Language:

เหมืองปิล๊อก กาญจนบุรี



เหมืองปิล๊อก เป็นสถานที่ที่เคยเป็นแหล่งเหมืองแร่เก่า มีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชมสถานที่ ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต ครั้งเมื่อผืนดินแห่งนี้เต็มไปด้วยแร่ที่มีค่า เสมือนเป็นขุมทองของนักแสวงโชคจากทั่วทุกสารทิศ

เมื่อประมาณ 70 กว่าปีก่อน ในช่วงการล่าอาณานิคม ขณะนั้นประเทศพม่าได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ มีชาวพม่าจำนวนหนึ่งได้เข้ามาหาแร่วุลแฟรม และดีบุก เพื่อนำไปขายต่อให้กับทหารอังกฤษ เอาไปผลิตอาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการสงคราม ว่ากันว่ามีนายพรานฝั่งไทย 2 คน คือพรานไผ่ และพรานผาแป เข้าไปตามรอยกระทิงในป่า แล้วไปเจอชาวพม่ากำลังขุดหาแร่อยู่ จึงนำเรื่องไปแจ้งทางการไทย เมื่อปี พ.ศ. 2481 กรมโลหกิจ องค์การเหมืองแร่ ในหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในสมัยนั้น จึงได้เข้ามาสำรวจสายแร่ในบริเวณปิล๊อกนี้ พบว่าแถวนี้มีสายแร่ดีบุกและแร่วุลแฟรมอยู่มาก รวมถึงมีแร่ทังสะเตน และสายแร่ทองคำปะปนอยู่ด้วย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 องค์การเหมืองแร่ จึงได้จัดตั้งเหมืองแร่แห่งแรกขึ้นในตำบลปิล๊อก หลังจากนั้นก็เปิดให้สัมปทานแก่นักลงทุนเอกชน จนทำให้มีเหมืองแร่เกิดขึ้นมากมายราวดอกเห็ดราวๆ 50-60 แห่ง ทั้งเหมืองขนาดเล็กและใหญ่ รวมถึงเหมืองเถื่อน และการแอบลอบขุดนำไปขายของชาวบ้าน ในขณะนั้นเองก็ยังมีชาวพม่าจำนวนหนึ่งเข้ามาขุดแร่เพื่อนำไปขายให้แก่อังกฤษ ซึ่งทำให้ทางการไทยต้องเข้าปราบปราม ต่อสู้กัน จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงการขุดอุโมงค์เพื่อเข้าไปหาแร่บนภูเขานั้น มีอันตรายมากมาย ทั้งเกิดอุโมงค์ถล่ม หินถล่ม ไข้ป่า มาเลเรีย ทำให้คนงานเหมืองเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าชื่อเหมืองปิล๊อกนี้ เป็นคำที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เหมืองผีหลอก" เพราะมีคนตายมากมาย และเมื่อคนงานพม่าเรียกต่อๆ กันไป จึงเพี้ยนเป็น "เหมืองปิล๊อก"

ช่วงยุคทองของการค้าแร่ ถือได้ว่ารุ่งเรืองมาก จนครั้งนึงประเทศไทยกลายเป็นแหล่งผลิตดีบุกที่สำคัญของโลก ประมาณปีพ.ศ. 2527-2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง เมื่อจีนได้ปล่อยดีบุกจำนวนมากออกขายในราคาถูก ราคาแร่ดีบุกจึงเข้าสู่วิกฤตการณ์เลวร้าย ตกต่ำอย่างรุนแรง ทั้งยังมีเทคโลยีการผลิตพลาสติกเข้ามาแทน ทำให้การใช้ดีบุกลดลง เหมืองแร่ดีบุกในประเทศไทยจึงต้องทะยอยปิดตัวลง คนงานต่างก็พากันอพยพไปทำงานที่อื่น และในที่สุดตำนานแห่งเหมืองปิล๊อก จึงกลายเป็นเพียงเรื่องราวในอดีตที่ถูกเล่าขาน ปัจจุบันไม่มีการขุดหาแร่อีกแล้ว เหลือเพียงซากรถเก่าที่เคยบรรทุกแร่ โรงเก็บอุปกรณ์การร่อนแร่ถูกทิ้งร้าง และพื้นที่บางส่วนที่เคยเป็นอุโมงค์ขุดเจาะแร่ ทิ้งไว้ให้เห็นถึงยุคที่เคยรุ่งเรืองในอดีตเท่านั้น

* เหมืองปิล๊อกอยู่ตรงข้ามกับตลาดอีต่องจึงใช้เส้นทางการเดินทางเดียวกับมาหมู่บ้านอีต่อง

 

การเดินทางไปยังเหมืองปิล๊อก หมู่บ้านอีต่อง
สามารถใช้รถสองแถวประจำทาง สีเหลือง เขียนข้างรถว่า ทองผาภูมิ - อีต่อง ค่าโดยสารคนละ 70 บาท
- ออกจากตลาดทองผาภูมิ เวลาประมาณ 10.30 น. (ถ้านั่งรถบขส. 999 จากกรุงเทพฯ - ด่านเจดีย์สามองค์ ต้องขึ้นรถเที่ยว 5.00 น.)
- ออกจากหมู่บ้านอีต่อง มีสองเที่ยวคือ เวลาประมาณ 6.30 น. และ 7.30 น.

