สถานตากอากาศบางปู สถานพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมมานานกว่า 80 ปี เป็นที่รู้กันว่าเป็นจุดชมทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ได้พักผ่อนกินลม ชมวิวธรรมชาติ เดินเล่นยามเย็น ดูพระอาทิตย์ตก และจุดชมฝูงนกนางนวลอพยพกลุ่มใหญ่ที่สุดอีกด้วย (มาตามฤดูกาล) บริเวณนี้มีร้านอาหารบรรยากาศทะเล ร้านขายของ ขนม ลานจอดรถสะดวก (ชายทะเลบริเวณนี้ ไม่มีหาดทราย และลงเล่นน้ำไม่ได้) การเดินทางมาบางปู หาง่าย เส้นทางไม่ซับซ้อน เส้นทางรถยนต์สะดวก มีรถโดยสารสองแถวประจำทางผ่าน
สถานตากอากาศบางปู ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทสายเก่า เส้นทางเดิมที่ตัดผ่านบางปู คลองด่าน เพื่อไปยังจังหวัดชลบุรี หากมาจากกรุงเทพฯ ตามเส้นสุขุมวิทไปจนถึงแยกศาลากลางสมุทรปราการ ถนนจะเลี้ยวซ้ายไม่เข้าเมือง จากนั้นตรงผ่านเมืองโบราณไปสักระยะ ก็กลับรถมาเข้าสถานตากอากาศบางปูที่อยู่ทางขวามือ ส่วนรถโดยสารประจำทาง ถนนเส้นนี้จะมีรถสองแถวสายปากน้ำ-บางปู ลงรถแล้วเดินข้ามถนนมาถึงสะพานสุขตาประมาณ 500 เมตร
พื้นที่ริมทะเลปากแม่น้ำเจ้าพระยา 639 ไร่นี้ เป็นพื้นที่ในความดูแลของกรมพลาธิการทหารบก อยู่ในส่วนของกองอำนวยการสถานพักผ่่อน ที่ยังได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ ต้นไม้ริมชายฝั่ง สัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และนกชนิดต่างๆ มากมาย
ย้อนไปในช่วงปี พ.ศ.2480 สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านได้เดินทางผ่านตำบลบางปู และเห็นว่าเป็นแนวชายทะเลที่ใกล้เมืองหลวง จึงให้สร้างเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยก่อสร้างสะพานสุขตา สำหรับเป็นที่เดินเล่น เปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมได้ในปี พ.ศ.2482 ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า "สถานตากอากาศชายทะเลบางปู"
เมื่อเริ่มเปิดครั้งแรก สถานตากอากาศบางปู เปิดได้เพียง 2 ปี ก็เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา* ขึ้นในปี พ.ศ.2484 เป็นเหตุให้ต้องปิดการบริการลงเป็นเวลา 7 ปี จนกระทั่งบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติจึงได้เปิดดำเนินการอีกครั้งในปี พ.ศ.2490 และต่อมาได้เปลี่ยนมาอยู่ในความดูแลของกรมพลาธิการทหารบก เพิ่มให้บริการอาหารและเครื่องดื่มขึ้นที่บริเวณปลายสะพานสุขตา มีดนตรี และฟลอลีลาสในวันอาทิตย์ และจัดให้มีบ้านพักอยู่บริเวณแนวริมเขื่อนอีกด้วย
* สงครามมหาเอเชียบูรพา (Greater East Asia War ; พ.ศ.2484 - 2488) หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นสู่แผ่นดินประเทศไทย ในแนวชายทะเลภาคใต้ ทางฝั่งตะวันออก รวมถึงชายฝั่งที่ตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ก็มีทหารญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อขอผ่านทางไปยังประเทศพม่า และอินเดีย ในการสู้รบกับฝ่ายสัมพันธมิตร
ต่อมา ในปีพ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสถานตากอากาศบางปู เป็นสถานพักฟื้นและพักผ่อนกรมพลาธิการทหารบก เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารผ่านศึก ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ และทรงเปิดอนุสรณ์สถานเครื่องหมายประวัติศาสตร์สงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นขึ้นมายังบริเวณบางปู
สะพานสุขตา
