สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเวลาไปเที่ยวเกาะเสม็ดอยู่นั้น เราต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
ก่อนอื่นเลยเราต้องเดินทางไปที่บ้านเพ ซึ่งหากเดินทางมาจากกรุงเทพ ก็ทำได้ไม่ยากเลย เพราะสามารถเดินทางมาด้วยรถประจำทาง (รถปอ.1) รถตู้ หรือขับรถมาเองก็ได้ โดยที่บริเวณท่าเรือแถวบ้านเพ จะมีจุดบริการรับฝากรถอยู่หลายจุดเลย การเดินทางด้วยรถประจำทาง สำหรับคนที่สะดวกในการขึ้นรถประจำทางไปเกาะเสม็ด สามารถขึ้นรถได้ที่ ขนส่งภาคตะวันออก เอกมัย โดยจะมีรถปรับอากาศ ชั้น 1 (ปอ.1) ของ บริษัท เชิดชัย ทัวร์ จำกัด พร้อมให้บริการอยู่ เส้นทางการเดินทางนั้นจะเป็น กรุงเทพ – ท่าเรือนวลทิพย์ (บ้านเพ จ.ระยอง) ซึ่งพอลงรถที่คิวรถตรงบ้านเพแล้ว แค่เดินข้ามฝั่งมาก็จะถึงท่าเรือนวลทิพย์เลย * เราสามารถซื้อตั๋วได้ทั้งแบบเที่ยวเดียวและไปกลับ (ถ้าซื้อแบบไปกลับจะได้ราคาที่ถูกลง รวมถึงเราไม่จำเป็นต้องระบุวันกลับด้วย ทำให้สะดวกมากสำหรับคนที่คิดว่าอาจจะเที่ยวไหลต่ออีกสักวันสองวัน) ราคาค่าโดยสาร: 155 บาท (ตั๋วเที่ยวเดียว) / 293 บาท (ตั๋วไปกลับ)
โทรศัพท์ (บ้านเพ): 038-651-1508, 038-651-1514 หมายเหตุ ** ราคาค่าตั๋วอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบกับทางผู้จำหน่ายตั๋วอีกครั้ง การเดินทางด้วยรถตู้โดยสาร รถตู้โดยสาร เป็นอีกทางเลือกที่ค่อนข้างสะดวก และใช้บริการได้ง่าย หากต้องการเดินทางไปบ้านเพด้วยรถตู้ จะมีวินรถตู้อยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ถึง 3 จุด คือ - หน้าภัตตาคารพงหลี ส่วนขากลับวินจะอยู่แถว ๆ ท่าเรืออยู่แล้ว หรือโทรติดต่อให้ทางรถตู้มารับก็ได้ ราคาค่าโดยสารเที่ยวละ 160 - 200 บาท/คน (ถ้าซื้อตั๋วไป-กลับ บางทีได้ลดราคาอีก) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 -3.30 ชั่วโมง (รถออกทุก 40 นาที) วินรถตู้ "ครัวคุณป้า" อยู่หน้าภัตตาคารพงหลี (หรือราชวิถีซอย 11) ใกล้ห้างเซ็นเตอร์วัน (*ขากลับจากบ้านเพ รถจะจอดที่หน้า 7-11) - เวลารถออก จากอนุสาวรีย์: 06.00 - 20.00 น. โทรศัพท์ อนุสาวรีย์ชัย โทรศัพท์ บ้านเพ (ครัวคุณป้า) โทรศัพท์ บ้านเพ (หน้าเทศบาลเพ) โทรศัพท์ ระยอง เฟสบุ๊ค วินครัวคุณป้า วินรถตู้ "PP" อยู่บริเวณฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี (ราชวิถี ซอย 13) ติดบันไดรถไฟฟ้า BTS ตรงทางออกที่ 3 (*ขากลับจากบ้านเพ รถจะจอดที่หน้า 7-11) - เวลารถออก จากอนุสาวรีย์: 05.10 - 20.30 น. โทรศัพท์ อนุสาวรีย์ชัย โทรศัพท์ บ้านเพ (หน้าท่าเรือเพ) โทรศัพท์ ระยอง (ตรงข้ามโฮมโปร) วินรถตู้ "BH" อยู่บริเวณอยู่หน้าเซ็นจูรี่ (ตรง BTS ทางออกที่ 