น้ำตกเขาสอยดาว เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก ตัวน้ำตกอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ที่ยังคงเป็นธรรมชาติ บรรยากาศโดยรอบเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้ สัตว์ป่า และแมลงต่างๆ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่ชอบใกล้ชิดธรรมชาติ นักเดินป่า ดูนก ดูผีเสื้อ เหมาะสำหรับการพักผ่อนของครอบครัว กลุ่มเพื่อน เพื่อเล่นนำ้ตก เดินศึกษาธรรมชาติ การตั้งแค้มป์
น้ำตกเขาสอยดาว ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อำเภอสอยดาว ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีไปทางตอนเหนือประมาณ 70 กิโลเมตร ส่วนตัวน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ประมาณ 4 กิโลเมตร
Click เพื่ออ่านรายละเอียดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์ และได้รับการคุ้มครอง เพื่อให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชพรรณ และสัตว์ป่า แนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีแนวป่าต่อเนื่องเป็นผืนใหญ่ มียอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดจันทบุรี คือยอดเขาสอยดาวใต้
ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ตั้งอยู่ในตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ขึ้นไปทางทิศเหนือของจังหวัด ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ราวๆ 70 กว่ากิโลเมตร เป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางต่อไปยังจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดปราจีนบุรีได้
พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีอาณาเขตติดต่อ คือ
ทิศเหนือ ติดกับอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว
ทิศใต้ ติดกับอุทยานแก่งชาติเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี
ทิศตะวันออก ติดกับอำเภอโป่งน้ำร้อน และขนานกับเส้นทางหลวงหมายเลข 317 จันทบุรี - สระแก้ว
ทิศตะวันตก ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อำเภอแก่งหางแมว และป่าสงวนแห่งชาติจันตาแป๊ะ อำเภอคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีพื้นที่ประมาณ 465,637 ไร่ แต่เดิมเป็นเพียง "ป่าสงวนเขาสอยดาว" ต่อมาพื้นที่ป่าได้ถูกบุกรุกลักลอบตัดไม้ และล่าสัตว์ป่ามากขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ.2528 ทางกรมป่าไม้จึงได้เขามาทำการสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า สัตว์ป่า แหล่งน้ำ แหล่งอาหารสำหรับสัตว์ป่า เพื่อกำหนดให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2515 ได้มีประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้เป็นพื้นที่คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าได้อย่างปลอดภัย โดยมีพื้นที่ประมาณ 465,637 ไร่ (762 ตารางกิโลเมตร) และต่อในปี พ.