นๆ ร่มรื่น เป็นสถานที่พักผ่อน เมื่อจอดรถแล้ว เดินไปอีกไม่ไกลก็ถึงองค์สถูปเจดีย์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณแหลมสุดทาง พื้นที่บริเวณนี้ด้านซ้ายเป็นแม่น้ำบางปะกง ที่อีกฟากฝั่งเป็นพื้นที่ของเกาะลัด ส่วนด้านขวาของพื้นที่พระสถูปเจดีย์ เป็นคลองท่าลาด ที่ไหลออกมาบรรจบกับแม่น้ำบางปะกง ตรงข้ามปากแม่น้ำอีกฝั่งจะมองเห็นโบสถ์สีทอง ของวัดปากน้ำโจ้โล้
บริเวณที่ตั้งพระสถูปเจดีย์ โดยรอบเป็นระเบียงโล่งกว้าง รอบพื้นที่มีรั้วเตี้ยๆ เป็นระเบียงริมน้ำ มีท่าน้ำเล็กสำหรับผู้ที่ล่องเรือท่องเที่ยวมาจากตลาดบางคล้า ได้ขึ้นมาแวะกราบสักการะสมเด็จพระเจ้าตาก เพื่อความเป็นสิริมงคล ด้านหน้าพระสถูปเจดีย์ มีลักษณะเป็นศาลเล็กๆ สีขาว ภายในประดิษฐานรูปปั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีธูปเทียนตั้งไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจุดบูชา พร้อมคำบูชา ด้านหน้าศาลมีปูนปั้นรูปม้าและไก่ ที่มีผู้คนนำมาถวายเป็นจำนวนมาก
ข้อแนะนำ
การเดินทาง
ห่างจากวัดโพธิ์ บางคล้า / ตลาดน้ำบางคล้า 2 กิโลเมตร
ห่างจากวัดปากน้ำโจ้โล้ (เส้นทางรถยนต์) 1.5 กิโลเมตร
ห่างจากสวนปาล์มฟาร์มนก 8 กิโลเมตร
ห่างจากวัดสมานรัตนาราม 17 กิโลเมตร
ห่างจากวัดหลวงพ่อโสธร 24 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 1 มอเตอร์เวย์ (หรือบางนา-ตราด) -> บางปะกง-ฉะเชิงเทรา (314) -> ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม (365) -> ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี (304) -> อ.บางคล้า
1 | หากใช้เส้นทางจากมอเตอร์เวย์ (หรือบางนา-ตราด) ให้เลี้ยวตามป้ายมาทางจังหวัดฉะเชิงเทรา (314) |
2 | เมื่อเข้าเส้นบางปะกง - ฉะเชิงเทรา ให้ตรงตามเส้นทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง เห็นป้ายบอกทางเลี้ยวขวาไป อ.พนมสารคาม (365 หรือ 314 เดิม) จึงเลี้ยวขวา |
3 | เมื่อเลี้ยวขวามาแล้ว เส้นทางจะเปลี่ยนไปเป็นเส้น 304 (ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) ให้ตรงตามเส้นทางนี้ไปอีกราวๆ เกือบ 20 กิโลเมตร |
4 | จากนั้นจะเห็นป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป อ.บางคล้า (ตรงแยกบางคล้า) จึงเลี้ยวซ้าย |
5 | พอเลี้ยวมาแล้ว ตรงตามเส้นทางหลักไปเรื่อยๆ อีก 6 กิโลเมตร (จะผ่านอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช) แล้วจะสุดตรงสามแยกรูปตัวที (T) ให้เลี้ยวขวา |
6 | หลังจากนั้นจะผ่านตัวอำเภอบางคล้าไป ให้ตรงไปตามเส้นทางไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 2 กิโลเมตร (ผ่านโรงเรียนดาราจรัสไปเล็กน้อย) จะมีป้ายบอกทางไปให้เลี้ยวซ้ายไปพระสถูปเจดีย์ ซึ่งพอเลี้ยวแล้ว ตรงไปประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงเลย |
เส้นทางที่ 2 มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา (ถนนสุวินทวงศ์)(304) -> อ.บางน้ำเปรี้ยว (365) -> ถนนสายในไป อ.คลองเขื่อน -> ถนนสายในไป อ.บางคล้า
1 | เส้นทางเริ่มจากถนนสุวินทวงศ์ (มีนบุรี) ตรงมาทางจังหวัดฉะเชิงเทรา |
2 | เมื่อเข้าเขตจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว ก็ยังคงตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกไฟแดง ที่มีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป อ.บางน้ำเปรี้ยว (365)(แยกสตาร์ไลท์) จึงเลี้ยวซ้าย * ช่วงแรกจะมีแยกเลี้ยวซ้ายไป อ.บางน้ำเปรี้ยว แต่เป็นทางหลวงหมายเลข 3481 ยังไม่ต้องเลี้ยว ให้ตรงมาก่อนจนถึงแยกสตาร์ไลท์ |
3 | เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ตรงตามเส้นทางไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร จะมาสุดตรงสามแยกรูปตัวที (T) แยกนี้มีป้ายบอกทางเลี้ยวขวาไป อ.คลองเขื่อน (แยกบางขวัญ) จึงเลี้ยวขวาตามป้าย (ให้ยึดเส้นทางเดียวกับสวนปาล์มฟาร์มนก) |
4 | เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ตรงไปอีกราวๆ 6.5 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป อ.คลองเขื่อน จึงเลี้ยวซ้ายตามป้าย * แยกนี้ ทางเลี้ยวจะเป็นซ้ายหักศอก เข้าสู่ถนนเลียบคลองชลประทาน |
5 | เลี้ยวมาแล้ว ตรงตามถนนเลียบคลองชลประทานไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร เมื่อเจอสี่แยก บอกทางเลี้ยวขวาไปอำเภอบางคล้า (ทางเดียวกับตลาดน้ำบางคล้า /สวนปาล์มฟาร์มนก) จึงเลี้ยวขวา |
6 | เมื่อเลี้ยวขวามาแล้ว จะผ่านสวนปาล์มฟาร์มนก จากนั้นจะเจอสามแยกรูปตัวที (T) ให้เลี้ยวขวา และเจอสามแยกถัดไป (ตรง 7-11) ก็ให้ไปทางขวาอีกที |
7 | พอพ้นสามแยกมา จากนั้นก็ตรงตามเส้นทางไปตลอด พอข้ามสะพานข้ามคลองท่าลาด ลงสะพานแล้วจะเป็นทางเข้าอยู่เชิงสะพานทางขวามือ เลี้ยวขวาเข้าไปไม่ไกล พระสถูปเจดีย์อยู่สุดทางเลย |
ที่อยู่ หมู่ 7 ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110