นักท่องเที่ยวที่มายังหน่วยพิทักษ์ฯ เขาพระอินทร์นี้ จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อให้พานำชม ถ้ำและน้ำตกบริเวณอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำนกนางแอ่น ถ้ำน้ำตก ถ้ำเวิล์ดคัพ ถ้ำใหญ่ ส่วนใหญ่นิยมจัดทริปมาค้างแรมแบบ 2 วัน 1 คืน (หรือ 3 วัน 2 คืน) โดยวันแรกจะเที่ยวถ้ำเสาหิน และวันที่ 2 เที่ยวถ้ำนกนางแอ่น แต่ละถ้ำใช้เวลาการเดินทางค่อนข้างมาก จึงไม่สามารถไปเที่ยวทั้งสองถ้ำภายในวันเดียวได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวถ้ำอื่นๆ ควรติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะบางถ้ำไม่สามารถเปิดให้เข้าชมได้
* หมายเหตุ ทริปเที่ยวถ้ำและลำคลองงูนี้เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก เดินป่า ปีนป่าย ว่ายน้ำ นักท่องเที่ยวควรมีสภาพร่างกายที่พร้อม
ถ้ำเสาหิน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู อ.สังขละบุรี แต่จุดเริ่มต้นการเดินทางไปยังถ้ำเสาหินจะอยู่คนละที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู (น้ำตกนางครวญ) เป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ลง.1 เขาพระอินทร์ ซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ 18 กิโลเมตร
ลักษณะของถ้ำเสาหิน เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ มีธารน้ำไหลทะลุผ่านถ้ำอยู่ตลอดเวลา เป็นถ้ำปิด มีทางเข้า-ออกทางเดียว ภายในถ้ำจึงมืดมาก ด้านในเป็นห้องโถงใหญ่ มีเพดานสูง มีซอกหลืบซับซ้อน มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และมีเสาหินที่เกิดจากปฏิมากรรมทางธรรมชาติของหินงอกหินย้อยมาบรรจบกัน กลายเป็นเสาหินที่มีความสูงถึง 62.5 เมตร มีการสำรวจโดยนักสำรวจถ้ำเมื่อปี พ.ศ.2538 พบว่าเป็นเสาหินที่มีความสูงที่สุดในโลก รองลงมาอันดับสองคือเสาหินในประเทศจีน ที่มีความสูง 32 เมตร
การเดินทางเข้าไปในถ้ำต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทาง และบอกแนวเส้นทางการเดินเข้าไปภายในถ้ำ โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องสวมชูชีพในการเดินทางด้วย เพราะเป็นทริปที่ต้องลงน้ำ มีไฟฉายแบบคาดศีรษะ นำน้ำและอาหารไปกินระหว่างทางไม่สามารถพักค้างแรมบริเวณถ้ำหรือน้ำตกหน้าถ้ำได้ จึงไม่ต้องนำสัมภาระอื่นที่ไม่จำเป็นไป
ช่วงแรกของการเดินทางเป็นการนั่งรถของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ (หรือขับรถเข้าไปได้โดยมีเจ้าหน้าที่นำทาง) ประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นการเดินเท้าเข้าป่าไปยังบริเวณปากถ้ำ ช่วงเดินเท้านี้มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงแรกเป็นการเดินผ่านป่าโปร่ง ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ เป็นทางธรรมชาติที่ไม่ได้ทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยว จึงมีต้นไม้และกิ่งไม้เกะกะตามทางอยู่บ้าง ตามเส้นทางอาจจะได้พบ แมลง หายาก สัตว์ป่า ต้นไม้พรรณไม้แปลกตานานาชนิด เช่นต้นปรงขนาดสูงใหญ่ ดอกไม้ป่าแปลกๆ เห็ดต่างๆ ซึ่งถือเป็นการเดินศึกษาธรรมชาติไปด้วย จากนั้นก็เป็นการเดินลงไปในหุบเขา ไต่ตามโขดหินบ้าง ลุยป่าบ้าง ช่วงนี้เป็นระยะทางยาว ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะบางช่วงหินมีขนาดใหญ่ ต้องค่อยๆ ปีนป่าย และระวังหินบาดมือด้วย เมื่อพ้นมาแล้วจึงจะพบลำธารใสเย็น เป็นน้ำตกขนาดย่อมๆ ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำ กลายเป็นธารน้ำของลำคลองงู จะเล่นน้ำกันก่อนเดินเข้าถ้ำก็ได้ จากนั้นก็ต้องเดินสวนลำธารน้ำไปจนถึงปากถ้ำ ซึ่งบริเวณหน้าถ้ำก็ยังมีแอ่งน้ำใสให้เห็น
จากจุดเริ่มต้นเข้าสู่ปากถ้ำนี้เองเป็นจุดที่ตื่นเต้น ท้าทาย เพราะจะต้องว่ายทวนกระแสน้ำเข้าไปภายในถ้ำอันมืดมิด มีเพียงไฟฉายคาดศีรษะคอยให้แสงนำทาง เมื่อเปิดไฟฉาย แมลงต่างๆ จะมาเล่นไฟ ทำให้รบกวนใบหน้า บางคนอาจใส่หมวกแก็ปก่อนคาดไฟฉาย เพื่อไม่ให้แมลงตอมเข้าหน้า เริ่มเข้าถ้ำเป็นการว่ายน้ำเข้าไป บางทีกระแสน้ำค่อนข้างแรงก็ต้องไต่ตามเชือกไปบ้าง ลอยคอบ้าง มุดบ้าง ช่วงที่ต้องคอยจับเชือก ระวังอย่าให้หลุดมือ เพราะอาจไหลไปตามกระแสน้ำไปติดตามซอกต่างๆ ได้ การเดินทางไปดูจุดต่างๆ ภายในถ้ำยังต้องมีการปีนป่ายตามผาหิน เลาะตามผนังถ้ำ เพื่อเข้าไปชื่นชมความงดงามตามธรรมชาติ ที่มีทั้งหินที่มีเกิดจากน้ำในถ้ำ ทำให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงามแปลกตา หินงอกหินย้อย ที่ใช้เวลาหลายล้านปีในการเกิดเป็นปฏิมากรรมทางธรรมชาติ และเมื่อมาจนถึงจุดไฮไลท์บริเวณส่วนกลางของถ้ำ คือเสาหินสูงตระหง่านจากพื้นจรดเพดาน ราวกับเป็นเสาหลักค้ำตัวถ้ำเอาไว้ ที่ถือว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดในโลก จุดนี้หากต้องการถ่ายรูป ต้องช่วยกันส่องไฟฉายไปยังเสาหิน เมื่อได้ชมความงดงามของเสาหินทั้งต้น เวลาออกจากถ้ำ ก็จะออกมาทางเดียวกับทางเข้า พอมาถึงจุดที่เป็นน้ำตก เจ้าหน้าที่มักจะให้ทุกคนได้โดดน้ำจากผาน้ำตกลงไปในแอ่งน้ำ จุดนี้สูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งถือเป็นการทดสอบความกล้าอีกอย่างนึงด้วย จากนั้นก็จะต้องปีนก้อนหินน้อยใหญ่ในเส้นทางเดียวกันกับที่มาเพื่อขึ้นจากหุบเขา เส้นทางขากลับเป็นทางปีนหินขึ้นเขา ถือเป็นช่วงที่ค่อนข้างเหนื่อยอีกช่วงนึงเช่นกัน
การเที่ยวถ้ำเสาหินและถ้ำในระแวกใกล้เคียงกันนี้ สามารถเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำได้เฉพาะในช่วงฤดูแล้ง มีน้ำน้อย คือตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน เพราะในแต่ละถ้ำมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา หากเป็นช่วงหน้าฝน น้ำจะยิ่งมากกว่าเดิม กระแสน้ำจะแรง บางจุดภายในถ้ำยังมีที่มีลักษณะเป็นน้ำมุดเข้าไปในซอกหิน อาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ ถ้ำเสาหินจะปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 28 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ควรติดต่อสอบถามเรื่องการเดินทางจากเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อน