ด้วยรถยนต์
จากตัวเมืองกาญจนบุรี - อำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร
จากตัวอำเภอทองผาภูมิ - เหมืองปิล๊อก ประมาณ 70 กิโลเมตร

- เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เส้นทางจะต่อกับเส้น 3272 เข้าอำเภอทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ (ตัวอำเภออยู่ทางขวา) เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ​ 30 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านไร่-ปิล๊อก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล๊อก จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
- วิ่งเลยอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร เลยทางเข้าน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง เหมืองสมศักดิ์ เนินช้างศึก เส้นทางนี้จะไปสุดทางที่หมู่บ้านอีต่อง (เหมืองปิล๊อกเก่าอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดอีต่อง) เมื่อเลยจากอุทยานฯ​ เส้นทางบางช่วงมีผิวถนนชำรุด เป็นช่วงลงเขา และมีโค้งหักศอกหลายจุด แม้บางจุดจะมีกระจกโค้ง แต่เพื่อความปลอดภัยควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เช่นใช้เกียร์ต่ำ ไม่ขับรถเร็ว ไม่แซงทางโค้ง เป็นต้น

ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip :123
Image
Gallery

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ห่างออกไป ประมาณ: 0.2 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
หมู่บ้านอีต่อง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนพื้นบ้าน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ริมชายแดนไทย-พม่า ที่เงียบ สงบ ปลอดภัย ยังคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ และวัฒนธรรมพื้นถิ่น ซึ่งเป็นเหมือนมนต์เสน่ห์ให้คนเมืองเข้ามาสัมผัสความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนี้
ห่างออกไป ประมาณ: 0.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ในเขตพรมแดนไทย-พม่า นักท่องเที่ยวที่มาเหมืองปิล๊อก นิยมมาแวะชมวิวที่เห็นทิวทัศน์ได้รอบตัวแบบ 360 องศา โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว มีหมอกปกคลุมตามยอดเขา จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก
ห่างออกไป ประมาณ: 1.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เขาช้างเผือก เป็นที่เที่ยวสำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ชอบผจญภัย พิชิตยอดเขาสูง ยอดเขาช้างเผือกสูงตระหง่าน รอให้มาพิสูจน์ความกล้ากัน โดยเฉพาะจุดของสันเขาที่หวาดเสียวที่สุดที่เรียกว่า "สันคมมีด" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ
ห่างออกไป ประมาณ: 1.7 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นน้ำตกที่มีความโดดเด่นสวยงามแปลกตา เป็นน้ำตกอยู่ท่ามกลางหุบเขา ยังเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์ลุยๆ แบบไม่ลำบากมาก เพียงการเดินทางเข้าไปตัวน้ำตกยังเป็นเส้นทางที่ขรุขระ แบบออฟโร้ด และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณน้ำตก
ห่างออกไป ประมาณ: 4.3 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแนวเทือกเขาทางภาคตะวันตกส่วนที่ติดเขตแดนพม่า รวมทั้งเปิดให้ได้เข้าพัก เพื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เป็นการปลูกจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวรักและหวงแหนในความเป็นธรรมชาติ และช่วยกันรักษาให้ดำรงสืบไปถึงลูกหลาน
ห่างออกไป ประมาณ: 4.6 กิโลเมตร
* วัดจากเส้นตรง ไม่ใช่เส้นถนน
เหมืองสมศักดิ์ หรือที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่า "บ้านป้าเกล็น" เป็นสถานที่เที่ยวเยี่ยมชมเหมืองแร่เก่าที่ปิดตัวไปแล้ว รับรู้เรื่องราวตำนานรักของป้าเกล็น และเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่กลายเป็น "บ้านเล็กในป่าใหญ่" ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับการลุยทางวิบากเข้าไปสัมผัสอดีตเหมือง และชิมเค้กอร่อยๆ
ร้านอาหารใกล้เคียง
ขอบคุณรูปภาพจาก:
คุณ ขุนแผนคีย์บอร์ด (Pantip), คุณ น้าดอก (Pantip)
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com