พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน



พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นสถานที่สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมการแสดงหนังใหญ่ และเก็บรักษาตัวหนังใหญ่ ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้เรียนรู้สืบไป การแสดงหนังใหญ่ เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูง ที่ผสมผสานศิลปะหลายด้าน ทั้งหัตถศิลป์ นาฎศิลป์ วรรณศิลป์ และคีตศิลป์ ซึ่งพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอนนี้ถือเป็น 1 ใน 3 แห่งที่เหลืออยู่ อีก 2 แห่งคือ วัดขนอนจังหวัดราชบุรี และวัดสว่างอารมณ์จังหวัดสิงห์บุรี

พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน ตั้งอยู่ในวัดบ้านดอน หมู่ 4 ตำบลเชิงเนิน ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถเข้าชมได้ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ส่วนที่เก็บอนุรักษ์หนังใหญ่ ที่เก็บหนังใหญ่อายุกว่า 200 ปี

… อันหนังใหญ่แสนดีมีค่านัก
อนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลาน
มรดกไทยแท้แต่โบราณ
เป็นผลงานศิลปะสลักลาย
… ของดีเมืองระยองคือของชาติ
หนังผุขาดชำรุดไปน่าใจหาย
โปรดช่วยกันรักษาอย่าดูดาย
เชิญหญิงชายสัมผัสทัศนา

 

"อำนาจ มณีแสง" กวีจังหวัดระยอง

หนังใหญ่วัดบ้านดอน มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยพระยาศรีสมุทรโภคชัยโชคชิด บังคราม (เกตุ ยมจินดา) ประมาณปี พ.ศ. 2431 เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดระยอง ได้เห็นว่าวัฒนธรรมการเล่นหนังใหญ่ เป็นสิ่งควรค่าที่จะอนุรักษ์สืบทอดไว้ จึงซื้อตัวหนังใหญ่มาจากจังหวัดพัทลุงจำนวนหนึ่งชุด ประมาณ 200 ตัว ขนส่งข้ามอ่าวไทยมาทางเรือ พร้อมทั้งจ้างครูหนังมาช่วยในการฝึกสอน ถ่ายทอดการแสดงให้กับคนของท่านเจ้าเมือง เพื่อแสดงในงานสำคัญๆ ระยะแรกได้จัดแสดงที่วัดจันทอุดม (วัดเก๋ง) ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลระยอง ต่อมาได้มีการย้ายสถานที่เพื่อสะดวกในการฝึกซ้อม การแสดงจึงถูกย้ายมายังวัดบ้านดอน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2523 ได้มีการฝึกซ้อมหนังใหญ่ และนำออกแสดงตามงานต่างๆ อีกครั้ง เช่น งานหมู่บ้าน งานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี งานสงกรานต์ เพื่อเป็นการฟื้นฟู การสืบสานศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นที่เคยมี ต่อมาพระครูปัญญาวุฒิกร อดีตเจ้าอาวาส เห็นว่าควรมีสถานที่เก็บอนุรักษ์ตัวหนังให้ดีกว่าเดิม เพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานสามารถเห็นศิลปเก่าแก่ จึงริเริ่มโครงการสร้างอาคารเพื่อเก็บหนังใหญ่ และเปิดให้คนได้เข้าชมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534

 

ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตัวหนังใหญ่ มีตู้เก็บตัวหนัง เป็นกล่องไฟ เพื่อให้เห็นลวดลายที่วิจิตรบรรจงบนตัวหนังใหญ่ ตัวหนังทั้งหมดได้ถูกเปลี่ยนไม้ตับ (ไม้ถือ) จากไม้ไผ่เป็นไม้เหลาชะโอน เพื่อความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม เพื่อรับฟังคำบรรยาย ชมวีดีทัศน์การแสดงหนังใหญ่ด้วย ปัจจุบันหนังใหญ่ที่เคยมีอยู่จาก 200 ตัว ได้ผุพังไปบ้าง จึงได้มีการทำเพิ่มเติมอีก 77 ตัว และใช้เล่นแสดงร่วมกันกับหนังใหญ่ชุดเดิม

