วัดบางพลีใหญ่ใน หรือที่คนมักจะเรียกว่า วัดหลวงพ่อโต เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวบางพลีและชาวสมุทรปราการให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก แวะกราบสักการะหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วเดินเที่ยวชมตลาดโบราณบางพลี ได้เห็นวิถีชุมชนเก่า ซื้ออาหารการกิน ของฝาก เดินเล่นพักผ่อนให้อาหารปลาที่ท่าน้ำ
วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี การเดินทางมาวัดสามารถมาได้จากถนนเทพารักษ์ และถนนบางนา-ตราด ที่ตั้งของวัดจะอยู่ใกล้กับบิ๊กซีบางพลี
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ กล่าวไว้ว่า วัดบางพลีใหญ่ใน เป็นวัดที่เก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่พระองค์ทรงนำกองทัพขับไล่ศัตรูที่ถอยทัพไปทางทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุยธา เมื่อติดตามจนมาถึงตำบลหนึ่ง จึงรับสั่งให้เหล่าทหารหยุดพัก เพื่อทำพิธีพลีกรรม บวงสรวงเซ่นไหว้ตามตำรับพิชัยสงคราม โดยปลูกศาลเพียงตาไว้พร้อมเครื่องสังเวย อัญเชิญพระแสงดาบ ศาสตราวุธต่างๆ มาประกอบพิธี ตั้งจิตอธิษฐานต่อเทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้การรบได้รับชัยชนะกลับมา จากนั้นพระองค์และเหล่าทหารกล้า ก็เดินทัพต่อไปจนสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ หลังจากนั้นเมื่อย้อนทางกลับมา ณ ที่ศาลเพียงตา พระองค์ทรงรับสั่งให้สร้างเป็นพลับพลาไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะ และทรงพระราชทานนามที่แห่งนี้ว่า "พลับพลาชัยชนะสงคราม"
ต่อมาในปี พ.ศ.2320 ช่วงก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นในบริเวณพลับพลา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และตั้งชื่อวัดว่า "วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม" ส่วนตำบลที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงหยุดประทับ เพื่อทำพิธีพลีกรรม ได้มีชื่อว่า บางพลี ชาวบ้านจึงมักจะเรียกวัดในอีกชื่อหนึ่งว่า วัดบางพลี ต่อมาเมื่อมีวัดบางพลีใหญ่กลางตั้งอยู่ด้านนอก (ห่างจากคลองออกไป) จึงเรียกวัดบางพลี ที่ติดกับคลองสำโรงว่า "วัดบางพลีใหญ่ใน"
วัดบางพลีใหญ่ใน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2492 ถูกยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2555 พื้นที่ของวัดเป็นที่ดินที่ได้รับการอุทิศมาเป็นจำนวน 40 ไร่ ต่อมาได้จัดซื้อเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ จนในปัจจุบันมีพื้นที่ธรณีสงฆ์ 127 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา
ประวัติหลวงพ่อโต