3) (*ขากลับจากบ้านเพ รถจะจอดที่หน้า 7-11) - เวลาเดินรถ ตั้งแต่ 5.00 - 20.00 น. โทรศัพท์ อนุสาวรีย์ชัย โทรศัพท์ หมอชิต โทรศัพท์ ระยอง โทรศัพท์ มาบตาพุด ข้อแนะนำในการเดินทางด้วยรถตู้ * ก่อนขึ้นเรือกลับจากเกาะเสม็ดมาบ้านเพ ควรโทรแจ้งรถตู้ก่อน เพื่อรถตู้จะได้เตรียมตัวมารับเราที่ท่าเรือ (ทางรถตู้โดยสารจะได้คำนวนคนไว้ล่วงหน้าว่า คนจะพอสำหรับออกรถได้แล้ว) ** ควรตรวจสอบรอบการเดินทางของรถตู้โดยสาร จากผู้ให้บริการอีกครั้ง เพราะข้อมูลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว (ขับรถไปเอง) สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น หากมาจากกรุงเทพ จะมีเส้นทางสำหรับมา จ.ระยอง หลายเส้นทางมาก แต่ถ้าจะเอาเส้นทางที่ "ง่าย" ที่สุด ขอแนะนำเป็น การเดินทางด้วย "ถนนมอเตอร์เวย์ (ถนนหมายเลข 7) + ถนนเส้น 36 + ถนนสุขุมวิท(ถนนหมายเลข 3) " ทั้งนี้ก็เพราะว่า การเดินทางด้วยเส้นทางนี้ ค่อนข้างง่าย เรียกได้ว่าการที่เดินทางด้วยเส้นทางนี้ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย เพราะตรงตามทางหลักแทบจะตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ การเดินทางด้วยถนนมอเตอร์เวย์และเส้น 36 ยังใช้เวลาในการเดินทางไประยองได้เร็วที่สุดอีกด้วย (ใช้เวลาเพียงประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะขับเร็วแค่ไหนนั่นเอง) การเดินทางจากกรุงเทพ ไป บ้านเพ โดยใช้ถนนเส้นมอเตอร์เวย์ 1. ออกจากกรุงเทพแล้วตรงมาทางชลบุรี (โดยใช้ถนนหมายเลข 7 ) * อย่างที่บอกไปแล้วว่า เราสามารถเดินทางไประยองได้หลายเส้นทาง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การเดินทางไประยอง ใบฝากรถแบบค้างคืนบริเวณท่าเรือนวลทิพย์ ค่าจอดรถแบบไปกลับ 50 บาท / ค้างคืน 80 บาท การไปเกาะเสม็ดนั้น เราจะมาจอดรถที่บ้านเพ แล้วจึงนั่งเรือข้ามไปเกาะเสม็ด ดังนั้นที่จอดรถส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ ๆ ท่าเรืออยู่แล้ว ทำให้ค่อนข้างสะดวกทั้งขาไปและขากลับ
* สำหรับผู้ที่ขับรถมา ไม่ต้องกังวลใจเรื่องที่จอดรถเวลาเราไปเที่ยวเกาะเสม็ด เพราะว่าบริเวณท่าเรือมีบริการรับฝากรถอยู่ด้วย โดยคิดค่าบริการ วันละ 50-80 บาท (ราคาค่าฝากรถ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ได้ยินว่าบางแห่งเก็บ 100 บาท/คืน) สามารถฝากได้ทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือ แบบค้างคืน ทางท่าเรือจะมีใบรับฝากรถให้ (ซึ่งเราควรเก็บไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ตอนมารับรถ) ตอนกลับมารับรถจึงนำใบรับรถมาแจ้งรับรถ ก็สะดวกรวดเร็วดี ** ที่จอดรถส่วนใหญ่ไม่ต้องฝากกุญแจรถ (ทำให้เจ้าของรถมั่นใจมากขึ้นในระดับนึง) ซึ่งหากตรงท่าเรือที่จอดเต็มแล้ว เขาจะพาไปจอดในที่ส่วนอื่นของท่า ซึ่งอาจจะเป็นรีสอร์ทของท่าที่อยู่ใกล้ๆ แผนผังบ้านเพ มาลองดูแผนผังคร่าว ๆ ของบ้านเพกันก่อน เพราะหากเราเข้าใจตำแหน่งที่ตั้งของ สถานที่หลัก ๆ ในบริเวณนี้ได้แล้ว การจะไปท่าเรือที่เราต้องการนั้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แผนผังบ้านเพ ตำแหน่งตลาดสด และท่าเรือต่าง ๆ ณ บ้านเพ จ.ระยอง
เมื่อเรามาถึงบ้านเพแล้ว เราต้องอาศัยบริการเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะเสม็ด ซึ่งเราสามารถเลือกได้ทั้งการเดินทางด้วยเรือโดยสารแบบปกติ และ เรือเร็วสปีดโบ๊ท ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเรารีบ (ไปเชยชมเกาะเสม็ด) มากแค่ไหนนั่นเอง 2.การเดินทางด้วยเรือโดยสาร (แบบปกติ) เพิ่มเติม แม้ว่าที่บ้านเพ จะมีท่าเรือที่ให้บริการเรือโดยสารอยู่หลายแห่ง แต่ท่าเรือนวลทิพย์ และ ท่าเรือเพ เป็นที่นิยมมากกว่า (หากเทียบกับท่าเรืออื่น ๆ ในละแวกเดียวกัน) ซึ่งนั่นหมายความว่า รอบเรือจะถี่กว่าท่าเรืออื่น ๆ ด้วยนั่นเอง (ทำให้เราไม่ต้องรอนานจนเกินไป โดยเฉพาะการเดินทาง ที่ไม่ใช่วันหยุด) แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยเรือโดยสารนั้น เรือจะทำการรอผู้โดยสารให้ได้จำนวนก่อน จึงจะทำการออกเรือ การเดินทางด้วยเรือโดยสาร (เรือเฟอรี่ หรือ เรือช้า) ถือเป็นวิธีการข้ามเกาะที่ค่อนข้างสะดวก และประหยัดที่สุด เรือช้ามีลักษณะเหมือนเรือหาปลาดัดแปลงให้เป็นเรือโดยสาร ส่วนใหญ่ทำเป็นเรือ 2 ชั้น มีเรือออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 08.00 - 18.00 น. ช่วงวันหยุดอาจมีเรือออกบ่อยขึ้น ทุก 30 นาที
โทรศัพท์ (ท่าเรือนวลทิพย์): 083-354-5622, 038-651-508, 038-651-514 โทรศัพท์ (ท่าเรือเพ): 038-896-155-6, 086-394-6765 โทรศัพท์ (ท่าเรือโชคกฤษดา): 038-652-040, 089-749-7093, 085-501-0009 โทรศัพท์ (ท่าเรือเทศบาลบ้านเพ): 083-354-5622, 038-651-508, 038-651-514 โทรศัพท์ (ท่าเรือศรีบ้านเพ): 038-651-901, 038-653-135 ข้อมูลตั๋วเรือและค่าโดยสาร ก่อนใช้บริการเรือโดยสาร เรามาดูข้อมูลคร่าว ๆ กันก่อนว่า การเดินทางไปเกาะเสม็ดด้วยเรือช้านั้น มีทางเลือกอะไรบ้าง และราคาโยสารนั้นคิดอย่างไร ประเภทตั๋วเรือโดยสาร ตั๋วเรือโดยสารไปเกาะเสม็ดนั้น มีอยู่ 2 ประเภท คือ
ค่าเรือโดยสาร ค่าตั๋วเรือ จะคิดราคาตามระยะทาง ซึ่งราคา (โดยทั่วไป) ของตั๋วเรือเกาะเสม็ดนั้น คือ