ศ.2541 ได้มีการขอพื้นที่บางส่วนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สำหรับนำไปใช้ในการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ทุ่งคลองเพล เพื่อเก็บนำ้ในการเพาะปลูก และผลิตกระแสไฟฟ้า จึงทำให้ปัจจุบันเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวมีพื้นที่ลดลงเหลือ 465,602 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาสอยดาว ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ป่าทางตอนบนติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น และผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดทางภาคตะวันออก ทิศตะวันตกติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ แนวสันเขาสอยดาววางตัวตามแนวเหนือ-ใต้ พาดผ่านตอนกลางของจังหวัดจันทบุรี ห่างจากชายฝั่งอ่าวไทยประมาณ 80 กิโลเมตร ยอดเขาสูงมีอยู่ 2 ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือ สูง 1,556 เมตร และสอยดาวใต้ สูง 1,675 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดจันทบุรีด้วย
คำว่า "สอยดาว" มีที่มาว่า เทือกเขานี้เป็นภูเขาสูง หากใครได้ขึ้นไปอยู่บนยอดเขา ในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าโปร่ง จะเห็นดวงดาวนับล้านอยู่ใกล้มาก จนแทบจะเอื้อมดึง หรือสอยลงมาได้ ด้วยคำกล่าวนี้ จึงเป็นที่มาที่เรียกเขานี้ว่า "เขาสอยดาว"
สภาพป่าในแถบเขาสอยดาวมีความอุดมสมบูรณ์ เกิดจากความชื้นที่มีมาก เป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศเย็นในช่วงหน้าหนาว และอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี ป่าเขาสอยดาว จึงเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ เป็นต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสายเช่น แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำประแส และแม่น้ำปราจีนบุรี
ลักษณะผืนป่าของเขาสอยดาว ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น บนยอดเขามีลักษณะป่าที่เรียกว่า ป่าโบราณ หรือ ป่าห่มเสื้อ มีต้นไม้ใหญ่น้อย ขึ้นคละปะปนครึ้มหนาตามธรรมชาติ เกิดเป็นโครงสร้างป่าหลายชั้น ไม้ชั้นบนที่เป็นตัวชี้วัดความเป็นป่าดงดิบ เป็นพรรณไม้สูงใหญ่ อายุนับร้อยปี พรรณไม้สำคัญหลายชนิด เช่น ตะเคียนทอง มะค่าโมง ไม้ตระกูลยาง พระเจ้าห้าพระองค์ มะค่าโมง สมพง กะบก ตะแบก ตะเคียน กฤษณา มะหาด ขนุนป่า กะบาก ประดู่ เป็นต้น ส่วนพืชชั้นล่างที่ขึ้นปกคลุมดินด้านล่าง เช่น ไม้ตระกูลปาล์ม หวาย เร่ว กระวาน และข่า เฟิร์น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่เป็นป่าโปร่ง และทุ่งหญ้า มีพรรณไม้จำพวก เต็ง รัง พลวง แดง เป็นต้น ที่สำคัญคือเขาสอยดาวมีป่าสมุนไพร เป็นแหล่งปลูกกระวานที่มากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถือเป็นพื้นที่ป่าที่อนุรักษ์ที่มีกฏข้อบังคับค่อนข้างเคร่งครัด เพราะต้องการสงวนไว้ให้เป็นบ้านสำหรับสัตว์ป่าได้อยู่อาศัย และขยายพันธุ์ สัตว์ป่าที่พบในป่าเขาสอยดาว จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสัตว์ป่าอยู่ร่วมกันหลายชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ เช่น ช้างป่า กระทิง วัวแดง เสือโคร่ง สัตว์ขนาดกลางไปจนถึงขนาดกลางและเล็ก เช่น เก้ง กวาง เลียงผา เสือดาว เสือลายเมฆ แมวดาว หมีควาย หมีหมา หมีขอ หมูป่า เม่น ไก่ฟ้า กระรอก นกชนิดต่างๆ เต่า ตุ๊กแก กิ้งก่า ตะกวด จิ้งเหลน งู กบ เขียด อึ่งอ่าง เป็นต้น
ป่าเขาสอยดาวยังเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีสัตว์หายาก และใกล้สูญพันธุ์ เช่น ชะนีมงกุฏ ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ฟ้าจันทบูรณ์ นกสาริกาเขียวหางสั้น นกขมิ้นแดง นกขมิ้นขาว นกพญาไฟใหญ่ นกกาฮัง(นกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของไทย) และผีเสื้อชนิดต่างๆ
สถานที่ท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ
1. เขาสอยดาวเหนือ เข้าทางอำเภอสอยดาว มีที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงคือน้ำตกเขาสอยดาว เหมาะกับการเดินป่า การศึกษาพรรณไม้ ดูนก ดูผีเสื้อ ตั้งแค้มป์
2. เขาสอยดาวใต้ เข้าทางอำเภอโป่งน้ำร้อน (อยู่ห่างจากทางเขาสอยดาวเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร) ฝั่งนี้จะไม่มีน้ำตก มีเพียงเทือกเขาสูงชัน ที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงคือ ผาหินกูบ และทริปเดินป่าเขาสอยดาวใต้ เหมาะกับคนลุย ไม่กลัวความลำบาก เป็นการเดินป่าเพื่อไปตั้งแค้มป์บนยอดเขา ชมธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศบนยอดเขา ดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอก
น้ำตกเขาสอยดาว "มนต์เสน่ห์แห่งสายธาร สู่ตำนานผืนป่าและขุนเขา" ที่มีความสวยงามท่ามกลางป่าผืนใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่ไหลมาจากต้นน้ำบนเขาสอยดาวเหนือ สายน้ำไหลลดหลั่นผ่านผาหิน และแมกไม้ที่คลุมครึ้ม แบ่งเป็นชั้นๆ ได้ถึง 16 ชั้น ตัวน้ำตกที่โอบคลุมด้วยผืนป่าดิบชื้น ป่าเต็งรัง ที่ยังคงเต็มไปด้วยพรรณไม้ป่า และสัตว์ป่าบางชนิด การเดินชมน้ำตกสามารถเดินได้เอง ตั้งแต่ชั้น 1-9 เส้นทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ชั้นที่ 5-10 จะมีความสวยงาม แต่ก็ขึ้นค่อนข้างยากลำบาก
ส่วนตั้งแต่ชั้น 10-16 นั้น มองไม่เห็นเป็นเส้นทางชัดเจน และเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก ทางเขตรักษาพันธุ์ฯ จึงไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปเอง จะต้องติดต่อขอให้มีเจ้าหน้าที่นำทาง และดูแลความปลอดภัยให้เท่านั้น
จากบริเวณสำนักงาน ลานจอดรถ หากใครไม่ต้องการเดินขึ้นน้ำตก ก็สามารถเล่นน้ำจากธารน้ำด้านล่างได้ เหมาะสำหรับเด็กๆ ได้ลงเล่นอย่างปลอดภัย หากต้องการชมน้ำตกแต่ละชั้น จะต้องเดินต่อขึ้นไปอีก เป็นทางเดินธรรมชาติ ชั้นแรกๆ ไม่สูงชันมาก พอสูงขึ้นไป ก็เดินค่อนข้างเหนื่อยอยูู่เหมือนกัน น้ำตกในแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกตามลักษณะโดดเด่นที่พบ เช่น
ชั้นที่ 1 วังมัจฉา
ชั้นที่ 4 วังนารี เป็นธารน้ำที่ตกลงมาจากหินลงแอ่งเตี้ยๆ ดูอ่อนช้อย นุ่มนวล ไม่รุนแรงมาก
ชั้นที่ 5 ผางาช้าง เป็นชั้นที่เดินจากชั้นล่างขึ้นมาประมาณ 1.2 กิโลเมตร เป็นผาสูงชัน มีน้ำตกไหลผ่านร่องน้ำซ้าย-ขวาของผาหิน ทำให้สายน้ำสองสายที่ไหลลงจากผา ดูเหมือนกับงาช้าง ที่โผล่จากหินตรงกลางที่เป็นเหมือนหัวช้าง
ชั้นที่ 6 ผานางลื่น เป็นชั้นที่หลายคนมาหยุดเพื่อเล่นน้ำกันในชั้นนี้ ชั้น 6 อยู่ห่างจากชั้น 5 เพียง 100 เมตร ผาน้ำตกมีลักษณะเป็นแผ่นหินกว้าง ขนาดใหญ่ ลาดทอดตัวเหมือนสไลเดอร์ สูงราว 7-8 เมตร มีน้ำไหลผ่าน ลงมายังอ่างด้านล่าง เป็นจุดที่หลายคนนิยมมาเล่นลื่นสไลเดอร์ลงไปยังแอ่งน้ำด้านล่าง แต่การเล่นน้ำตกแม้จะดูเหมือนไม่มีอันตราย ก็ควรต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะผาหินก็ลื่นสมชื่อเช่นกัน