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปหนึ่งในตำนานพระพุทธรูป 3 พี่น้อง** ที่ปรากฏเป็นเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมา ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาต้องสู้รบกับพม่า ชาวเมืองเกรงว่าพระพุทธรูปอาจถูกทำลายเสียหาย จึงได้นำพระพุทธรูปผูกใส่แพให้ลอยมาตามลำน้ำเจ้าพระยาลงมาทางใต้ ครั้งนั้นมีพระพุทธรูป 3 องค์ถูกผูกติดมาด้วยกัน จนเป็นตำนาน "พระพุทธรูป 3 พี่น้อง" ซึ่งได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้งหลายครา จนเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ กล่าวกันว่า พระพุทธรูปทั้งสาม เคยมาผลุบโผล่บริเวณสามเสน ชาวบ้านบริเวณนั้นได้นำคนมาช่วยกันฉุดถึงสามแสนคน ก็ไม่สามารถนำพระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำได้ จึงเรียกบริเวณนั้นว่า สามแสน และเพี้ยนเป็น สามเสน จนถึงปัจจุบัน เมื่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ยังไม่ได้ขึ้นจากน้ำ ก็ไหลล่องเรื่อยไปตามลำน้ำเจ้าพระยา จนกระทั่งแต่ละองค์ไปแสดงปาฏิหาริย์ ปรากฏขึ้นในที่ต่างๆ คือ
องค์ที่ 1 หลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร อัญเชิญขึ้นเป็นองค์แรก ที่แม่น้ำแม่กลอง นำไปประดิษฐาน ณ วัดบ้านแหลม (วัดเพชรสมุทรวรวิหาร) จังหวัดสมุทรสงคราม
องค์ที่ 2 หลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปปางสมาธิ อัญเชิญขึ้นมาเป็นองค์ที่สอง ที่แม่น้ำบางปะกง นำไปประดิษฐาน ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
องค์ที่ 3 หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางมารวิชัย อัญเชิญขึ้นเป็นองค์สุดท้อง ที่คลองสำโรง นำประดิษฐาน ณ วัดบางพลีใหญ่ใน (วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม) จังหวัดสมุทรปราการ
** ตำนานพระพุทธรูป 3 พี่น้อง บางตำนานจะเรียกว่าเป็นหลวงพ่อ 5 พี่น้อง โดยรวมหลวงพ่อวัดไร่ขิง ที่อัญเชิญขึ้นจากแม่น้ำนครชัยศรี ประดิษฐานไว้ ณ วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม และหลวงพ่อ(ทอง)เขาตะเครา อัญเชิญขึ้นจากแม่น้ำเพชรบุรี นำประดิษฐานไว้ ณ วัดเขาตะเครา
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปองค์สุดท้องที่ได้รับการอัญเชิญขึ้นจากน้ำ หลังจากพระพุทธรูป 2 องค์ คือหลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อโสธรได้ถูกอัญเชิญขึ้นจากน้ำแล้ว หลวงพ่อโตกลับจมลง แล้วไหลลอยเกือบจะออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปสู่ทะเลอ่าวไทย แต่แล้วก็วกเข้าคลองสำโรง ชาวบ้านมาพบจึงพากันอาราธนาขึ้นฝั่งตั้งแต่ปากคลองสำโรง แต่ก็ไม่สามารถอัญเชิญขึ้นมาได้ จนชาวบ้านคนหนึ่งเกิดความคิดขึ้นมาว่า ควรทำการเสี่ยงทาย ให้หลวงพ่อท่่านได้เลือกสถานที่ที่ต้องการ จึงต่อแพผูกชะลอองค์พระ แล้วใช้เรือพายฉุดให้ลอยตามลำน้ำสำโรงเรื่อยไป โดยตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์พระว่า หากท่านต้องการจะให้อัญเชิญขึ้น ณ ที่แห่งใด ก็ขอให้หยุดตรงจุดนั้น ชาวบ้านต่างเห็นด้วยกับการเสี่ยงทายนึ้ และพากันพายเรือตามแพองค์พระไปตามคลองสำโรง พร้อมกับมีการรำถวาย การละเล่นต่างๆ ครื้นเครงกันตลอดลำน้ำ