ตัวหนังที่สำคัญที่จัดแสดงไว้คือ
- หนังเจ้าหรือหนังครู เป็นตัวหนังที่ใช้สำหรับพิธีไหว้ครูเท่านั้น ตัวหนังนี้จะไม่ใช้ในการแสดง ได้แก่ หนังฤษี หนังพระอิศวร หนังพระนารายณ์
- หนังเฝ้าหรือหนังไหว้ เป็นภาพเดี่ยว เห็นหน้าด้านข้าง ตัวหนังอยู่ในท่าพนมมือไหว้ หนังชนิดนี้มีความสูงประมาณ 1 เมตร
- หนังคเนจรหรือหนังเดิน เป็นภาพเดี่ยว เห็นหน้าด้านข้าง หากเป็นตัวพระ ตัวนาง หรือตัวยักษ์ ตัวหนังอยู่ในท่าเดิน ถ้าเป็นภาพลิง จะเป็นท่าหย่อง
- หนังง่า หรือหนังเหาะ เป็นภาพเดี่ยว เห็นหน้าด้านข้าง เป็นตัวหนังทำท่าเหาะ ท่าแผลงศร ท่าถืออาวุธ
- หนังเมือง เป็นหนังภาพเดี่ยวหรือหลายภาพในหนังผืนเดียว ตัวหนังที่มีลวดลายปราสาท ราชวัง หนังชนิดนี้ บางตัวสูงถึง 2 เมตร
- หนังรถ เป็นหนังรูปลวดลายราชรถ มีทั้งตัวหนังเดี่ยวๆ และหลายตัวในแผงเดียวกัน
- หนังจับ เป็นหนังที่มีภาพตัวละครตั้งแต่สองตัวขึ้นไป อยู่ในหนังผืนเดียว ทำท่าสู้รบหรือจับกัน เป็นหนังที่มีความสูงพอกับหนังเมือง

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน
ห่างจากตัวเมืองระยอง 5 กิโลเมตร

 

- วิ่งทางหลวงเส้น 36 (จากชลบุรี/พัทยา มาระยอง) ผ่านบิ๊กซีระยอง แยกถัดไปเลี้ยวซ้าย (แยกบ้านดอน)
- เจอสี่แยกไฟแดงแรก เลี้ยวขวา ผ่านโรงเรียนวัดบ้านดอน ก่อนถึงซุ้มประตูวัดขวามือมีซอยเลี้ยวขวา ทางเข้าโรงละครอยู่ซ้ายมือ

การเชิดหนังใหญ่
การแสดงหนังใหญ่ เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูง มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่ใช้แสดงในงานพระราชพิธีสำคัญๆ และในงานมหรสพใหญ่ๆ ตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงช่วงกลางสมัยรัตนโกสินทร์ การแสดงต้องใช้วงปี่พาทย์ คอยให้จังหวะทำนอง มีผู้พากษ์คอยอ่านบท เพื่อดำเนินเนื้อเรื่อง บทเจรจา ผู้พากษ์จะพากษ์อยู่ริมเวที ส่วนผู้แสดงเชิดตัวหนังจะถือตัวหนังใหญ่ออกมาแสดงหน้าเวที และวิ่งกลับไปด้านในเพื่อวนกลับออกมา เวทีประกอบด้วยจอหรือฉากสีขาวขนาดสูงใหญ่คล้ายแผ่นผ้าหนังกลางแปลง มีแสงส่องผ่านผ้าใบจากทางด้านหลัง ผู้เชิดจะถือตัวละครตามบทมายืนเรียงอยู่ด้านหน้า ทำท่าทางตามจังหวะดนตรี สอดคล้องกับเรื่องราวที่ผู้พากษ์ดำเนินเนื้อเรื่องอยู่ ส่วนใหญ่เรื่องราวที่ใช้แสดงกับหนังใหญ่ จะนำมาจากบางตอนของเรื่องรามเกียรติ์ ผู้เชิดแสดงลีลาท่าทาง และจังหวะการเคลื่อนไหวคล้ายกับการแสดงโขน ซึ่งเป็นท่วงท่าที่เรียกว่าเป็นการแสดงโขนหน้าจอ ดังนั้นผู้แสดงตัวเชิดต้องมีพื้นฐานความสามารถด้านการเต้นเสา** มีการยืด ยุบ กระทบเท้า กระดกเท้า มือทั้งสองของผู้เชิดหนัง จะจับที่ไม้คีบหนัง ชูขึ้น ทำท่าทางตามตัวละครของตัวหนัง เช่นถ้าเล่นเป็นตัวพระก็ต้องทำท่าอย่างตัวพระ หากถือตัวหนังเป็นตัวนาง ก็ต้องทำท่าตัวนาง ถ้าเป็นยักษ์ก็จะทำท่าขึงขังอย่างตัวยักษ์ เป็นต้น ผู้เชิดเล่นท่วงท่าพร้อมกับการชูตัวหนังบริเวณหน้าฉากสีขาว ที่มีแสงจากด้านหลังฉากส่องทะลุผ่านตัวหนัง ทำให้เกิดเป็นเงาลวดลายที่สวยงามจากตัวหนังที่แกะสลักไว้

**การเต้นเสา เป็นท่าเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานการฝึกโขน โดยมากเป็นนักแสดงชาย ที่แสดงเป็นตัวพระ ยักษ์​ และลิง มากกว่าตัวนาง การเต้นจะยกเท้าซ้ายขวาสลับกันตามจังหวะ โดยย่อเข่าอยู่ตลอดเวลา

