Language:

ปากน้ำประแส อำเภอแกลง



บริเวณปากแม่น้ำประแส อำเภอแกลง ได้มีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายรูปแบบ นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อน เป็นนอนโฮมสเตย์ริมน้ำ นั่งรถพ่วงข้างชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชมธรรมชาติตามลำน้ำประแส ประมงพื้นบ้าน กราบสักการะเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ เดินเล่นรับลม ชมทะเลที่ริมหาดแหลมสน ปีนขึ้นไปชมวิวบนเรือหลวงประแส แวะชมต้นตะเคียนใหญ่อายุกว่า 500 ปี และตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติสรรสร้างของท้องทุ่งโปรงทอง ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลน “ชุมชนแสมผู้”

จุดชมวิวแหลมสน
จุดชมวิวแหลมสน เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงภูมิทัศน์ บนเส้นทางเลียบชายฝั่ง ในโครงการถนนเลียบทะเลเฉลิมบูรพาชลทิศ หาดแหลมสนเป็นหาดเล็กๆ อยู่ติดกับปากแม่น้ำประแส ด้านหนึ่งมีแนวหินยาวเป็นเขื่อนป้องกันคลื่นลมบริเวณปากแม่น้ำ พื้นที่ส่วนนี้ได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะ สำหรับคนทั่วไป ได้มานั่งกินลมชมวิว และพักผ่อน

ต้นตะเคียนใหญ่ วัดตะเคียนงาม
ต้นตะเคียนใหญ่ ตั้งสูงตระหง่านอยู่ในวัดตะเคียนงาม บริเวณชุมชนตลาดตอนกลาง หมู่ 8 ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง มีด้วยกัน 2 ต้น มีอายุประมาณ 400 ปี ซึ่งต้นตะเคียนทั้งสองต้นนี้เสมือนเป็นสัญลักษณ์ประจำวัดตะเคียนงาม ในบริเวณวัด มีศาลเจ้าแม่ตะเคียนสำหรับผู้มาเยือนได้สักการะด้วย

กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ หรือเสด็จเตี่ย
ศาลเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ ผู้เป็นบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลปากน้ำกระแส สร้างเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2512 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงประกอบพิธีประดิษฐานกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ ศาลาตำบลปากน้ำกระแส
ภายในศาล ประดิษฐานรูปหล่อพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ขนาดเท่าองค์จริง ด้านหน้าศาล มีปืนกลที่ปลดประจำการวางไว้เพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์ท่าน อยู่ทั้งสองข้าง มีพื้นที่เฉพาะสำหรับจุดประทัด เพื่อเป็นการสักการะท่าน​ เพราะท่านเป็นคนที่ชอบประทัดมาก บริเวณริมน้ำมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน นั่งชมวิวแม่น้ำประแส

อนุสรณ์เรือหลวงประแส
อนุสรณ์เรือหลวงประแส เป็นความภาคภูมิใจของชาวปากน้ำประแส ที่ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งอนุสรณ์เรือหลวงประแส ถือได้ว่าเป็นเรือหลวงที่เคยมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยบางช่วงเวลา เปิดให้เข้าชม และสามารถขึ้นไปบนเรือ เดินดูได้อย่างใกล้ชิดทุกซอกทุกมุม ห้องบังคับการเรือ ปืนใหญ่ ปืนกล เรือชูชีพ สามารถหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมาชมได้ นอกจากนี้บนเรือหลวงประแสถือเป็นจุดชมวิวมุมสูง ที่มองเห็นวิวบริเวณปากแม่น้ำประแสที่ไหลเชื่อมต่อทะล

อนุสรณ์เรือหลวงประแส ตั้งอยู่บริเวณหัวโขด ชายหาดประแส หมู่ 1 ถนนเทศบาล 9 ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง เทศบาลตำบลปากน้ำกระแส ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับเรือหลวงประแสที่ถูกปลดระวางประจำการมาไว้ ณ พื้นที่บริเวณปากน้ำประแส ขณะนั้นเรือได้จอดไว้ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จากนั้นจึงได้ทำการปรับภูมิทัศน​์​ และตกแต่งสถานที่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ เรือหลวงประแสได้ถูกนำมาที่ปากน้ำประแสเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2546

เรือหลวงประแส มีความยาวตลอดลำ 92.8 เมตร ความกว้างมากที่สุด 11.5 เมตร เป็นเรือประเภทตรวจการปืน PG-155 (Patrol Gunboat) ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือฟริเกต PF-47 (Patrol Frigate) ได้ทำการวางกระดูกงู (การวางโครงเรือหลัก ก่อนต่อให้เป็นลำ) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2486 โดยบริษัท Consolidated Steel Corporation, Los Angeles, California ใช้เวลาในการต่อเรือประมาณ 1 เดือน ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2487 ที่ San Pedro, California