ครั้นเมื่อเรือพายผูกแพองค์พระล่องมาถึงวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม ในอำเภอบางพลี แพหลวงพ่อโตก็หยุดนิ่ง แม้จะพยายามฉุดลากเท่าไหร่ก็ไม่ไป ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานว่า หากองค์หลวงพ่อโตจะคุ้มครองชาวบางพลี ก็ขอให้อาราธนาพระพุทธรูปขึ้นมาได้โดยง่าย จากนั้นจึงเกิดอัศจรรย์ อัญเชิญองค์พระขึ้นมาได้ จึงนำไปประดิษฐานไว้ในพระวิหาร และต่อมาได้อาราธนาไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริดลงรักปิดทอง เป็นพระศิลปะสมัยสุโขทัย พุทธลักษณะปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ เบิกพระเนตร มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ (ประมาณ 1.75 เมตร)
แผนผังของวัดบางพลีใหญ่ใน หันหน้าไปทางคลองสำโรง ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีต ปัจจุบันได้มีถนนตัดผ่านหลายเส้นทาง รวมทั้งถนนที่ตัดผ่ากลางพื้นที่วัด (ซอยชุมชนหลวงพ่อโต) แบ่งออกเป็นโซนประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่ไปอยู่ทางด้านหลังของวัด สำหรับผู้ที่มายังวัดบางพลีใหญ่ใน จะมีป้ายบอกทางไปยังอุโบสถไว้ในหลายๆ จุด สามารถเดินทางมาได้สะดวก มีจุดจอดรถหลายส่วน เช่น บริเวณใกล้พระเจดีย์ บริเวณฌาปนสถานด้านหลังวัด และโซนจอดรถกลางแจ้ง กว้างขวาง ที่เพิ่มเติมขึ้นมากรณีมีงานในช่วงเทศกาล งานประเพณีรับบัว
อุโบสถ
เมื่อเข้ามาภายในวัดบางพลีใหญ่ในแล้ว จุดแรกที่ควรทำ คือ การเข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อโต (องค์จริง) ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ ที่ตั้งอยู่ในจุดตรงข้ามกับองค์พระเจดีย์ แต่จะไม่สามารถมองเห็นตัวโบสถ์ได้ทั้งหลัง เพราะปัจจุบันมีการต่อหลังคาผ้าใบไว้โดยรอบ เพื่อช่วยกันแดดฝนให้กับผู้ที่เข้ามากราบหลวงพ่อโตกันมากมายในแต่ละวัน บริเวณนี้จะมีจุดให้ถอดรองเท้าฝากไว้
ลักษณะอุโบสถ มีประซุ้มประตูทางเข้าออก 2 ทาง ด้านข้างทำเป็นซุ้มหน้าต่างโดยรอบ ซุ้มประตูหน้าต่าง ประดับกระจกสี ด้วยลวดลายสวยงาม ประตูด้านหน้ามีทางเข้าอยู่ทางซ้าย และทางออกอยู่ทางซุ้มประตูด้านขวา ตรงกลางระหว่างประตูทั้ง 2 ข้าง ประดิษฐานพระพุทธรูป และมีประวัติงานประเพณีรับบัวที่เก่าแก่ของชาวอำเภอบางพลี
ภายในอุโบสถ ประดิษฐานหลวงพ่อโต เป็นองค์ประธาน เบื้องหน้าซ้ายและขวา ประดิษฐานหลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อโสธร ตามตำนานพระพุทธรูปสามพี่น้อง เหนือกรอบประตูหน้าต่างอุโบสถ แบ่งเป็นช่องๆ แต่ละช่องเขียนภาพแสดงเรื่องราวพระเวสสันดรชาดกไว้ทั้ง 13 กัณฑ์** ส่วนภาพด้านหลังองค์หลวงพ่อโต เป็นภาพแสดงการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