สะพานสุขตา แม้จะมีอายุกว่า 70 ปี แต่ก็เป็นสะพานในตำนาน ที่เป็นสัญลักษณ์ของสะพานตากอากาศบางปู สะพานแห่งนี้แต่เดิมเป็นไม้ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสะพานปูนซีเมนต์แข็งแรง และได้รับการซ่อมแซมดูแลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลักษณะเป็นสะพานขนาดกว้างขวาง (ประมาณ 4 เลนถนน) มีระยะทางจากซุ้มทางเข้า ไปสุดถึงศาลาสุขใจราว 400 เมตร มีขอบทางยกระดับเป็นฟุตบาทสองข้าง รั้วระเบียงและราวสะพานเป็นปูนแข็งแรงทั้ง 2 ฝั่ง ในอดีตสามารถขับรถไปจอดยังบริเวณริมขอบสะพานได้ แต่เนื่องจากรถยนต์ที่เข้ามาเที่ยวชมมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเปิดเป็นถนนคนเดิน ไม่อนุญาตให้รถยนต์ผ่านซุ้มประตูสะพาน ยกเว้นรถสามล้อบริการรับส่งไปยัง ศาลาสุขใจ
สะพานที่ทอดยาวออกไปในทะเล เป็นจุดชมวิวทะเล พระอาทิตย์ตกดิน มองกลับมายังฝั่งก็ยังได้เห็นแนวป่าชายเลน และที่สำคัญในฤดูหนาวที่มีนกหนีหนาวอพยพมา บนสะพานจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนมาเที่ยวชมนกนางนวล ถ่ายรูปนก รวมไปถึงให้อาหารนกนางนวลด้วย บริเวณสะพานมีจุดจำหน่ายอาหารนก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ให้ด้วย
บริเวณสะพานสุขตา เป็นจุดสำหรับเดินชมวิว กินบรรยากาศ บริเวณนี้ไม่มีร่มเงาไม้ ค่อนข้างร้อนในช่วงกลางวัน พอแดดร่มลมตก ตั้งแต่บ่ายไปจนถึงเย็น จะมีผู้คนมาเดินเล่นกันมาก เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งเลยเชียว ส่วนช่วงหัวค่ำไป อาจจะเริ่มมีแมลง และยุงรบกวนอยู่บ้าง เพราะอยู่ในเขตป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์
ศาลาสุขใจ … กินปู ดูนก เต้นรำ ย่ำป่าชายเลน
คำขวัญประจำสถานตากอากาศบางปู เพราะนอกจากไฮไลท์ของบางปูจะเป็นการเดินเล่น กินลม ชมนกแล้ว ยังมี "ศาลาสุขใจ" ร้านอาหารของกองทัพบก ที่อยู่บริเวณปลายสะพานสุขตา ที่ไม่ใช่เพียงแค่ศาลาธรรมดาทั่วไป แต่มีลักษณะเป็นอาคารที่สร้างปีกออกไปสองข้างเหมือนรูปตัวยู และมีลานบริเวณตรงกลางเป็นจุดชมวิวทะเลได้อีกด้วย ภายในอาคารเมื่อเข้าไปถึงส่วนแรกจะเป็นร้านค้าเล็กๆ จำหน่ายขายเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไอศครีม ด้านหนึ่งเป็นร้านสวัสดิการทหาร จำหน่ายของที่ระลึก มีการจัดมุมเก๋ไก๋ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บริเวณนี้ยังมีห้องสุขา และตู้เอทีเอ็มให้บริการด้วย
เมื่อถัดเข้าไปด้านใน อาคารตรงกลางจะเป็นโถงกว้างโล่ง บริเวณนี้มีโต๊ะอาหาร และเปิดเป็นฟลอเต้นรำลีลาศ ที่มีมานานหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน เมื่อพ้นจากโถงกลางนี้ไป เส้นทางจะแยกออกเป็น 2 ปีก ซ้ายขวา แยกเป็นห้องอาหารด้านตะวันตก และตะวันออก แนวโต๊ะนั่งรับประทานอาหารจึงเป็นแนวยาวก่อนไปยังจุดชมวิว เมื่อเดินผ่านส่วนของห้องอาหารไปด้านในสุด ก็จะทะลุออกไปยังลานกว้าง ที่จุดชมวิวทะเล (แม้ไม่ได้รับประทานอาหารที่ร้าน ก็เดินเข้าไปยังจุดชมวิวได้)
ห้องอาหารที่ศาลาสุขใจ ให้บริการอาหารไทย อาหารทะเล และเครื่องดื่มต่างๆ โดยที่โต๊ะอาหารจะตั้งอยู่บริเวณระเบียงทางเดินทางปีกด้านซ้ายและขวาของอาคาร จึงได้บรรยากาศทะเล รับลมเย็นๆ ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ในทุกเย็นวันเสาร์ ภายในโถงอาคาร มีการจัดพื้นที่สำหรับเป็นฟลอลีลาศ เปิดให้ทำกิจกรรมเต้นรำเพื่อสุขภาพ สำหรับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เวลา 16.00 - 20.00 น. โดยคิดค่าดนตรีภายในฟลอลีลาศ คนละ 50 บาท ส่วนห้องอาหารเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.
