ความเป็นมาของอำเภอพนัสนิคม พระอินทอาษา กับเหล่าท้าวพญา และครอบครัวชาวลาวเวียงจันทร์ ได้เข้ามาขอสวามิภักดิ์แด่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงทรงประทานที่ทำมาหากินให้ อยู่ที่ชายเมืองระหว่างชลบุรี กับฉะเชิงเทราต่อกัน ซึ่งเมื่อได้รับพระราชทานที่ทางทำมาหากินแล้ว ชาวลาวก็สร้างที่ดินซึ่งขณะนั้นเป็นป่า จนตั้งหลักปักฐานเป็นหมู่บ้านใหญ่ ที่มีผู้คนอยู่กันอย่างหนาแน่น เรียกชื่อในตอนนั้นว่า บ้านแดนป่าพระรถ และเมื่อรัชกาลที่ 3 ได้จัดระบบการปกครอง ก็ได้ยกหมู่บ้านแดนป่าพระรถ ขึ้นเป็นเมือง (หัวเมืองชั้นตรี) เรียกว่าเมืองพนัสนิคม และทรงโปรดเกล้า ให้พระอินทอาษา เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองพนัสนิคม และได้มีผู้สำเร็จราชการ โดยการสืบสายสกุลมาได้ 4 ชั่วอายุคน คือ 1.พระอินทอาษา หรือท้าวทุม ต้นตระกูล ทุมมานนท์ ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 พนัสนิคมได้ปกครองแบบมีเจ้าเมือง มาได้ประมาณ 80 ปี ก็ได้มีการปฏิรูปการปกครองในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ใน พ.ศ.2447 ได้ทรงจัดระเบียบการปกครองใหม่ให้เป็นมณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ทรงโปรดเกล้าให้เมืองพนัสนิคม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรี และนายอำเภอคนแรกของอำเภอพนัสนิคม ก็คือ หลวงสัจจพันธ์คีรี ศรีรัตนไพรวัน เจฏิยาสัน คามวาสี นพคูหาพนมโขลน นามเดิมว่า บัว ไม่ทราบนามสกุล การประกอบอาชีพ ถ้าพูดถึง พระรถ-เมรี บางคนอาจไม่รู้จัก ถ้างั้น นางสิบสอง ล่ะ .....เริ่มคุ้นกันมาบ้างแล้วใช่ไหม ถ้าตอนเด็ก ๆ ชอบดูละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ละก็น่าจะคุ้นกับชื่อนี้ดี ที่เริ่มต้นเกริ่นถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่า อำเภอพนัสนิคม เคยเป็นเมืองโบราณ ที่มีที่มาที่ไปเกี่ยวพันกับเรื่องนางสิบสองนั่นเอง ถึงกับเคยมีชื่อว่า เมืองพระรถ พนัสนิคมเคยเป็นเมืองโบราณที่รุ่งเรืองมา กว่า 1000 ปี ต่อมา ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 3 ได้ทรงตั้งเมืองพระรถให้เป็นเมือง และประทานชื่อเมืองว่า พนัสนิคม ซึ่ง พนัส แปลว่าป่า และ นิคมแปลว่า หมู่บ้านใหญ่ ซึ่งรวมกันได้ว่าหมู่บ้านใหญ่ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นป่า อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า พนัสนิคมเกี่ยวพันกับ เรื่องนางสิบสอง ซึ่งก็มีสถานที่ และโบราณสถานที่เกี่ยวโยงกับเรื่องนี้จริง โดยในตำนานพระรถ-เมรี มีถ้ำที่ใช้คุมขัง นางสิบสอง (ป้าๆ และแม่ของพระรถ) ซึ่งถ้ำนี้อยู่ใน ต.หมอนนาง ใน อ.พนัสนิคม ในถ้ำปรากฏมีหมอนที่เชื่อกันว่า เป็นหมอนของนางสิบสอง และ ที่ ต.สระสี่เหลี่ยม ก็มีสระน้ำโบราณที่กล่าวกันว่า พระรถ นำไก่ชนมาแวะกินน้ำ ตอนที่จะนำไก่ไปตี ที่เมืองปราจีนบุรี คำขวัญประจำอำเภอ พนัสนิคม คือ ข้อมูลทั่วไป อำเภอพนัสนิคม - ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแปลงยาวและอำเภอบ้านโพธิ์ (ฉะเชิงเทรา) อำเภอพนัสนิคมแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 20 ตำบล ได้แก่