ชั้นที่ 7 วังผีเสื้อ เป็นชั้นเตี้ยๆ น้ำตกไหลลงมายังแอ่งที่เป็นเหมือนหาดทรายด้านล่าง เป็นจุดที่มีผีเสื้อให้ดูเยอะ
ชั้นที่ 8 วังไทรย้อย
ชั้นที่ 9 วังพญางิ้วดำ ชื่อนี้ได้มาจากเป็นบริเวณที่นี้มีต้นพญางิ้วดำ* และเป็นชั้นสุดท้ายที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ ชั้นนี้มีระยะทางจากชั้นล่างขึ้นมา 1.8 กิโลเมตร ใครเดินมาได้ก็ต้องใช้กำลังกันพอสมควร แต่ก็คุ้มค่า เพราะเป็นชั้นที่สวยที่สุด มีธารน้ำตกจากหน้าผาสูง ลงมายังแอ่งด้านล่าง จากชั้นที่ 9 เมื่อมองทางหน้าน้ำตก จะเห็นผาน้ำตกจากชั้นที่ 10 ด้วย
* ต้นพญางิ้วดำ หรือไม้งิ้วดำ เป็นต้นไม้ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ชนิดใด คาดว่าน่าจะอยู่ในวงศ์มะเกลือ ที่มีแก่นสีดำ บ้างก็ว่าคือต้นมะริด หรือเป็นไม้มะเกลือถูกไฟป่าจนยางหมด ไม้งิ้วดำมีลักษณะพิเศษกว่าไม้อื่นๆ คือลำต้นมีหนามคล้ายต้นงิ้ว สีดำเนียนสนิทจนถึงแก่นแกนกลาง เป็นไม้ที่มีเนื้อแข็งมาก ไม่มีเสี้ยนไม้ มีน้ำหนักเบา แต่เมื่อโยนลงน้ำจะจมน้ำ เป็นไม้หายาก ที่นานๆ จะได้เจอ มักอยู่ในป่าดิบลึก และมีความเชื่อว่าป่านั้นมักมีอาถรรพ์ เป็นต้นไม้ที่มีเทพารักษ์ จะยืนต้นตาย คนมักนิยมนำไม้ไปทำเครื่องราง ของขลัง หรือเครื่องดนตรีไทย เข่นขลุ่ย ระนาด
เส้นทางจากน้ำตกชั้นที่ 9 หากขึ้นไปชั้นสูงขึ้นไปอีก จะใช้เวลาเดินอีกประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยชัดเจน การขึ้นเขาจะยิ่งชัน ยากลำบากขึ้น จะต้องเดินผ่านความรกทึบของป่า เดินข้ามน้ำตก ผ่านป่าไผ่ มีการปีนป่าย ปีนหินบ้าง บางแห่งต้องใช้เชือก หรือเถาวัลย์ โหนดึงตัวเองขึ้นไป หากขึ้นไปถึงชั้นที่ 10 ชั้นนี้เรียกว่า "ผารากไทร" และชั้นที่ 16 สูงที่สุดเรียกว่า "วังนางนอน"
สิ่งที่น่าสนใจในบริเวณน้ำตกเขาสอยดาว
อาคารนิทรรศการ
เป็นอาคารแสดงนิทรรศการ ให้ความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ พรรณไม้ สัตว์ป่า และระบบนิวเวศน์บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จัดแสดงบรรยาย ภาพถ่าย ฉายสไลด์ เรื่องของพืชพรรณ และสัตว์ที่พบเจอในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เช่น กบอกหนาม* ซึ่งเป็นกับชนิดหนึ่งที่หายาก และพบเจอได้เฉพาะในบริเวณป่าเขาสอยดาว
* กบ อกหนาม มีลักษณะเด่นคือ มีปุ่มหนามแข็งๆ กระจายอยู่บริเวณใต้คางและหน้าอก ปุ่มนี้มีไว้เพื่อการยึดเกาะโขดหินในน้ำ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
ภายในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าเขาสอยดาว มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทางเข้าอยู่ซ้ายมือด้านหลังอาคารที่ทำการ
เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง
เป็นเส้นทางที่ไม่ลำบากมาก เป็นเส้นทางสู่ป่าดงดิบ ระหว่างทางจะได้เห็นต้นไม้ใหญ่ บางต้นมีอายุมากกว่า 100 ปี ลำต้นสูงใหญ่ ขนาดหลายคนโอบ เช่นต้นไทรยักษ์ ตะเคียนหิน ตะเคียนทอง มะหาด มะค่าโมง ต้นพระเจ้าห้าพระองค์* ต้นไทรยักษ์ ยางแดง บางต้นแผ่รากพูพอน** สูงจนเหมือนโพรงถ้ำ ตามเส้นทางยังมีความรู้ทางธรรมชาติ และพันธุ์ไม้ที่พบมาในป่าเขาสอยดาว เช่น เร่ว กระวาน ไลเคน โป่งธรรมชาติ