จะเห็นได้ว่า การไปเกาะเสม็ดนั้น เราสามารถซื้อได้ทั้งตั๋วเที่ยวเดียว หรือ ตั๋วไป-กลับ (แต่คนขายตั๋วมักจะเชียร์ให้ซื้อแบบไป-กลับเลย เพราะเค้าได้ลูกค้าแน่นอน) อย่างไรก็ตาม ท่าเรือบางแห่ง จะคิดราคาตั๋วเที่ยวให้เดียวแพงกว่าซื้อแบบไป-กลับ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นว่า ตั๋วแบบไป-กลับคุ้มค่ากว่า (เช่นตั๋วเที่ยวเดียวขาย 70 บาท ไป-กลับขาย 100 บาท ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ให้บริการเอง และก็เป็นสิทธิ์ของเรา ที่จะเลือกใช้บริการหรือไม่ เช่นกัน) ข้อมูลรอบเรือโดยสาร โดยทั่วไปแล้วจะมีเรือช้าไปส่งที่ท่าเรือหน้าด่าน กับอ่าววงเดือน (เรือช้าไม่ได้ไปทุกอ่าวนะ) เรือไปท่าหน้าด่านจะมีทุกชั่วโมง ส่วนที่ไปอ่าววงเดือน จะมีเรือออกเป็นรอบๆ (ขาไป 2 รอบ/วัน ขากลับ 3 รอบ/วัน) รอบเรือ ท่าหน้าด่าน
หากเรือหมดแล้ว ท่าเรือนวลทิพย์ จะยังคงมีให้บริการเป็นเรือเร็วอยู่ แต่จะบอกไม่ได้ว่าออกตอนไหน ต้องรอคนให้ได้จำนวนหนึ่งก่อนเรือจึงจะออก หากคนยังไม่ครบจำนวน เราอาจจะเลือกจ่ายเพิ่ม หรือราคาเหมาลำไป เพื่อให้เรือออกเร็วขึ้นได้ รอบเรือ อ่าววงเดือน
เรือที่ไปอ่าววงเดือนติดต่อได้ที่ท่านวลทิพย์ ท่าเรือเพ (เรือของมาลิบู) และท่าเรือเทศบาลบ้านเพ(เรือของวงเดือนรีสอร์ท) ท่าเรือแต่ละแห่งจะมีรอบเรือต่างกันอยู่บ้าง (ยังไงก็ควรโทรสอบถามเวลาที่ออกเรือจากท่าเรือที่แน่นอนอีกครั้ง) เมื่อนั่งเรือจากบ้านเพ มาถึง ท่าหน้าด่าน นักท่องเที่ยวแทบทุกคน มักจะนั่งเรือไปลงที่ท่าหน้าด่าน เพราะใกล้ที่สุด และมีรอบเรือที่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วงที่ใกล้จะถึงท่าหน้าด่าน เราจะสามารถมองเห็นตัวท่าเรือได้เด่นชัดมาก เพราะตกแต่งได้มีสไตล์ด้วยสีฟ้าและสีขาว พร้อมกับมีรูปปั้นนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร อยู่ตรงท่าเรือด้วย อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาลงที่ท่าหน้าด่าน ต้องเสีย "ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารผ่านท่าเทียบเรือ" ด้วย ซึ่งปัจจุบันเสีย 20 บาท (จากเดิมคือ 10 บาท ปรับราคาขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557) โดยที่ "ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารผ่านท่าเทียบเรือ" กับ "ค่าธรรมเนียมอุทยาน" นั้น แยกส่วนกัน ดังนั้นเราจะเสียค่าเข้าอุทยานอีก 40 บาท รวมทั้งหมดเป็น 60 บาท ป้ายปรับราคาค่าธรรมเนียมการใช้บริการท่าเรือหน้าด่าน ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมการใช้บริการท่าหน้าด่าน การเดินทางด้วยเรือเร็ว (Speed Boat) หากไปอ่าวที่ไม่มีท่าเรือเช่น หาดทรายแก้ว อ่าวววงเดือน อ่าวทับทิม อ่าวแสงเทียน เรือเร็วจะเข้าไปจอดเกือบถึงหาดเลย ตอนลงจากเรือ เราจะต้องเปียกนิดนึงนะ (อาจจะแค่เข่า) เพราะเรือไม่สามารถเข้ามาถึงตรงที่แห้งๆ ได้ (เรือ Speedboat จอดได้แค่ช่วงที่น้ำตื้นหน่อยเท่านั้น) แต่ถ้าหากเรานั่งเรือเร็ว ไปลงอ่าวที่มีสะพานยื่นออกมา อย่างเช่น ท่าหน้าด่าน อ่าวกลาง อ่าวช่อ อ่าวลุงดำ หรือ รีสอร์ทบางแห่ง ที่มีอุปกรณ์ที่สามารถไปรับคนใกล้ๆ ฝั่ง อันนี้ก็จะขึ้นฝั่งได้โดยไม่เปียก หากเราต้องการเดินทางแบบรวดเร็วทันใจ คงหนีไม่พ้นการใช้บริการสปีดโบ๊ท (หรือที่เรียกกันว่า เรือเร็ว) ซึ่งมีให้บริการที่แถวท่าเรืออยู่แล้ว ซึ่งการเดินทางจะทำได้รวดเร็วมาก ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 15 นาทีก็ถึงเกาะเสม็ดแล้ว รวมถึงยังสามารถส่งเราไปยังอ่าวที่เราต้องการโดยตรงอีกด้วย การที่เราสามารถนั่งเรือตรงไปยังหาดที่เราต้องการได้เลยนั้น ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจุกจิกอย่าง ค่าธรรมเนียมท่าเรือ ค่าโดยสารรถสองแถว (กรณีไปอ่าวที่อยู่ห่างไกล) เรือเร็วมี 2 แบบคือ
หากต้องลงจากเรือเร็วแล้วเดินเข้าฝั่ง แนะนำให้ถอดรองเท้าก่อน เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รองเท้าแตะขาดตอนเดินในทะเลเข้าฝั่งเนี่ยแหละ แถมขาดทีเดียวสองข้างเลยด้วย (แม้ว่าหากรองเท้าขาด เราสามารถหาซื้อรองเท้าแตะบนเกาะได้ก็จริง แต่ทางที่ดีไม่เสียเงินดีกว่านะ) ข้อแนะนำ และ ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรือโดยสาร
การเดินทางบนเกาะเสม็ดในปัจจุบันนั้น ถือว่าไม่ยากเท่าไรแล้ว เพราะถนนหนทางก็สร้างไปจนถึงท้ายเกาะแล้ว ไม่ต้องมาวัดใจกับทางลูกรังอย่างแต่ก่อน นอกจากนั้นเรายังสามารถหารถโดยสารได้ง่ายอีกด้วย เพราะแค่เดินออกมาจากท่าเรือหน้าด่านปุ๊บ เราก็จะมองเห็นจุดบริการรถสองแถว และจุดเช่ารถมอเตอร์ไซต์ได้เลย (แต่ถ้าหากลงที่ท่าเรืออื่น ความสะดวกสบายในการหาจุดขึ้นรถโดยสาร จะน้อยกว่านี้นะ อาจต้องเดินสักไประยะหนึ่ง เพื่อขึ้นรถสองแถวโดยสาร) ในปัจจุบัน บนเกาะเสม็ดไม่มี รถ ATV ให้เช่าแล้ว (ใครทิ่กำลังคิดว่ามาเกาะเสม็ด ต้องมาขี่ ATV แบบเมื่อก่อนนั้น คงต้องปรับเปลี่ยนแผนกันใหม่นะ) ซึ่งเท่าที่สอบถามดูแล้วพบว่า มีสาเหตุมาจากการที่รถ ATV นั้น มีส่วนในการเกิดอุบัติเหตุครั้ง (เพราะมีความแรงไม่น้อย ทำให้คนขับไม่ค่อยระมัดระวัง) นอกจากนั้นยังมีเหตุผล อย่างเส้นทางถนนที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ไปจนถึงท้ายเกาะแล้ว จึงทำให้ความนิยมในการใช้บริการ ATV ลดลงไปจากเมื่อก่อนด้วย อย่างไรก็ตาม การหมดไปของรถ ATV ก็ ทำให้เกิดตัวเลือกใหม่ ๆ อย่างรถกอล์ฟ และ จักรยาน เข้ามาเป็นพาหนะทางเลือก สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย เมื่อเราออกมาจากท่าเรือหน้าด่าน