การทำหนังใหญ่
การทำรูปหนังใหญ่ เกิดจากการนำหนังสัตว์มาฉลุเป็นภาพและลวดลาย แล้วใช้สีระบายให้เกิดสีสันงดงาม หนังใหญ่มีวิธีการทำคล้ายหนังตะลุง แต่มีขนาดใหญ่กว่าหนังตะลุงเกือบ 5 เท่า หนังใหญ่แต่ละตัวจะแกะเป็นภาพตัวละครตามเนื้อเรื่องที่จะแสดง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์

การทำรูปหนังใหญ่ นิยมใช้หนังวัว หนังควาย หนังวัวตัวเมีย หรือหนังลูกวัว โดยมีกรรมวิธีดังนี้

1 การฟอกหนัง เมื่อได้หนังแล้วต้องนำมาฟอก ตามกรรมวิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน สมัยโบราณจะใช้มะเฟือง ข่า ใบสมอ มาตำผสมกันให้แตก แล้วนำหนังสดมาหมักทิ้งไว้จนขนหนังหลุด ขึงแล้วตากให้แห้ง อาจทาด้วยขี้เถ้า ขูดเอาพังผืดและขนออก หรืออาจฟอกด้วยสัปปะรด ปัจจุบันนิยมฟอกหนังด้วยน้ำส้มสายชู หรือสารเคมี เพราะสะดวกและใช้เวลาน้อย

2 การลงลวดลาย ใช้ถ่านไม้รวก ดินสอ หรือใช้เหล็กแหลม วาดลวดลายลงบนหนัง ตามแต่เนื้อเรื่องที่จะแสดง บางครั้งใช้วิธีการลอกลายลงกระดาษแล้วนำมาทาบบนหนังเพื่อร่างแบบ

3 การแกะฉลุ จะใช้ตาไก่ ตอก และมีดแกะสลัก การฉลุมีสองแบบคือ "แบบหน้าเต็ม" คือ การฉลุเอาเส้นตา คิ้ว วงหน้า ขอบแขนออก
"การฉลุแบบหน้าแขวะ" คือ การฉลุส่วนอื่นๆ ออก ให้เหลือเฉพาะเส้นวงหน้า ตา คิ้ว ปาก หรือเส้นขอบแขน คอ

4 การลงสี สีที่นิยมใช้เป็นสีที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่นสีแดง ได้จากน้ำฝางผสมสารส้ม หรือหมากแห้งผสมแอลกอฮอล์ สีดำได้จากเขม่าก้นหม้อ สีเขียวได้จากจุนสีผสมน้ำมะนาว สีเหลืองใช้น้ำฝางทาแล้วถูด้วยน้ำมะนาว ปัจจุบันช่างสามารถเลือกใช้สีในท้องตลาด นำมาละลายกับน้ำอุ่นผสมกับเหล้าขาว เพื่อช่วยให้สีซึมเข้าเนื้อหนัง

5 การผูกไม้เชิด เรียกว่า "ไม้ตับหนัง" หรือ "ไม้คีบหนัง" นิยมใช้ไม้ไผ่แก่จัดเนื้อหนามาเหลา หนังใหญ่หนึ่งตัวจะใช้ไม้คีบสองคู่ ประกบกันแล้วใช้หวายผูกเป็นปล้องห่างกันพอประมาณ