* ต้นพระเจ้าห้าพระองค์ เป็นไม้หายาก ที่ใกล้สูญพันธุ์ มีขนาดลำต้นสูงใหญ่ สูงได้ถึง 20-40 เมตร ลำต้นตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง ลักษณะพิเศษคือ มีผลค่อนข้างกลม เวลาเมล็ดแห้ง จะมีผิวขรุขระ เห็นเป็นร่องได้ 5 พู ในแต่ละพู มีผิวด้านในคล้ายองค์พระนั่งอยู่ จึงเรียกว่า "ต้นพระเจ้าห้าพระองค์" นิยมนำมาทำเครื่องลางของขลัง เสริมสิริมงคล
** พูพอน (Lobes) คือรากค้ำยันของต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่ยื่นออกจากโคนลำต้น โผล่ออกมาให้เห็นบนดิน เพื่อแผ่ขยายรากออกไปด้านข้าง ช่วยพยุงต้นไม้ให้มีความแข็งแรงขึ้น
ชมดอกโสกเขา
สำหรับคนที่ชื่นชอบดอกไม้ ในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน ของทุกปี ถือเป็นฤดูกาลของดอกไม้ประจำป่าเขาสอยดาว ได้แก่ "ดอกโสกเขา*" ออกดอกสีส้มแดง บานสะพรั่งตลอดทาง
* ดอกโสกเขา เป็นดอกไม้ป่า พบได้ตามริมลำธาร หรือในป่าดิบชื้น เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นสูงเต็มที่ประมาณ 10 เมตร มีดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกเล็กๆ ออกเป็นพุ่มคล้ายดอกเข็ม มีสีออกแดง หรือชมพูอมแดง ดอกมีกลิ่นอ่อนๆ
ดูนก ชมผีเสื้อ
เส้นทางเดินขึ้นสู่น้ำตก ยังมีความเป็นป่าที่ถูกรบกวนน้อย จึงมีนกและผีเสื้อให้ได้ชมอยู่บ้าง มีทั้งนกที่หายาก และนกพื้นถิ่น เช่น นกขุนแผนหัวแดง นกขุนแผนอกส้ม นกพญาปากกว้างลายเหลือง นกสาลิกาเขียวหางสั้น นกขมิ้นขาว นกปลีกล้วย นกกาฝาก นกกระทาจันทบูร หรือบางทีอาจได้พบสัตว์เฉพาะถิ่นที่หายากอย่าง ไก่ฟ้าหลังขาวจันทบูร์
ส่วนผีเสื้อ มักจะชอบหากินตามริมห้วยน้ำตก บริเวณที่มีแดดส่งถึง หากมาเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน เป็นช่วงที่ได้เห็นผีเสื้อมากที่สุด ผีเสื้อที่พบ เช่น ผีเสื้อนิโกรซ ผีเสื้อหางติ่งนางละเวง ผีเสื้อหางติ่งชะอ้อน
ป่ากระวาน
ป่ากระวานจะอยู่แยกจากน้ำตกชั้น 16 ออกไปอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอนุญาติให้ชาวบ้านขึ้นไปเก็บกระวาน และจัดการดูแลให้เป็นสวนกระวาน หากนักท่องเที่ยวต้องการชม ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ข้อแนะนำการเที่ยวน้ำตกเขาสอยดาว
- ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นไปบริเวณน้ำตก
- คนที่มาเที่ยวน้ำตกสามารถเดินขึ้นชมน้ำตกได้เอง ตั้งแต่ชั้นที่ 1-9 ชั้นสวยที่สุดคือชั้น 9
- สำหรับคนที่ต้องการเดินขึ้นน้ำตกจากชั้น 9 จนถึงชั้น 16 ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง (มีค่าใช้จ่ายในการนำทาง) ผู้ที่จะขึ้นไปควรมีสภาพร่างกายที่พร้อมในการลุยป่า ใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม เหมาะกับการเดินป่า ปีนป่าย ควรรับประทานอาหารไปให้เรียบร้อยก่อน เพราะใช้เวลาในการเดินขึ้น-ลง ประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- สำหรับคนที่วางแผนมาเที่ยวที่น้ำตกเขาสอยดาว แนะนำว่าให้มาถึงน้ำตกในช่วงเช้า หรือก่อนเที่ยง เพราะต้องใช้เวลาในการเดินเที่ยวชมน้ำตกในแต่ละชั้นด้วย หากมาหลัง 15.30 น. เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาติให้เข้าไปยังน้ำตก
- เจ้าหน้าที่จะให้นักท่องเที่ยวลงจากน้ำตก และออกจากป่าก่อนเวลา 15.30 น.