สังเกตว่าุปัจจุบันไม่ได้มี เซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ตั้งอยู่คู่กัน เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เหลือแค่เซเว่นด้านซ้ายแค่ร้านเดียวเท่านั้น อย่างว่าแหละนะ "เวลาเปลี่ยน เสม็ดก็เปลี่ยน…" หลาย ๆ คน อาจเคยได้ยินมาว่า หาดทรายแก้ว (หาดยอดนิยม) นั้น อยู่ไม่ไกลจากท่าหน้าด่านมาก สามารถเดินไปได้ อันนี้ จะว่าจริงก็ได้ ไม่จริงก็ดี เพราะมีระยะทางประมาณ 700-800 เมตร ซึ่งอาจจะดูไม่ไกลเท่าไร แต่หากลองนึกถึงว่า ตอนที่เรามา เราต้องแบกสัมภาระ และเป็นวันที่ร้อนระอุด้วยแล้วละก็ คงเหนื่อยพอดูเลยทีเดียว แนะนำให้ยอมเสียค่าสองแถว 20 บาทดีกว่า แถมรถสองแถวบริเวณท่าหน้าด่าน ยังออกไวอีกด้วย (แต่ถ้าใครมาตัวปลิว ๆ จะเดินชิลล์ ไปหาดก็ได้นะ สองข้างทางมีร้านค้า ได้ชมเมืองไปเพลินๆ ก็อาจรู้สึกว่าใกล้นิดเดียวก็ได้) ตัวอย่าง ป้ายค่าโดยสารรถสองแถว ณ คิวอ่าวพร้าว บริเวณคิวรถสองแถว (แทบทุกจุด ทั้งท่าหน้าด่าน อ่าวต่าง ๆ ) จะมีป้ายบอกราคาไว้อย่างชัดเจน ว่าถ้าเดินทางไปที่ไหน ราคาเท่าไร โดยที่มีราคาบอกทั้งราคาต่อคน และราคาเหมา เช่น จากท่าหน้าด่าน ไป อ่าวพร้าว ราคาต่อคน 30 บาท / ราคาเหมา 250 บาท * รถสองแถวไม่ได้มีทุกอ่าว (บางอ่าวไม่มีคิวรถเลย) หากต้องการใช้บริการจริงๆ ให้ทางรีสอร์ทที่พักอยู่ช่วยโทรตามให้ก็ได้ บนเกาะเสม็ดนั้น การเดินทางด้วยรถสองแถวโดยสาร ถือเป็นพาหนะที่มีค่อนข้างปลอดภัย และมีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด (หากเราไปต่อเดียวจบนะ ไม่ใช่เดี๋ยวๆ ก็ใช้บริการไปนู่น นั่น นี่ ถ้าเป็นแบบนั้น หาเช่ามอเตอร์ไซต์ หรือ ว่ารถกอล์ฟ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า) แต่ที่จริงราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางที่เราไปด้วย โดยที่ค่าโดยสารจะคิดต่อคน เช่น ถ้าเราไป 2 คน เราก็จะโดยสารรถสองแถวไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ นั่นเอง (นั่นหมายถึงว่า รถต้องรอคิวให้ได้จำนวนคนสักหน่อยก่อน แต่ถ้าเป็นท่าหน้าด่านก็รอแปปเดียวรถก็ออกแล้ว) แต่หากเราอยากจะเหมาไป ก็สามารถทำได้เช่นกัน (หากมาเที่ยวกันเป็นกลุ่ม การเหมารถสองแถว ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกไม่น้อยเลย ) รถสองแถวบนเกาะเสม็ด จะเป็นรถกระบะสีเขียว (ไม่มีหลังคาคลุมหลังกระบะ เหมือนรถสองแถวทั่ว ๆ ไป) ข้อควรทราบ! - คิวท่าหน้าด่าน (เดินออกจากท่าเรือปุ๊บ ก็เจอคิวรถทางขวามือเลย) - คิวหาดทรายแก้ว (อยู่ตรงแถวด่านเก็บเงินอุทยาน คอยรับคนกลับไปท่าเรือหน้าด่าน) - คิวทรายแก้วบีช (อยู่หน้าทรายแก้ว บีช รีสอร์ท