สถานศึกษา ในอำเภอ พนัสนิคม
สถานที่ราชการในอำเภอพนัสนิคม
ธนาคารในอำเภอพนัสนิคม
สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) ใน อ.พนัสนิคม
การเดินทางไป อ. พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ระยะทางจากกรุงเทพฯไป อำเภอพนัสนิคม มีระยะทาง ประมาณ 81 กิโลเมตร ถ้าขับรถไปเองก็ราว ๆ 1.30 ชั่วโมง หรือถ้าไปทางรถโดยสารประจำทางก็แล้วแต่ประเภทของรถที่เราเลือกนั่ง ถ้าเร็วหน่อยก็ ปอ1 เพราะไม่จอดรับระหว่างทาง และขึ้นทางด่วน ถ้าประเภทอื่น ๆ ก็ทำใจหน่อยเพราะจอดรับคนได้ตลอดทาง
ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ในอำเภอพนัสนิคม
ร้านอาหารและร้านค้าที่มีชื่อเสียง ร้านตำหมูย่าง ร้านตำหมูย่าง พนัสนิคม เป็นร้านอาหารมีชื่อ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพนัสเลย ร้านนี้เป็นร้านที่นำเสนอความแตกต่าง เพราะมีเมนูสร้างสรรค์อยู่หลายอย่าง และแน่นอนที่สุดว่าเมนูยอดนิยมจะต้องเป็นตำหมูย่างอย่างแน่นอน แม้ว่าราคาจะถือว่าสูงพอสมควร เมื่อเทียบกับร้านอาหารอื่น ๆ ในพนัส แต่ก็ไม่แพงจนเกินไปนัก Show Image Gallery ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเลิศรส พนัสนิคม ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเลิศรส พนัสนิคม ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเก่าแก่แห่งเมืองพนัส เป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเจ้าเก่าที่คนกินแน่นร้านทุกวัน เป็ดตุ๋นเปื่อยนุ่มลิ้น น้ำซุปหอมอร่อย ร้านนี้เป็นร้านชื่อดัง มีรางวัลการันตีมากมาย มีทั้งก๋วยเตี๋ยว เกาเหลา หรือสั่งเป็นมากินเป็นจาน หรือซื้อกลับบ้านก็ยังได้ ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆ กับธนาคารไทยพานิชย์ Show Image Gallery ร้านอาหารวังเดือนห้า ร้านอาหารวังเดือนห้า เป็นร้านอาหารมีชื่อตั้งอยู่ชานเมืองพนัสนิคม (ประมาณ 7 กิโลเมตร) ร้านนี้มีชื่อในด้านอาหารป่า ซึ่งมีนักท่องเที่ยวแวะมากินอย่างไม่ขาดสาย ร้านนายไฮ้ เกาเหลาเนื้อตุ๋น พนัสนิคม ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าแรกในพนัสนิคม (แต่มีหลายสาขาในชลบุรี) รสชาติมีเอกลักษณ์มาจากร้านไฮ้สูตรต้นตำรับในเมืองชล ทั้งน้ำซุปและลูกชิ้นเนื้อที่ร้านไฮ้ทำเอง เนื้อเปื่อยที่ตุ๋นเปื่อยนุ่ม เนื้อสดที่ไม่มีกลิ่นคาวเนื้อ ร้านนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนวัฒนานุศาสน์ และตั้งอยู่ตรงข้าม กับไปรษณีย์พนัสนิคม ร้านอิ่มจัง หมูกะทะ พนัสนิคม ร้านหมูกระทะเจ้าดังประจำเมืองพนัสฯ จุดเด่นอยู่ตรงที่มีของกินให้เลือกเยอะมาก และไม่ใช่เน้นแต่ปริมาณ แต่ยังมีรสชาติอร่อยด้วย อาทิเช่น กับข้าวสารพัดอย่าง, ส้มตำ, ไก่ย่าง, ไก่ทอด, สารพัดยำ, หอยแครงหอยเมลงภู่ลวก, ขนมจีบ-ซาลาเปา, ขนมหวานเย็น, ไอติม ทั้งโบราณ และไม่โบราณ เรียกได้ว่ากินแค่ของพวกนี้อย่างละนิดอย่างละหน่อยก็อิ่มแล้ว กินของปิ้งย่างได้นิดเดียวก็แน่นท้องไปหมด ราคาก็ตกคนละร้อยกว่าบาท ร้านนี้อยู่ตรงกันข้ามโดยเยื้อง ๆ กับโรงพยาบาลพนัสนิคม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||