ต่อมา เมื่อครั้งกรณีพิพาทระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยในนามสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ต้องส่งกองกำลังทหาร ไปร่วมรบกับสหประชาชาติ โดยมีเรือรบหลวงประแส (ลำที่ 1) เรือหลวงบางปะกง เป็นเรือที่ทำหน้าที่คอยคุ้มกันเรือลำเรียง (เรือหลวงสีชัง) และได้สูญเสียเรือรบหลวงประแสไป ต่อมาไทยก็ได้ติดต่อขอซื้อเรือจากประเทศสหรัฐอเมริกามาอีก 2 ลำ คือ เรือหลวงท่าจีน และเรือหลวงประแส (เป็นลำที่ 2 ใช้ชื่อเดิม) และได้ออกปฏิบัติหน้าที่ต่อใน​สงครามเกาหลี โดยเริ่มปฏิบัติภาระกิจเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2494 ภาระกิจในขณะนั้นคือ ลาดตะเวน คุ้มกันเรือลำเลียง เรือบรรทุกน้ำมัน เรือ กวาดทุ่นระเบิด และระดมยิงเป็นครั้งคราว หลังเสร็จภารกิจเมื่อสงครามเกาหลีได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 เรือรบหลวงประแส และเรือหลวงท่าจีนจึงได้เดินทางคุ้มกันเรือลำเลียงทหารบกกลับสู่ประเทศไทย

เรือหลวงประแส (ลำที่ 2) ถูกปลดระวางประจำการเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2543 เป็นเรือฟริเกต ติดอาวุธ หน้าที่คล้ายเรือพิฆาต แต่มีขนาดเล็กกว่า และต้นทุนต่ำกว่า หน้าที่หลักคือคุ้มกันเรืออื่น จึงมีอาวุธประจำเรือที่สามารถไว้ต่อสู้ได้ โดยทั่วไปเรือชนิดนี้จะถูกตั้งชื่อเรือตามแม่น้ำสำคัญๆ เช่นเรือหลวงคีรีรัฐ เรือหลวงตาปี ส่วนเรือหลวงประแส มีชื่อตามแม่น้ำประแส ที่เป็นแม่น้ำสำคัญของอำเภอแกลง

ข้อแนะนำ
- อนุสรณ์เรือหลวงประแส เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน โดยทั่วไปไม่เปิดให้ขึ้นไปบนเรือ แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่ สามารถเข้าไปชมภายในเรือได้ โดยไม่เสียค่าเข้าชม
- หากมีการเปิดให้ขึ้นชมบนเรือ ควรใช้ความระมัดระวัง บันไดทางขึ้นเรือค่อนข้างชัน และบริเวณโดยรอบเรือดาดฟ้าเรือ มีขอบกั้นเพียงเล็กน้อย หากมีเด็กเล็กไปด้วย ควรเพิ่มความระมัดระวังให้กับบุตรหลาน ไม่วิ่งเล่นหรือหยอกล้อกันบนเรือ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ เนื่องจากเรือมีอายุ 60 ปีแล้ว อาจมีบางส่วนผุกร่อน และเป็นสนิม ควรใช้ความระมัดระวังในการเดินชม หรือจับต้องอุปกรณ์ต่างๆ

 

การเดินทางไปยังอนุสรณ์เรือหลวงประแส
ห่างจากตัวเมืองระยอง 68 กิโลเมตร
ห่างจากแยกแกลง(สามย่าน) 20 กิโลเมตร

- วิ่งเส้นสุขุมวิท ตรงไปทางแกลง-จันทบุรี ห่างจากแยกแกลงไปประมาณ 12 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายบอกทางปากน้ำประแส ผ่านวัดตะเคียนงาม โค้งขวาไป มีป้ายเลี้ยวซ้ายไปอนุสรณ์เรือหลวงประแส

ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip :12
Image
Gallery

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 1.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
ทุ่งโปรงทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ บริเวณปากแม่น้ำประแส ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่นของบริเวณนี้คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ สะท้อนสีเขียวอ่อนตา จนเรียกว่าเป็นทุ่งโปรงทอง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
อนุสาวรีย์สุนทรภู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงให้ความรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม ถือเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอแกลง และจังหวัดระยอง ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านสุนทรโวหาร (ภู่) กวีเอกของไทย ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมรำลึก และส่งเสริมศิลปะการประพันธ์
ห่างออกไป ประมาณ: 9.4 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
อ่าวไข่ แหลมตาล อ่าวมะขามป้อม เป็นพื้นที่คล้ายแหลมยื่นออกมา ถ้ามาจากแกลง ก็จะเจอทางแยกเพื่อมาบริเวณนี้ก่อนที่จะถึงแหลมอม่พิมพ์ เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมา รวมถึงยังมีท่าเรือตรงแหลมตาล ที่ไว้สำหรับเดินทางไปยังหมู่เกาะมัน จังหวัดระยองอีกด้วย
ร้านอาหารใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 8.5 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
โจโจ้ซีฟู้ด เป็นร้านที่หลายต่อหลายคนพูดถึงว่า หากมาแถวแหลมแม่พิมพ์แล้ว แนะนำให้มากินร้านโจโจ้ซีฟู้ด เพราะลูกค้าที่มาแล้ว มักจะติดใจในคุณภาพ และรสชาติอาหาร ในปริมาณที่เกินคุ้ม ตอนนี้หากใครมาไปเที่ยวบริเวณริมหาดแหลมแม่พิมพ์ แล้วไม่เจอร้านนี้ ไม่ต้องตกใจ เพราะหากยังติดใจฝีมือการปรุงอาหารร้านโจโจ้ ขับรถเลยขึ้นไปทางถนนแกลง - แหลมแม่พิมพ์ อีกหน่อย ห่างจะทะเลไปประมาณ 3 กิโลเมตร (ร้านอยู่ทางขวามือ) รับรองจะได้เจอร้านโจโจ้ (เจ้าเก่า) ที่อาหารถูกปาก รสชาติถูกใจเหมือนเดิม
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com