ถ้ำนกนางแอ่น ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 5 บ้านเขาพระอินทร์ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ ตัวถ้ำอยู่บริเวณตอนกลางของห้วยลำคลองงู เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นถ้ำทะลุ สามารถเดินทะลุออกไปอีกส่วนหนึ่งได้ ภายในถ้ำมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา สายน้ำที่ไหลผ่านตลอดถ้ำมีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำจะไหลอยู่ใต้พื้นดินก่อนถึงถ้ำ และมาโผล่เป็นแอ่งอยู่ประมาณกลางถ้ำ พอใกล้ทางออกสายน้ำก็จะหายกลับไปใต้ดินอีก
ลักษณะพิเศษของถ้ำนกนางแอ่นคือ มีการยุบตัวของเปลือกโลก เหมือนกับการยุบตัวของปล่องภูเขาไฟ เพดานถ้ำที่ถูกน้ำเซาะจนเกิดเป็นเพดานหินถล่ม (Kart Window) ทำให้เกิดเป็นช่อง มีแสงสว่างและอากาศผ่านเข้ามา ภายในการเดินทางภายในถ้ำถ้ำนกนางแอ่นจะมีลักษณะแบบหินถล่มอยู่สามช่วง ภายในถ้ำจะเห็นม่านหินปูน (Flowstones) ที่เกิดจากน้ำที่มีสารคาร์บอเนตสูง ไหลลงมาตามผนัง เมื่อน้ำสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป ทำให้เกิดการตกตะกอนของสารประกอบคาร์บอเนต เป็นแผ่นบางๆ ย้อยตามผนังถ้ำดูคล้ายม่าน
การเดินทางไปยังถ้ำนกนางแอ่น เจ้าหน้าที่จะพาไปยังจุดที่ใกล้ที่สุด โดยนั่งรถของเจ้าหน้าที่ไปก่อน จากนั้นก็เป็นการเดินป่าในแนวริมเขาหิน ทางเดินช่วงแรกยังราบเรียบอยู่บ้าง และยังต้องนำเสื้อชูชีพไปด้วย แต่ถ้ำนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายคาดศีรษะแล้ว เพราะเป็นถ้ำที่มีความสว่างเพียงพอ เมื่อเดินเลาะแนวเขาหินจะผ่านจุดชมวิวผานกนางแอ่น ที่เป็นเขาหินสูงใหญ่ มีต้นไม้ขึ้นเพียงประปรายเท่านั้น การเดินไปถ้ำนกนางแอ่นนี้ยังคงมีการปีนป่ายหินบ้าง สลับทางราบบ้าง แต่ก็ไม่ลำบากเท่ากับถ้ำเสาหิน ตามทางเดินก็มักจะมีต้นไม้แปลกๆ ให้เห็นอยู่ตามทางตลอด ซึ่งสามารถสอบถามความรู้เรื่องพันธุ์ไม้จากเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อมาถึงจุดสินสุดการเดินทางช่วงแรก จะพบทางเข้าถ้ำเล็ก ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า "ประตูทะลุมิติ" ไว้ให้คอยติดตามว่าจะได้พบเจออะไรภายในถ้ำบ้าง เมื่อมุดถ้ำเล็กๆ ออกมา จะพบว่าได้เจอเขาหินขนาดสูงกว่าตึก 10 ชั้น ต้องมองกันแบบคอตั้งบ่า เป็นปากถ้ำนกนางแอ่น ที่มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
