มาเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา หากต้องการหาซื้อขนมกลับไปฝากครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ปัจจุบันนี้มีร้านของฝากขนาดใหญ่ให้ได้แวะช็อปอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่จะเห็นได้ง่าย แวะได้สะดวก ตั้งอยู่ริมถนนสายหลัก เส้นทางก่อนเข้ามอเตอร์เวย์ (314) หรือเส้นทางสายฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม (304) ร้านของฝากแต่ละร้านมักจะมีขนมที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้นๆ รวมถึงของฝากประเภทอื่นๆ อีกมากมาย หากต้องการหาของทานเล่นเบาๆ ทานกันในรถ หรือฝากคนทางบ้าน
แนะนำว่าที่ฉะเชิงเทรามีร้านชิฟฟอนดังอยู่หลายร้าน ชิฟฟอนเป็นขนมทรงสามเหลี่ยมชิ้นเล็กๆ ทานง่าย ทำสดใหม่ทุกวัน ขนมเนื้อเค้กนุ่มฟู สอดไส้ครีมรสชาติต่างๆ นำมาทานกับกาแฟยิ่งเข้ากันมาก ส่วนที่ต้องใส่ใจหน่อยก็คือ ขนมชนิดนี้ใช้วัตถุดิบที่อาจเสียง่าย จึงไม่ควรไว้ในที่อากาศร้อนจัด ควรแวะซื้อก่อนกลับจะดีกว่า เมื่อซื้อกลับไปบ้านแล้ว ก็ควรนำใส่ตู้เย็นทันที
ในฉะเชิงเทรายังมีขนมอีกชนิดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานาน นั่นก็คือ ขนมเปี๊ยะจากอำเภอบางคล้า อำเภอหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เคยเป็นย่านที่มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ได้ขนมสูตรต้นตำรับจีนแท้ออกมา ขนมสัญชาติจีนนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นจนมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบดั้งเดิม และรสชาติใหม่ๆ ที่ใส่ความร่วมสมัยลงไป ทานได้ทุกเพศทุกวัย และมักสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ และผู้สูงวัย นิยมนำมาทานกับน้ำชา นอกจากนี้ในวันเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน งานแต่งงาน ขนมเปี๊ยะยังถือเป็นขนมมงคลที่มอบให้แก่กันอีกด้วย
นอกจากขนมต่างๆ แล้ว ของดีที่โด่งดังมากที่สุดของฉะเชิงเทราที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นมะม่วงที่นิยมทานสุก เพื่อรอให้ได้รสหวาน นำมาทานกับข้าวเหนียมมูน สมัยก่อนนั้นคนมักจะนิยมทานข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงอกร่อง ต่อมามะม่วงน้ำดอกไม้เริ่มเป็นที่นิยม เพราะผลค่อนข้างโต เนื้อเยอะ มีรสหวาน แม้จะไม่หวานฉ่ำเท่ามะม่วงอกร่อง แต่ก็ทานเข้ากันกับข้าวเหนียวมูนได้เช่นกัน จึงเป็นที่ชื่นชอบ และเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่ส่งออกไปต่างประเทศด้วย
ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ที่ฉะเชิงเทราจะมีการจัดงานเทศกาลมะม่วง ให้ผู้คนได้มาเดินชม เลือกซื้อไปชิม รวมถึงซื้อพันธุ์มะม่วงต่างๆ ไปปลูกได้ด้วย ในปัจจุบันนี้ไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะต้องรอทานมะม่วงตามฤดูกาล เพราะมะม่วงบางสายพันธุ์ก็ออกมาให้ได้ทานกันตลอดทั้งปี ใครมาฉะเชิงเทรา จึงหาซื้อข้าวเหนียวมะม่วงได้ไม่ยาก สำหรับคนที่ต้องการซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือซื้อเป็นของฝาก หากยังไม่ต้องการทานทันที แนะนำให้ซื้อมะม่วงเป็นลูกแบบที่ยังไม่ปอกไปดีกว่า ซื้อแบบยังไม่สุกดี ก็สามารถเก็บไว้ได้จนกว่าจะสุก ส่วนข้าวเหนียวมูนทางร้านมักจะแพ็คแบบแยกกะทิมาให้ เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ควรนำกะทิใส่ตู้เย็น ส่วนข้าวเหนียวให้วางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ จะอยู่ได้ 1-2 วัน โดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น