- สำหรับคนที่มาตั้งแค้มป์บริเวณน้ำตกเขาสอยดาว หากมาพักในช่วงหน้าหนาว อากาศจะค่อนข้างหนาวเย็นมาก ควรเตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์ป้องกันความหนาวเย็นมาด้วย
- สำหรับคนที่มาช่วงหน้าฝน หรือช่วงที่อากาศชื้นๆ หน่อย ตามทางเดินขึ้นน้ำตกอาจมีทากให้เห็น (หน้าร้อนไม่มีทาก) ควรใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด รัดกุม เช่นใส่กางเกงขายาว ใส่เสื้อทับด้านใน ใส่ถุงเท้ายาวๆ ถุงเท้ากันทาก หรือทายากันทาก ยาตะไคร้หอม น้ำมันมวย เพราะทางเดินขึ้นน้ำตกเป็นทางเดินเล็กๆ ผ่านป่า และต้นไม้ตามรายทาง อาจโดนทากเกาะได้ง่าย
- บริเวณผาหินน้ำตก และเส้นทางเดินขึ้นน้ำตก บางจุด เมื่อมีฝน หรือโดนความชื้นจะลื่น ควรใช้ความระมัดระวัง ควรใส่รองเท้าที่กระชับ รัดกุม
ที่พักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ
บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีบ้านพักรับรองอยู่ 3 หลัง หากต้องการเข้าพัก ต้องติดต่อขออนุญาติล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน (โทรติดต่อได้ที่ 02- 579-9446) นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์อีก 3 จุด มีทั้งแบบอยู่ใกล้น้ำตก และใกล้เรือนพักรับรอง ทุกจุดมีห้องน้ำ ห้องสุขา ใกล้กันมีร้านอาหารตามสั่ง
- บ้านขนาดเล็ก พักได้ 8 คน
- บ้านหลังใหญ่ พักได้ 20 คน
- เต็นท์สำหรับเช่าพักแรม พักได้ 2 คน ราคา 100 บาท/คืน
- หากนำเต็นท์มาเอง ค่าธรรมเนียม 30 บาท/คน/คืน
* อนุญาตให้พักแรมได้ในบริเวณที่จัดไว้โดยจะต้องติดต่อขออนุญาติกับเจ้าหน้าที่ก่อน
ค่าธรรมเนียมการเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ 200 บาท
รถจักรยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
รถ 6 ล้อ 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
ที่อยู่ ตำบลทรายขาว อำเภอเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี 22180
ติดต่อ 039-486-333, 081-384-5164
เวลาทำการ ทุกวัน 8.30 -16.30 น.
หรือ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ
เวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น., วันเสาร์ เวลา 09.00-15.30 น.