จากปากถ้ำ ก็มาถึงจุดวัดใจอีกแห่งหนึ่งที่ท้าทายความกล้า คือจุดที่ต้องกระโดดจากผาสูงประมาณ 2-3 เมตร ลงไปยังแอ่งน้ำที่นิ่งสนิท เพื่อเดินทางต่อไปยังถ้ำ ต้องว่ายน้ำเกาะเชือกฝ่ากระแสน้ำภายในถ้ำไปคล้ายกับถ้ำเสาหิน ภายในถ้ำนกนางแอ่น จะพบม่านหินงอกหินย้อยที่วิจิตรตระการตา ผนังบางส่วนของถ้ำมีสีเขียวมรกต จนกระทั้งมาถึงอีกจุดหนึ่งที่ต้องกระโดดน้ำจากผาหินภายในถ้ำ (อีกแล้ว) คราวนี้หลายคนเริ่มชิน แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทำใจได้ยาก เพราะหินผานี้สูงราว 3 เมตร จากนั้นก็จะเป็นการล่องสายน้ำในถ้ำออกไปอีกทางหนึ่ง
ถ้ำเวิลด์คัพ
ถ้ำเวิลด์คัพ เป็นอีกถ้ำหนึ่งที่มีความสวยงาม ภายในถ้ำมีไฮไลท์ตรงเสาหินขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างคล้ายกับถ้วยรางวัลฟุตบอลเวิลด์คัพ เป็นถ้ำที่อาจไม่เปิดให้เข้าหากภายในถ้ำมีน้ำมาก
ถ้ำใหญ่
ถ้ำใหญ่ เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ภายในถ้ำมีขนาดใหญ่มาก สามารถจุคนได้มากมาย ในถ้ำมีสันทรายที่มีธารน้ำไหลอ้อมเป็นสันระยะทางประมาณ 200 เมตร ปากทางเข้าถ้ำมีความกว้างประมาณ 50 เมตร ปัจจุบันไม่เปิดให้เข้าชม
การเดินทางไปถ้ำเสาหิน ถ้ำนกนางแอ่น และถ้ำอื่นๆ
การไปถ้ำเสาหินต้องขับรถไปเริ่มต้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ลง.1 เขาพระอินทร์ ซึ่งช่วงแรกจะเป็นเส้นทางเดียวกับการไปอุทยานแห่งชาติลำคลองงูก่อน แล้วเลยไปจึงจะเป็นหน่วยพิทักษ์ฯ เขาพระอินทร์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาทางเส้นทางจากน้ำตกห้วยขมิ้นได้ด้วย แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม
รถยนต์
- จากตัวเมืองกาญจนบุรี วิ่งบนถนนแสงชูโตที่เป็นถนนสายหลัก ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323)
- ก่อนเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิ จะมีสามแยก ให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์) ผ่านวัดท่าขนุน วัดอู่ล่อง บ้านเกริงกะเวีย
- ผ่านโรงเรียนบ้านเกริงกะเวีย เจอป้ายเลี้ยวขวาไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นทางเดียวกันกับไปอุทยานแห่งชาติลำคลองงู (เลี้ยวขวาตรงโค้งที่มีพระพุทธรูปสีขาว) ช่วงแรกเป็นถนนลาดยาง จะมีช่วงขึ้นเขาคดเคี้ยว ลาดชันประมาณ 3 กิโเมตรแรก
**ให้สังเกตป้ายบอกทางของอุทยาน เป็นป้ายไม้สีน้ำตาลเล็กๆ จะคอยบอกทางไปและระยะทาง
-ผ่านอุทยานแห่งชาติลำคลองงู (น้ำตกนางครวญ) โรงเรียน บ้านห้วยเสือ มีสามแยก(มีศาลาที่พัก) ให้เลี้ยวขวา (สังเกตป้ายบอกทางเล็กๆ ข้างตู้โทรศัพท์)
- เจอสามแยกรูปตัววาย (Y) เลี้ยวซ้ายไปหน่วยพิทักษ์ฯ (ไปทางเดียวกับเขตฯ ทุ่งใหญ่นเรศวร) เป็นถนนลูกรังอัด
- วิ่งมาจนถึงสามแยกรูปตัวที (T) ตรงนี้ต้องเลี้ยวขวาเพื่อไปหน่วยพิทักษ์ฯ (เขาพระอินทร์) อีกประมาณ 7 กิโลเมตร
** ถนนจากบ้านห้วยเสือไป เป็นถนนลูกรังอัด มีฝุ่นเยอะ สองข้างทางเป็นป่า ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ ไม่มีบ้านคน ให้สังเกตเสาไฟฟ้าจะอยู่บนถนนสายหลัก