ชายทะเลบางปู
เป็นชายทะเลสำหรับการชมวิวทิวทัศน์เท่านั้น สะพานสุขตาที่สร้างขึ้นเป็นจุดชมวิวเดียวในบริเวณนี้ ไม่มีหาดทรายให้เดินเล่น ไม่มีจุดให้ลงเล่นน้ำ ไม่มีเตียงผ้าใบชายหาด หรือจุดกางร่มเหมือนหาดทั่วไป หาดบริเวณนี้เป็นโคลนเลนสีดำ ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติของทะเลปากแม่น้ำ คล้ายกับแถวดอนหอยหลอด และชายทะเลบางขุนเทียน หาดโคลนนี้เป็นแหล่งสะสมแร่ธาตุที่ถูกพัดพามาพร้อมดินตะกอนจากแม่น้ำเจ้าพระยามายังบริเวณปากอ่าว มีป่าโกงกางขึ้นอยู่หนาแน่นบริเวณริมฝั่ง เป็นแหล่งอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่ง ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ ช่วยอนุบาลสัตว์น้ำ แหล่งพักพิง หลบภัย และเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ในเขตป่าชายเลนหลายชนิด เช่น ปู หอย ปลาตีน และนกต่างๆ กว่า 240 ชนิด รวมถึงนกที่อพยพมาจากประเทศอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว
กิจกรรมที่โดดเด่นที่สุดของสถานตากอากาศบางปู เป็นการดูนก และให้อาหารนก โดยปกติแล้วที่บางปูจะมีนกหลากหลายสายพันธุ์ที่เป็นนกประจำถิ่น และในช่วงหน้าหนาวจะมีนกอีกหลายชนิดอพยพหนีหนาวลงมาจากประเทศทางตอนบนของไทย โดยมาพักพิงอยู่ในบางปูในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม
นกนางนวลบางปู
สำหรับนกอพยพ ที่พบเห็นได้มากที่สุด จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของบางปู คือนกนางนวล ส่วนใหญ่เป็นนกนางนวลธรรมดา** อพยพย้ายถิ่นฐานชั่วคราว เพื่อหนีความหนาวเย็นจากทวีปเอเชียตอนกลาง เช่น ประเทศจีนตอนบน ทิเบต และมองโกเลีย จึงพบเห็นนกเหล่านี้ในช่วงหน้าหนาวเป็นประจำทุกปี ถิ่นฐานบ้านเกิดเดิมของนกทางตอนเหนือนั้น จะใช้เป็นแหล่งสร้างรัง วางไข่ ส่วนที่ต้องหนีหนาวมาเขตที่อบอุ่นกว่า เพราะอากาศและสิ่งแวดล้อมในที่หนาวจัดไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยและหาอาหาร นกเหล่านี้จึงพากันบินอพยพลงมาทางใต้ หาพื้นที่ที่อบอุ่น ปลอดภัย และมีแหล่งหาอาหารได้ง่ายกว่า บริเวณบางปูนี้เป็นแหล่งพักพิงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นกจะมาอาศัยอยู่จนกระทั่งหมดช่วงฤดูหนาว พอเข้าหน้าร้อนก็จะทะยอยบินกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อสร้างรัง วางไข่ และเลี้ยงลูกนกให้โต จนกว่าจะถึงฤดูหนาวในปีถัดไป ก็จะบินลงมาทางใต้เป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป