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ถนนยมจินดา แหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม เป็นถนนเก่าแก่ของเมืองระยอง ที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆ ของถนนยมจินดา ที่เคยเป็นถนนสายหลักใจกลางเมืองระยองในอดีต
ห่างออกไป ประมาณ: 3.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เป็นตลาดเล็กๆ ที่ทำเป็นสถานที่พักผ่อน และแหล่งท่องเที่ยว สำหรับคนชอบเดินช็อปในสไตล์ย้อนยุค บรรยากาศตลาดเก่า ตามแบบวิถีชุมชนท้องถิ่น ลักษณะตลาดทำเป็นห้องแถวเรือนไม้ชั้นเดียวไม้เปิดเป็นร้าน เรียงทอดยาวตามแนวริมสระน้ำ มีบริเวณชานเปิดโล่งให้นั่งพักผ่อน ได้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ชานบ้าน บริเวณลานพักผ่อนและทางเดินปูด้วยไม้กระดาน ประดับด้วยโอ่งดิน เก้าอี้ไม้ มีให้เห็นแม้กระทั่งเก้าอี้ไม้ที่มาจากโรงหนังสมัยก่อน
ห่างออกไป ประมาณ: 6.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง บ้านปากน้ำ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เกิดจากความร่วมมือของเทศบาลระยอง กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำระยองและป่าชายเลน และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว เนื่องวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 มีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าชายเลน และได้เห็นวิถีชีวิตของการอยู่ร่วมกันของระบบนิเวศของป่าชายเลนที่ กำลังจะหมดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังถือเป็นสถานที่พักผ่อน และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพัฒนาการไปสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดระยองอีกด้วย
ห่างออกไป ประมาณ: 7.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองระยอง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง โอบล้อมด้วยป่าชายเลน อยู่ในบริเวณก่อนถึงปากแม่น้ำระยอง ปัจจุบันได้มีการบูรณะดูแล และอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันได้ด้วย
ห่างออกไป ประมาณ: 7.8 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
หาดแสงจันทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเมืองระยอง ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 5 นาที หาดแสงจันทร์ อาจจะดูแปลกไปกว่าหาดอื่นๆ ตรงที่มีกองหินสร้างเป็นเขื่อนก่อยื่นออกไปในทะเล ทำให้เกิดเป็นแอ่งน้ำ เว้าเข้ามาในชายฝั่งเป็นเหมือนอ่าวเล็กๆ รูปครึ่งวงกลมขนาดเล็กเรียงต่อกัน ตามยาวตลอดแนวชายหาด เป็นหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อน น้ำทะเลใส ทรายละเอียด ภายในอ่าวเล็กๆ น้ำไม่ลึกมาก แต่ก็ควรระวังไม่ว่ายน้ำออกไปในบริเวณปากอ่าว ระหว่างโขดหิน หรือบริเวณนอกโขดหินที่กั้นคลื่นลม เพราะจะเป็นช่วงที่กระแสน้ำอาจแปรปรวนได้
ร้านอาหารใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 2.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ครัวแกงเผ็ด เป็นร้านที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนชอบอาหารรสจัด เข้มข้น เผ็ดแซ่บ แบบกินแล้วได้ยินเสียงสูดปากซีดซ้าดไปด้วย ร้านนี้อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่สำหรับคนพื้นที่ คนที่มาทำงานที่ระยอง หรือคนที่ได้ยินกิตติศัพท์ของอาหารรสจัดจ้านแล้วอยากลอง ทำให้ช่วงเย็นในแต่ละวัน มีลูกค้าแน่นร้านแทบทุกวัน แถมเป็นร้านที่นั่งได้สบายๆ เหมาะกับการสังสรรระหว่างเพื่อนฝูง ราคาอาหารไม่แพง ได้อาหารจานใหญ่ รสชาติอร่อย
ห่างออกไป ประมาณ: 5.1 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
แหลมเจริญซีฟู้ด เป็นร้านชื่อดังที่สุดของระยองเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งคนในพื้นที่และคนต่างถิ่น รู้จักกันเป็นอย่างดี ร้านดั้งเดิมของแหลมเจริญซีฟู้ด ตั้งอยู่บริเวณ แหลมเจริญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เริ่มจากร้านมุงจากเล็กๆ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ต่อมาขยับขยายใหญ่โตจนเป็นร้านขนาดใหญ่ ปัจจุบันแหลมเจริญซีฟู้ด มีสาขากระจายอยู่ในกรุงเทพถึง 7 สาขา และห้างในเมืองใหญ่อย่างอุดรธานี และขอนแก่นอีก และด้วยคุณภาพของอาหารที่ใหม่ สด รสชาติอร่อย ทำให้มีผู้คนแวะเวียนมาตลอด
ห่างออกไป ประมาณ: 8.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ร้านป้ายาซีฟู้ด หรือเรียกสั้นๆ แค่ "ป้ายา" คนระยองส่วนใหญ่ก็รู้จัก เพราะเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงริมชายหาดแม่รำพึง ทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ถ้าใครได้มากินร้านป้ายาแล้วมักจะติดใจ อยากบอกต่อกันไปถึงความสดของอาหารทะเล รสชาติอาหารที่แซ่บ อร่อย กลมกล่อม ถูกปาก แถมราคาไม่แพง
ห่างออกไป ประมาณ: 10 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
สวนย่าสน (คนเคยมา) เป็นร้านอาหารที่ดูบ้านๆ มาก บรรยากาศแบบกลางทุ่ง ร้านนี้อยู่ค่อนข้างลึก ต้องตั้งใจที่จะเข้าไปกินที่ร้านจริงๆ หรือคนที่เคยมาแล้วติดใจบรรยากาศแบบนี้ การจัดที่นั่งภายร้านสวนย่าสนยังแตกต่างจากที่อื่น เพราะมีด้านนึงที่ทำเป็นศาลาโล่ง มีพื้นไม้ยกสูงประมาณ 1 เมตร คล้ายๆ เพิงหรือ ขนำปลายนา เวลานั่งกิน ก็นั่งกับพื้น อาหารเสริฟมาในขันโตก ชวนให้นึกถึงรุ่นปู่ย่าตายาย ที่นั่งกินข้าวล้อมวงกินข้าวกัน
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com