** พระเวสสันดรชาดก เป็นหนึ่งในเรื่องราวในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ครั้งเมื่อยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ โดยทั่วไปมักจะพูดถึงเพียง 10 ชาติสุดท้าย (หรือที่เรียกว่า ทศชาติ) ซึ่งมีเรื่องราวของ พระเวสสันดร เป็นชาติสุดท้าย ที่แสดงการบำเพ็ญทานบารมี ก่อนที่จะเสวยชาติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงมักจะเรียกว่า มหาชาติชาดก ในการเทศนาเรื่องพระเวสสันดร ก็จะเรียกว่า เทศน์มหาชาติ ซึ่งจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 13 กัณฑ์ (13 ตอน) โดยเรียงลำดับ กัณฑ์ที่ 1-13 คือทศพร หิมพานต์ ทานกัณฑ์ วนประเวศ ชูชก จุลพน มหาพน กัณฑ์กุมาร กัณฑ์มัทรี สักกบรรพ มหาราช ฉกษัตริย์ นครกัณฑ์
บริเวณภายในอุโบสถ เป็นที่กราบสักการะ ขอพรจากองค์หลวงพ่อโต และปิดทององค์พระได้ แต่ไม่สามารถจุดธูปเทียนได้ ด้านข้างอุโบสถจึงมีหลวงพ่อโตองค์จำลอง ให้ได้จุดธูปเทียนบูชาให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปด้านใน ทั้งยังมีจุดให้ทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง แขวนกระดิ่ง เสี่ยงเซียมซี และอ่างน้ำมนต์ เมื่อบูชาพระด้านนอกแล้ว จากนั้นจึงเข้าไปกราบอธิษฐานขอพร ต่อองค์หลวงพ่อโต พร้อมทั้งนำแผ่นทองคำเปลวไปติดที่องค์หลวงพ่อ(องค์จริง) ซึ่งทางวัดได้จัดทำเป็นขั้นบันไดเพื่อให้สะดวกในการขึ้นไปปิดทองได้ถึงองค์พระเลย (เหยียบตรงบันไดได้ แต่ไม่ควรปีนขึ้นไปบนองค์พระ)
วิหาร
วิหารตั้งอยู่บริเวณด้านข้างอุโบสถ เป็นวิหารเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในลักษณะอาคารแบบเดิมๆ ผนังตรงกลางด้านหน้าวิหาร เจาะเป็นซุ้มจระนำ** รูปทรงเรียบๆ ในซุ้มประดิษฐานพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ ภายในวิหารมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ผนังปูนทาสีเรียบ ไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง หน้าต่างทาสีแดงพื้น ไม่ได้ลงลวดลาย ส่วนของโครงหลังคาเป็นเครื่องไม้ เสาภายในยังคงสภาพเสาไม้แปดเหลี่ยม สูงจากพื้นขึ้นไปจรดโครงหลังคา เสาแต่ละต้นมีผ้าหลากสีพันไว้ ตามความเชื่อที่ว่าเป็นการเคารพต่อเทวดา เทพารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ วิหารแห่งนี้เป็นที่เก็บพระพุทธรูปหลายแบบ หลายขนาด ทั้งพระพุทธรูปเก่าและใหม่ จึงเห็นพระพุทธรูปมากมายจัดเรียงไว้รอบโถงภายในวิหาร จุดนี้ เป็นบริเวณที่คนมักจะเข้ามาตั้งจิตอธิษฐาน และยกช้างเสี่ยงทายในสิ่งที่ปรารถนา
** ซุ้มจระนำ เป็นซุ้มที่เจาะผนังให้เป็นช่อง (แบบไม่ทะลุ) มักจะอยู่บริเวณท้ายผนังวิหาร หรือโบสถ์ เป็นที่สำหรับประดิษฐานองค์พระพุทธรูป
หมอชีวกโกมารภัจจ์
รูปปั้นหมอชีวกโกมารภัจจ์ (อ่านว่า ชี-วะ-กะ-โก-มา-ระ-พัด) บรมครูแห่งการแพทย์แผนไทย ผู้บำเพ็ญความดี ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นหมอหลวง และแพทย์ประจำตัวของพระพุทธเจ้า เป็นดั่งที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา ผู้ที่ต้องการขอพรเรื่องสุขภาพร่างกาย ต้องการหายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จึงมักจะมากราบสักการะต่อท่าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์
ภายในบริเวณวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พระพุทธบาทจำลอง พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ พระพรหม พระราหู พระสีวลี เจ้าแม่ตะเคียน ตลาดน้ำโบราณบางพลี เป็นต้น
ห้องน้ำไฮเทค
อีกจุดหนึ่งที่กลายเป็นไฮไลท์ของวัด หลายคนมาวัดแล้วต้องถามถึง คือ ห้องน้ำไฮเทค ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เป็นห้องน้ำที่ผิดไปจากห้องน้ำวัดทั่วๆ ไป ตรงที่มีความสวยงาม สะดวกสบาย กว้างขวาง ดูหรูหราโอ่โถง ติดพัดลม และแอร์ ภายในห้องน้ำประดับประดาด้วยต้นไม้ดอกไม้ประดิษฐ์ น้ำตกจำลอง สวยงามราวกับห้องน้ำโรงแรม จึงกลายเป็นจุดที่มีผู้คนมานั่งพัก นั่งรอ และถ่ายรูปกันมากมาย
งานประเพณีรับบัว (ดูรายละเอียดงานประเพณีรับบัว)
เป็นงานประจำปีของวัดบางพลีใหญ่ใน ที่มีแห่งเดียวในโลก ถือเป็นงานสำคัญที่ยิ่งใหญ่ ประเพณีเก่าแก่ ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ มีผู้คนมาร่วมงานกันมากมาย ที่แสดงถึงพลังศรัทธาต่อหลวงพ่อโต งานจะจัดในวันก่อนวันออกพรรษา 1 วัน หรือในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 (ประมาณเดือนตุลาคม) ของทุกปี
สถานที่น่าสนใจบริเวณใกล้เคียง
- วัดบางพลีใหญ่กลาง (วัดพระนอน)
- ตลาดน้ำบางพลีใหญ่ใน
การเดินทาง
ห่างจากวัดบางพลีใหญ่กลาง (วัดพระนอน) 1 กิโลเมตร
ห่างจากสถานตากอากาศบางปู 17 กิโลเมตร
ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 18 กิโลเมตร
เส้นทางรถยนต์
เส้นทาง ถนนสุขุมวิท -> เข้าถนนเทพารักษ์
1 | หากใช้ถนนสุขุมวิท (ขาออก) จากแยกบางนา มุ่งหน้าสมุทรปราการ เมื่อผ่านอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง จะข้ามสะพานข้ามคลองสำโรง แล้วเจอแยกไฟแดง จึงเลี้ยวซ้ายแยกนี้ (เป็นถนนเทพารักษ์) |
2 | เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ตรงตามป้ายบางพลี - บางบ่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านหน้าบิ๊กซีบางพลีไปสักระยะ จึงเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางเข้าวัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) |
3 | จากนั้นตรงไป พอลงสะพานข้ามคลองสำโรง วัดบางพลีใหญ่ใน อยู่ทางซ้ายมือ |
เส้นทาง ถนนบางนา-ตราด -> ถนนกิ่งแก้ว-บางพลี
1 | หากใช้ถนนบางนา-ตราด (ขาออก) จากแยกบางนา มุ่งหน้าชลบุรี ตรงไปเรื่อยๆ ตามป้ายบอกทางสะพานกลับรถไป อ.บางพลี (ทางออกคู่ขนานอยู่ประมาณ กม.12 แถวหน้าตลาดกิ่งแก้ว / แม็คโครบางพลี) |
2 | เมื่อกลับรถมาแล้ว ตรงกลับมาผ่านหน้าโฮมโปร (จุดนี้มีทั้งโฮมโปร Market Village และโลตัส) แล้วจึงเลี้ยวซ้ายตรงข้างโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 |