** นกนางนวลธรรมดา (Seagulls / Gulls) เป็นนกขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ พบเห็นได้ทั่วไปตามชายทะเลทั่วโลก มีลักษณะเป็นนกน้ำ ลอยน้ำได้เหมือนเป็ด น้ำไม่เกาะขน เพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ตามตัวมาก เป็นนกที่ฉลาด ปรับตัวง่าย จึงเหมือนไม่ค่อยกลัวคนสักเท่าไหร่ กินอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นปลาขนาดเล็ก ซากสัตว์ รวมถึงเศษอาหารจากมนุษย์
ช่วงที่มีนกอพยพมาในเขตบางปู เป็นเหมือนช่วงเวลาพิเศษสำหรับคนมาเที่ยวที่สถานตากอากาศบางปูด้วย เพราะจะได้เห็นนกนางนวลมากมาย และยังสามารถให้อาหารนกได้อย่างใกล้ชิดด้วย อาหารที่จะให้นกนางนวลที่บางปู ก็ค่อนข้างพิเศษไม่เหมือนที่ไหน เพราะเป็นนกที่กิน กากหมู เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีที่เริ่มทำภัตตาคารร้านอาหารบนปลายสะพานสุขตา เมื่อปี พ.ศ.2495 แม่ครัวได้เจียวน้ำมันหมูเพื่อใช้ในการทำอาหาร พอเหลือเป็นกากหมูที่เจียวแล้วเป็นปริมาณมาก จึงมีนกมาโฉบกากหมูไปกินบ้าง ต่อมาทางครัวจึงแบ่งกากหมูใส่ถุง ให้ผู้ที่มารับประทานอาหารที่ภัตตาคารได้ใช้เลี้ยงนกนางนวล จนกลายเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อาหารนกที่จำหน่ายบนสะพานสุขตาจึงเป็นกากหมู และหนังไก่ทอด แบ่งใส่เป็นถุงๆ ไว้ให้ เวลาให้อาหารนก ให้โยนกากหมูขึ้นไปบนอากาศ โยนไปสูงๆ นกนางนวลจะบินโฉบกินเอง เร็วจนกากหมูแทบจะยังตกไม่ถึงพื้นเลย หากตกลงในน้ำ ก็ยังมีนกอีกหลายตัวลอยคอรอรับอาหารอยู่เช่นกัน
นกนางนวลที่เห็นที่บางปู ส่วนใหญ่จะเห็นนกอยู่ 2 ชุด โดยสังเกตจากขนของนก คือ นกที่มีขนชุดฤดูหนาว และขนนกในชุดฤดูร้อน เพราะตอนที่นกอพยพมา นกนางนวลจะมีขนแบบฤดูหนาว ลำตัวเป็นสีขาวสะอาด ที่คอและไหล่มีสีเทาจางๆ บริเวณหลังและปีกเป็นสีเทา ปลายปีกสีดำ ตรงปีกมีวงสีขาวล้อมรอบด้วยสีดำ มีแต้มสีดำตรงข้างหู ปากแหลมสีแดง ตรงปลายจะงอยปากเป็นสีดำ ขาสองข้างสีแดงเข้ม ระหว่างนิ้วเท้ามีพังผืดเหมือนเป็ด จึงพุ้ยน้ำได้ ก่อนที่นกจะอพยพกลับถิ่นฐานบ้านเกิด ในช่วงปลายเดือนเมษายน - พฤษภาคม นกจะผลัดขนใหม่ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะผสมพันธุ์ สีขนทั้งตัวยังคงเป็นสีขาว ยกเว้นส่วนหัวจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ รอบดวงตามีวงสีขาว ปากและขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
สำหรับคนที่มีความสนใจ และชอบศึกษาเรื่องนก ที่บางปูมีนกให้ชมหลากหลายชนิด เช่น
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
บริเวณสถานตากอากาศบางปู ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินเท้า เข้าไปในบริเวณป่าชายเลน มีระบบนิเวศทั้งพืช และสัตว์ต่างๆ ที่พบเห็นได้ตามธรรมชาติริมชายฝั่ง มีต้นไม้ที่พบบริเวณป่าชายเลน ได้แก่ โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ แสมทะเล แสมขาว ลำพู โพทะเล ปอทะเล ชะคราม ผักเบี้ยทะเล บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ ทั้งยังเป็นที่หลบภัยอันตราย สัตว์ที่พบเห็นได้ เช่น หอยสองฝา หอยฝาเดียว กุ้งดีดขัน ปูก้ามดาบ ปูแสมก้ามชมพู แมงดาทะเล ปลาจุมพรวด ปลาตีน ปลาตีนเล็กจุดสีน้ำตาล ปลากระจัง เป็นต้น