ใครพักอยู่ใกล้ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท ก็ใช้บริการนี้ได้) - คิวอ่าวทับทิม (อยู่ตรงบริเวณกลางๆ อ่าว ระหว่างอ่าวพุทรา กับอ่าวทับทิม จะมีรถสองแถวจอดรอผู้โดยสารอยู่) - คิวอ่าววงเดือน (อยู่ในซอยด้านข้าง มาลิบู เป็นซอยเล็กๆ ข้าง 108 Shop ให้เดินทะลุออกไปด้านหลัง คิวนี้ใช้ร่วมกับอ่าวช่อด้วย) - คิวอ่าวหวาย (อยู่ตรงริมถนน ด้านหลังเสม็ด วิลล์ รีสอร์ท) - คิวอ่าวพร้าว (อยู่ปากทางถนนที่เข้าอ่าวพร้าว ใกล้กับเลอ วิมาน รีสอร์ท) - คิวอ่าวกลาง (อยู่บริเวณศาลาตรงท่าเรืออ่าวกลาง) รถมอเตอร์ไซค์ การเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อขับขี่เที่ยวชมเกาะเสม็ดนั้น เป็นตัวเลือกที่เป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะค่าเช่าไม่แพง สะดวกคล่องตัว และเส้นทางบนเกาะเสม็ดไม่ลำบากเหมือนเมื่อหลายปีก่อน มีถนนหนทางจากท่าเรือไปจนถึงท้ายเกาะเลย นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวที่มาเป็นคู่อยู่ไม่น้อย จึงค่อนข้างเหมาะที่จะเลือกมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะในการเดินทาง (เกือบลืมบอกไป บนเกาะไม่มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างนะ) สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่านั้น หาได้ทั้งบริเวณท่าเรือหน้าด่าน และตามหาดหลัก ๆ บนเกาะเสม็ด เช่น หาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าววงเดือน และ อ่าวพร้าว เป็นต้น โดยที่ราคาค่าเช่านั้น ดูเหมือนว่าแถวท่าหน้าด่าน / แถวหาดทรายแก้ว จะมีราคาค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น คือ 300 บาทต่อวัน (มีน้ำมันเต็มถังหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ) หากต้องการเช่าเป็นชั่วโมง คิด 100 บาท/ชั่วโมง และหากเป็นหาดที่อยู่ไกลออกไปหน่อย ราคาเช่ามอเตอร์ไซค์ อาจจะมีการชาร์จราคาเพิ่มเป็น 400 - 500 บาท ต่อวันได้ อย่างไรก็ตาม หากใครหารถมอเตอร์ไซค์เช่าไม่ได้ หรือหาดนั้นไม่มีผู้ให้บริการเลย ให้ลองติดต่อสอบถามทางรีสอร์ทดู เพราะทางรีสอร์ทมักจะสามารถติดต่อให้เราได้ (แต่อาจคิดค่า contact นิดหน่อยนะ)
ข้อควรทราบ! ลูกระนาด (ใหญ่) ตลอดเส้นทางบนเกาะเสม็ด * ที่จริงแล้ว หากเป็นคนที่ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อน แนะนำว่า อย่าเช่ามอเตอร์ไซค์ดีกว่า เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ ในปัจจุบันจะเป็น Automatic เยอะแล้ว แต่ถนนที่ยาวไปถึงท้ายเกาะนั้น มีเนินและลูกระนาดใหญ่ (แบบหลังเต่า) อยู่ตลอดเส้นทาง ซึ่งน่าจะทำใว้เพื่อให้รถโดยสารต่างๆ ขับไม่เร็วจนเกินไปนัก