ติดต่อ 02-562-0760
เว็บไซต์ www.dnp.go.th
หรือ
ส่วนจัดการสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา)
เลขที่ 16 ถนนสุขุวิท ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 2 0 1 1 0
ติดต่อ 038-311-234, 038-770-116
การเดินทาง
ห่างจากอำเภอสอยดาว (ตลาดปะตง) 5 กิโลเมตร
ห่างจากอำเภอโป่งน้ำร้อน (แยกทับไทร) 30 กิโลเมตร
ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 72 กิโลเมตร
ห่างจากกรุงเทพฯ (เส้นกรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา - ปราจีนบุรี - สระแก้ว - สอยดาว) 277 กิโลเมตร
ห่างจากกรุงเทพฯ (เส้นกรุงเทพฯ - ชลบุรี - บ้านบึง - แกลง - จันทบุรี - โป่งน้ำร้อน - สอยดาว) 315 กิโลเมตร
รถยนต์
1 | ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) จากระยอง ให้ตรงไปทางจังหวัดตราด จนถึงแยกปากแซง |
2 | จากนั้นวิ่งตรงไปอีกประมาณ อีกประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร ผ่านอำเภอโป่งน้ำร้อน (ช่วงระหว่างทางจะผ่านสี่แยกทับไทร) |
3 | เมื่อเข้าเขตอำเภอสอยดาว จะเห็นป้ายบอกทางซ้ายมือเป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาสอยดาว เลี้ยวซ้ายตามป้าย |
4 | เลี้ยวซ้ายแล้ว ตรงไปตามเส้นทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
ต้องการไปยังบริเวณน้ำตกเขาสอยดาว จะต้องขับรถเข้าผ่านที่ทำการฯ ไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร |
รถโดยสารประจำทาง
วิธีที่ 1
- สามารถนั่งรถประจำทางสายจันทบุรี - สระแก้ว เมื่อมาถึงอำเภอสอยดาว ลงที่ตลาดปะตง (ตลาดจันทรพิกุล)
- จากนั้นเหมารถสองแถวตรงแถวตลาดปะตง เพื่อนั่งรถย้อนกลับมาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ราคาอยู่ที่ ประมาณ 100-150 บาท
วิธีที่ 2
- นั่งรถตู้ กรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา - ปราจีนบุรี - สระแก้ว - จันทบุรี ลงรถที่อำเภอสอยดาว
- จากนั้นเช่ารถจากตลาดปะตง เข้าไปที่น้ำตกเขาสอยดาว
รถตู้สอยดาวทัวร์
กรุงเทพฯ - สอยดาว (เที่ยวรถ 3.30 - 19.00 น.)
สอยดาว - กรุงเทพฯ (เที่ยวรถ 1.30 - 18.00 น.)
เส้นทางรถตู้ กรุงเทพฯ - (ฉะเชิงเทรา)เขาหินซ้อน - ตรอกสมบูรณ์ - เขาจันทร์ - (ปราจีนบุรี)โปร่งสะเดา - วังท่าช้าง - (สระแก้ว)น้ำทรัพย์ - เขาฉกรรจ์ - วังน้ำเย็น - วังสมบูรณ์ - (จันทบุรี)สอยดาว
* คิวรถกรุงเทพฯ จะอยู่ใต้ทางด่วนใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ (ใต้ทางด่วนพหลโยธิน ฝั่งขาออก) ที่ขายตั๋วอยู่ติดกับตู้โค้กสีแดง
(มีรูปจุดขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ประกอบ สอยดาวทัวร์)
ติดต่อ 081-837-8042, 081-874-0977, 081-901-7292
เว็บไซต์ http://www.soidaotour.com/
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/soidao01
รถรับจ้าง
สามารถเหมารถมาสด้าจากตัวเมืองจันทน์ (รถสองแถว) สามารถติดต่อได้แถวสถานีขนส่ง หรือโทรติดต่อ เพื่อเช่ามาเที่ยวยังน้ำตกเขาสอยดาว (ราคาแล้วแต่จะตกลงกัน)
สอบถามรายละเอียดได้ที่
มาสด้าซิตี้ทัวร์ / รถรับจ้างมาสด้า
ติดต่อ 085-277-0960
เฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/MazdaChanthaburi1735/timeline
ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip :
1234