เส้นทางศึกษาธรรมชาติเปิดให้บริการทุกวัน โดยเปิดเป็นรอบๆ ละ 20 คน รอบเช้าเวลา 10.00 น. และรอบบ่าย 14.00 น. (ควรโทรติดต่อสอบถามก่อนเข้าชม โทร. 02-709-5005)
สิ่งอำนวยความสะดวกในสถานตากอากาศบางปู
- ในสถานตากอากาศบางปู มีลานจอดรถกว้างขวาง เมื่อขับรถเข้ามา จุดแรกจะเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ทางขวามือ เป็นลานจอดที่มีหลังคาคลุม มีที่จอดเป็นล็อกๆ
- ร้านค้า บริการอาหาร ของขบเคี้ยว ของกินเล่น เครื่องดื่มต่างๆ มีให้บริการอยู่บริเวณใกล้ลานจอดรถด้านหน้า
- ห้องสุขา แยกชายหญิง อยู่บริเวณใกล้ลานจอดรถ
- รถบริการ เป็นรถตุ๊กๆ ให้บริการรับ-ส่งฟรี ระหว่างจุดทางเข้าสะพานสุขตา ไปถึงศาลาสุขใจ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มารับประทานอาหารที่ศาลาสุขใจ และผู้สูงอายุที่เดินไม่สะดวก
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อแนะนำ
การเดินทาง
ห่างจากศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง 5 กิโลเมตร
ห่างจากเมืองโบราณ 5 กิโลเมตร
ห่างจากฟาร์มจระเข้ 10 กิโลเมตร
ห่างจากวัดหลวงพ่อโต (วัดบางพลีใหญ่ใน) 15 กิโลเมตร
ห่างจากตัวเมืองปากน้ำ (แยกศาลากลาง) 16 กิโลเมตร
เส้นทางรถยนต์
เส้นทาง ถนนสุขุมวิทสายเก่า (บางปู)
1 | หากใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ขาออก) จากแยกบางนา มุ่งหน้าสมุทรปราการ ตรงมาตลอดจนถึงสามแยกศาลากลาง จึงเลี้ยวซ้ายไปทางบางปู / ชลบุรี (หรือตามแนวรางรถไฟฟ้าไปเรื่อยๆ) |
2 | เมื่อเลี้ยวแล้ว ตรงตามเส้นทางไปอีกประมาณ 16 กิโลเมตร ผ่านสามแยกการไฟฟ้า ไมอามี่เบย์ไซด์ เมืองโบราณ แล้วจะเห็นสถานตากอากาศบางปูทางขวามือ จากนั้นตรงไปกลับรถ เพื่อเลี้ยวเข้าสถานตากอากาศบางปู |
เส้นทาง ถนนศรีนครินทร์ -> ถนนสุขุมวิทสายเก่า
1 | หากใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ (ขาออก) มุ่งหน้าสมุทรปราการ ให้ตรงมาเรื่อยๆ จนสุดทาง (แยกการไฟฟ้า) จึงเลี้ยวซ้ายตามป้าย บางปู / ชลบุรี (3) ก็จะเข้าสู่ถนนสุขุมวิทสายเก่า |
2 | จากนั้นตรงไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร จะเห็นสถานตากอากาศบางปูทางขวามือ จึงไปกลับรถ เพื่อเลี้ยวเข้าสถานตากอากาศบางปู |
** หากใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) ให้ออกตามป้ายบอกทาง ถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสมุทรปราการ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทสายเก่า
เส้นทาง ถนนบางนา-ตราด -> ถนนศรีนครินทร์ -> ถนนสุขุมวิทสายเก่า
1 | หากใช้เส้นทางถนนบางนา-ตราด (ขาออก) มุ่งหน้าชลบุรี เมื่อผ่านเซ็นทรัลบางนาแล้ว ให้ตามป้ายบอกทางถนนเทพารักษ์ |