3 | เลี้ยวซ้ายมาแล้ว จะเป็นถนนกิ่งแก้ว-บางพลี ตรงไปอีกราว 3 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป ที่ว่าการอำเภอบางพลี / สภ.บางพลี / อบต.บางพลีใหญ่ จึงชิดเลนซ้ายสุด (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยก) |
4 | จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามป้าย อบต.บางพลีใหญ่ แล้วตรงตามเส้นทางไปเรื่อยๆ จนมาถึงสามแยกรูปตัวที (T) ตรงธนาคารออมสิน จึงเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางวัดบางพลีใหญ่ใน (มีป้ายบอกตลอดทาง) |
เส้นทาง ถนนบางนา-ตราด -> กลับรถ บางนา-ตราด (กม.18)
1 | หากใช้ถนนบางนา-ตราด (ขาออก) จากแยกบางนา มุ่งหน้าชลบุรี ตรงไปเรื่อยๆ จนเลยจุดกลับรถบางพลีไปก่อน แล้วจึงกลับรถจุดกลับรถถัดไป (ทางออกเส้นคู่ขนาน อยู่บริเวณหน้าปั๊มบางจาก หรือ กม.18) |
2 | เมื่อกลับรถมาแล้ว ตรงกลับไปจนเห็นศูนย์มิตซูบิชิ จากนั้นจะมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้้ายเข้าซอยไปวัดหลวงพ่อโต จึงเลี้ยวซ้ายตามป้าย |
3 | เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้ว ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร วัดบางพลีใหญ่ในอยู่ทางขวามือ |
** หากใช้เส้นทางพิเศษบูรพาวิถี ให้ออกตามป้ายบางพลี เมื่อลงมาแล้วตรงตามป้ายสะพานกลับรถไป อ.บางพลี พอกลับรถแล้วไปเลี้ยวซ้ายข้าง รพ.จุฬารัตน์ 1 เข้าสู่ถนนกิ่งแก้ว-บางพลี
เส้นทาง ถนนศรีนครินทร์ -> ถนนเทพารักษ์
1 | หากใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ (ขาออก) มุ่งหน้าสมุทรปราการ พอผ่านฟู้ดแลนด์, แจส เออเบิน จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามป้าย ถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางพลี |
2 | เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปจนผ่านบิ๊กซีบางพลี จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดบางพลีใหญ่ใน |
** หากใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) ให้ลง ถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางพลี จากนั้นตรงไปจนผ่านหน้าบิ๊กซีบางพลี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดหลวงพ่อโต
รถโดยสารประจำทาง
รถเมล์ (ถนนบางนา-ตราด) + รถสองแถว
- นั่งรถเมล์เส้นที่วิ่งบางนา-ตราด (สาย 132, 133, 365) ลงป้ายแม็คโคร บางพลี จากนั้นข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม (เป็นโฮมโปร / Market Village / โลตัส) รอขึ้นสองแถวสาย บิ๊กซี-รอบเมือง (รถผ่านวัดหลวงพ่อโต)
รถสองแถวสายบิ๊กซี - รอบเมือง (บิ๊กซี - บางนาตราด)
รถสองแถวสีฟ้าแถบขาว (สาย 1205) สายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม คิวจะอยู่แถวหน้าบิ๊กซีบางพลี จากนั้นวิ่งเส้นบางพลี-กิ่งแก้ว เข้าถนนบางนา-ตราด จนวนกลับมาที่บิ๊กซีเหมือนเดิม
