พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ และเชลยศึก หรือ JEATH เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวต่างชาติที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรก ที่จัดแสดง และถ่ายทอดเรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ครั้งที่เชลยศึกสงครามได้ถูกนำตัวไปสร้างทางรถไฟสายมรณะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดไม่ใหญ่โตนัก เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ได้เข้าชมมาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงเรื่องราวความเป็นอยู่ และความทุกข์ยากลำบากของเชลยศึกกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะ
ลักษณะภายในพิพิธภัณฑ์ ทำเป็นรูปตัวยู มีทางเข้าทางหนึ่ง และให้เดินออกอีกทางหนึ่ง สร้างเป็นโรงเรือนชั้นเดียวทำด้วยไม้ไผ่หลังคามุงจากแบบกระท่อม เพื่อถ่ายทอดให้รู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในค่ายเชลยศึก ในช่วงที่ต้องตรากตรำความลำบากกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ภายในกระท่อมทางเดิน จัดแสดงภาพถ่ายและภาพเขียน พร้อมคำบรรยายที่ให้เห็นความเป็นอยู่ของเหล่าเชลยศึก และประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
อาคารด้านนอกแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของกองทัพญี่ปุ่น เช่น กระติกน้ำ ภาชนะภาคสนาม ดาบ อาวุธปืน ซากระเบิดที่พบเจอหลังจากสงคราม
คำว่า JEATH ที่เป็นชื่อของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มาจากการนำอักษรตัวแรกของแต่ละประเทศที่มีส่วนร่วมในการสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น (Japan) อังกฤษ(England) ออสเตรเลีย(Australia) ไทย(Thailand) และฮอลแลนด์ (Holland) เพื่อรำลึกถึงผู้ที่ต้องเสียสละชีวิตนับหมื่นในสงครามมหาเอเชียบูรพา และผลกระทบจากความโหดร้ายของสงคราม ที่ส่งผลให้ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้การเป็นเชลยศึกสงคราม ต้องถูกทรมาณทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงความยากลำบากในการถูกบีบบังคับให้ตรากตรำทำงานในขณะนั้น
ข้อแนะนำ
- พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ และเชลยศึก หน้าวัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้)นี้ เป็นคนละที่กับ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (อยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว)
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ และเชลยศึก
- จากถนนแสงชูโต (ถนนสายหลักเข้าสู่ตัวเมืองกาญจน์) เมื่อผ่านสามแยกไฟแดงชุกโดน วิ่งไปอีกประมาณ 400 เมตร เลี้ยวซ้าย ตรงป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์สงครามโลก ไปอีกประมาณ 300 เมตร สุดทางจะเป็นพิพิธภัณฑ์ (อยู่ติดกับประตูวัด) สามารถจอดรถไว้ในวัดด้านซ้ายมือได้