2 | เส้นทางจะพาเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ (ตรงแยกศรีเอี่ยม) มุ่งหน้าสมุทรปราการ จากนั้นตรงไปจนสุดสามแยก (แยกการไฟฟ้า) จึงเลี้ยวซ้ายตามป้ายบางปู / ชลบุรี |
3 | เลี้ยวซ้ายไปแล้ว ตรงไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร จะเห็นป้ายสถานตากอากาศบางปูทางขวามือ จากนั้นไปกลับรถ |
** หากใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ให้มุ่งหน้าไปทางบางนา -> ชลบุรี เพื่อไปออกถนนบางนา-ตราด (ขาออก) แล้วตามป้ายถนนเทพารักษ์เพื่อเข้าถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสมุทรปราการ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนสุขุมวิทสายเก่า
รถโดยสารประจำทาง (ดูเส้นทางรถประจำทาง)
รถเมล์ (สุขุมวิท) ลงป้ายแยกศาลากลาง
รถเมล์ (สุขุมวิท) ลงป้ายศาลหลักเมือง
รถเมล์ (จากถนนศรีนครินทร์)
เรือข้ามฟาก
- หากนั่งเรือข้ามฟากจากท่าพระสมุทรเจดีย์ มาขึ้นที่ท่าวิบูลย์ศรี (ตรงตลาดปากน้ำ)
- เมื่อออกจากท่าเรือถึงถนนด้านหน้าท่าเรือข้ามฟาก (ถนนศรีสมุทร) เลี้ยวซ้ายแล้วเดินมาทางศาลากลาง (ตรงสถานีรถไฟฟ้าสมุทรปราการ) เมื่อเดินมาจนถึงสามแยก ข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามศาลากลาง จะมีคิวรถสองแถว สาย 36 (ปากน้ำ-คลองด่าน หรือ ปากน้ำ-นิคมอุตสาหกรรมบางปู) นั่งไปถึงหน้าสถานตากอากาศบางปูเลย
รถไฟฟ้า BTS (สำโรง) + รถตู้
- ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง (ทางออก 1) จากนั้นเดินสกายวอล์คไปทางอิมพีเรียล สำโรง ลงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามอิมพีเรียล
- จากนั้นเดินตรงต่อไปจนถึงธนาคารกรุงเทพ สาขาสำโรง ตรงซอยข้างร้านสูทซาร่า มีคิวรถตู้ สำโรง - คลองด่าน (วิ่งเส้นสุขุมวิทสายเก่า) บอกคนขับจอดที่สถานตากอากาศบางปู
รถไฟฟ้า BTS (เคหะสมุทรปราการ)(จะเปิดใช้ในปี 2561-2562) + รถสองแถว
- ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเคหะสมุทรปราการ (ลงฝั่งตรงข้ามลานจอดรถ)
- จากนั้นขึ้นสองแถว 36 สายปากน้ำ - นิคมบางปู, ปากน้ำ - โลตัส, ปากน้ำ - คลองด่าน หรือรถสองแถวหกล้อใหญ่ สายปากน้ำ - ตำหรุ (บอกกระเป๋าลงสถานตากอากาศบางปู)
ข้อมูลการติดต่อ สถานตากอากาศบางปู
ที่อยู่ กรมพลาธิการทหารบก ถนนสุขุมวิท (กม. 37) ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280
โทร. 02-323-9911, 02-323-1213
เว็บไซต์ https://www.armytour.go.th/th/places/สถานตากอากาศบางปู
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/bangpurta/
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู)
โทร. 02-709-5005
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/FEEDbangpu/
เวลาเปิดทำการ
ทุกวัน 5.00 - 20.00 น.