เส้นทางเดินรถ บิ๊กซีบางพลี - เลี้ยวเข้าซอยวัดบางพลีใหญ่ใน(วัดหลวงพ่อโต) - รร.บางพลีราฎร์บำรุง - วัดบางพลีใหญ่กลาง - ซอยหมู่บ้านลิขิต 7 - อบต.บางพลีใหญ่ - ออกถนนบางพลี-กิ่งแก้ว - กลับรถใต้สะพานข้ามคลองสำโรง - ถนนกิ่งแก้ว(มุ่งหน้าบางนาตราด) - เลี้ยวซ้ายแยกกิ่งแก้วเข้าบางนาตราด - ผ่านแยกกาญจนาภิเษก - หน้าเมกาบางนา - รร.ราชวินิตบางแก้ว - รพ.ปิยะมินทร์ - กลับรถตรงสะพานกลับรถ (กม.5) - หมู่บ้านกฤษดานคร 21 - โลตัสเอ็กตร้าบางนา - ตลาดกิ่งแก้ว - แมคโครบางนา - กลับรถตรงสะพานกลับรถบางพลี (กม.12) - โฮมโปรกิ่งแก้ว(Market Village / โลตัส) - เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกิ่งแก้ว - เข้าซอย อบต.บางพลีใหญ่ - วัดบางพลีใหญ่กลาง - วัดบางพลีใหญ่ใน (วัดหลวงพ่อโต) - เลี้ยวขวาถนนเทพารักษ์ - กลับรถมาหน้าบิ๊กซีบางพลี
รถเมล์ (ถนนสุขุมวิท) + รถสองแถว (จากตัวเมืองปากน้ำ)
- นั่งรถเข้าตัวเมืองปากน้ำ สาย 25, 102, 142, 507, 508, 511, 536 ลงป้ายหน้าวัดพิชัยสงคราม จากนั้นเดินตามถนนจนถึงสี่แยกไฟแดงแรก จึงเลี้ยวซ้ายมุมถนน (จะเป็นถนนนารายณ์ปราบศึก) เดินเข้าไปไม่ไกลนัก จะเห็นคิวรถทางขวามือ สองแถวสีส้ม สายปากน้ำ - แพรกษา - คลองเก้า - บิ๊กซีบางพลี
- ลงรถที่บิ๊กซีบางพลี แล้วเดินไปหลังห้าง จะมีทางข้าม (เป็นเรือต่อกัน) ไปฝั่งตลาดโบราณบางพลี เดินผ่านตลาดไปเรื่อยๆ จะถึงวัดบางพลีใหญ่ในได้
รถไฟฟ้า BTS (สำโรง) + รถตู้
- นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง (ทางออก 1) จากนั้นเดินบนทางสกายวอล์ค ย้อนกลับไปตรงหน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์ (ตรงหน้าธนาคาร UOB) มีคิวรถตู้สาย สำโรง-บางบ่อ นั่งมาลงที่บิ๊กซีบางพลี แล้วค่อยเดินทะลุหลังห้างบิ๊กซี ข้ามคลองไปถึงวัดบางพลีใหญ่ใน
รถไฟฟ้า BTS (สำโรง) + รถสองแถว (ถนนเทพารักษ์)
- นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง (ทางออก 6) ลงมาแล้วเดินผ่านหน้าสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ ไปทางสามแยกเทพารักษ์ เลี้ยวซ้ายมุมถนน แล้วรอรถสองแถว (ตรงหน้า 7-11) จะมีรถสองแถวสีส้ม (ที่เขียนว่าบิ๊กซี บางพลี) นั่งสองแถวมาลงที่บิ๊กซี จากนั้นเดินไปด้านหลังห้าง จะมีเรือต่อกันให้เดินข้ามฟากไปฝั่งวัดบางพลีใหญ่ในได้
รถไฟฟ้า BTS (สำโรง) + รถสองแถว (ซอยวัดด่านสำโรง)
- นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง (ทางออก 1) จากนั้นเดินบนทางสกายวอล์ค ย้อนกลับไปลงฝั่งตรงข้ามห้างอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เดินเข้าไปในซอยวัดด่านสำโรง (ซอยสุขุมวิท 113) ประมาณ 100 เมตร ขึ้นสองแถวสีน้ำเงิน ที่เขียนว่าสำโรง-หนามแดง-บางพลี รถจะวิ่งไปถึงวัดบางพลีใหญ่ในเลย
ข้อมูลการติดต่อ วัดบางพลีใหญ่ใน (วัดหลวงพ่อโต)
เวลาเปิด (วัดและอุโบสถ)
8.00 - 17.00 น.
ที่อยู่ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
โทร. (ไม่มีข้อมูล)
เว็บไซต์ http://www.watbangpleeyainai.org/node/1