ดังนั้นจึงอาจทำให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้นด้วย (แต่หากใครเคยขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บ้าง แค่ไม่ค่อยคล่อง อันนี้พอไหวอยู่นะ) ** สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือถนนบนเกาะเป็นถนน 2 เลนแบบแคบหน่อย และใช้ถนนร่วมกันกับรถสองแถว และรถบรรทุกน้ำ บางช่วงถนนเป็นโค้งหักศอก และขึ้นเนินลงเนิน ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ขณะที่รถสวนทางมาด้วย รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์และนักขัตฤกษ์ จะมีการขับขี่กันเยอะ ควรระวังมากขึ้นด้วยเช่นกัน *** ถึงจะบอกว่า เส้นทางถนนบนเกาะเสม็ดนั้นสร้างเสร็จแล้ว แต่ถนนที่ว่านั้น สร้างเฉพาะถนนเส้นหลักนะ ทางลงหาดต่างๆ ยังเป็นทางลูกรังอยู่แทบทุกหาดเลย ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังในการแวะชมหาดต่างๆ ด้วย (โดยเฉพาะคนที่ยังขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ค่อยเป็น หรือไม่ค่อยคล่อง) รถกอล์ฟ ค่าเช่ารถกอล์ฟบนเกาะเสม็ดนั้น จะมีราคาค่อนข้างสูง เพราะเท่าที่สอบถามมา ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทต่อวันเลยทีเดียว (แต่สามารถบรรทุกคนได้เกิน 2 คน อาจจะได้ 3-4 คนแบบสบาย ๆ หากใช้ในการเดินทางที่ ๆ มีเนินไม่สูงมาก) สำหรับรถกอล์ฟให้เช่านั้น ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการเดินทางเที่ยวรอบเกาะแบบชิลล์ๆ ขับขี่ได้ง่ายกว่ามอเตอร์ไซค์มาก (ความเร็วไม่สูงมาก บวกกับการที่ตัวรถมี 4 ล้อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ยากกว่า) และถึงแม้ว่ารถกอล์ฟจะไม่เร็วแรงเท่ามอเตอร์ไซค์ (หรือ รถ ATV บนเกาะเสม็ดในอดีต) แต่เจ้ารถกอล์ฟนี้ ก็สามารถพานักท่องเที่ยวไปได้จนสุดเกาะเช่นเดียวกับพาหนะอื่นๆ เช่นเดียวกัน นอกจากนี้รถกอล์ฟยังมีหลังคาบังแดดได้อีกด้วย (อาจจะบังได้ไม่มิด แต่ได้บ้างก็ยังดีนะ)
รถจักรยาน ในปัจจุบัน กระแสของการใช้จักรยานในประเทศไทย มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย ดังนั้นบนเกาะเสม็ด จึงมีรถจักรยานให้เช่า เป็นพาหนะทางเลือกอีกทาง แต่ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจักรยาน น่าจะเหมาะกับนักกีฬา หรือคนที่ต้องการความท้าทาย เท่านั้น เพราะถ้าหากจะขี่รถสำรวจเกาะเสม็ดนี่ ต้องเจอเนินเขาขึ้น ๆ ลง ๆ มากมายเลยทีเดียว ในส่วนของราคาเช่ารถจักรยานนั้น ก็จะถูกกว่าราคาเช่ามอเตอร์ไซต์นิดหน่อย ประมาณ 200 บาท ต่อวัน (24 ชั่วโมง เหมือนกัน) โดยที่จักยานบนเกาะเสม็ดนี้อาจมีทั้ง จักรยานแบบทั่ว ๆ ไป หรือ จักรยานที่ถูกดัดแปลงให้มีล้อใหญ่ขึ้น เวลาไปเจอทรายจะควบคุมได้ง่ายขึ้น
| ||||||