วัดเขาสุกิม จันทบุรี



วัดเขาสุกิม เป็นวัดขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีของคนทั่วไป เป็นวัดสายปฏิบัติของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงมีผู้คนมากมายแวะเวียนมาทำบุญ กราบสักการะสรีระหลวงปู่ และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้วัดเขาสุกิม ยังเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ เปิดให้ชมของบริจาคที่อยู่ภายในวัด เป็นวัตถุโบราณ เฟอร์นิเจอร์จากเมืองจีน และของแปลก ของหายากจำนวนมาก ที่แสดงให้เห็นพลังศรัทธาของศิษยานุศิษย์จากทั่วประเทศที่นำมาถวาย วัดตั้งอยู่บนเขา ได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองจันท์ ไม่ต้องหนักใจหากกลัวจะเดินขึ้นไม่ไหว เพราะเค้ามีบริการรถรางฟรีด้วย

วัดเขาสุกิม ตั้งอยู่ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ถ้ามาจากทางระยอง จะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรี ไม่ไกลจากเขาคิชฌกูฏ

วัดเขาสุกิม สร้างจากแรงศรัทธาของญาติโยมที่เคารพนับถือหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย พระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ที่เดินทางเข้ามาพำนักอยู่บนเขาสุกิมเมื่อพ.ศ.2507 ในขณะนั้นบริเวณเขาสุกิมยังเป็นป่าทึบ หลวงปู่ได้ขึ้นมาบำเพ็ญอยู่ที่ชะง่อนหิน เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวว่ามีพระป่ามาพำนัก จึงมาช่วยกันทำกุฏิ เล็กๆ ให้เป็นสำนักสงฆ์ และต่อมาในปี พ.ศ.2509 ท่านได้เป็นประธานสงฆ์ในการสร้างวัดเขาสุกิมขึ้น

ประวัติหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย หรือ พระวิสุทธิญาณเถร มีภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เริิ่มบวชเป็นเณรตอนอายุ 19 ปี ที่วัดศรีไพรวัลย์ จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นได้เดินทางไปถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร จนอายุครบ 21 ปี จึงบวชเป็นพระ ได้ฉายาว่า "ฐิตวิริโย" และจำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ ซึ่งมีพระอาจารย์ ฝั้น อาจาโร เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น ต่อมาท่านก็ได้ออกธุดงค์ ไปยังจังหวัดหนองคาย ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงประเทศลาว และพม่า จนกระทั่งปีพ.ศ.2504 พระอาจารย์สมชาย ได้จาริกมายังจังหวัดจันทบุรี จำพรรษาที่วัดเขาน้อย และต่อด้วยวัดเนินดินแดง ต่อมาในปี พ.ศ.2507 ท่านได้รับนิมนต์ไปที่เขาบายศรี และเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะกับการปฏิบัติบำเพ็ญ จึงมาพำนักอยู่ที่เขาสุกิม (เดิมชาวบ้านเรียกกันว่าเขาอีกิม) โดยปักกลดอยู่ตามโคนต้นไม้ และนั่งบำเพ็ญตามชะง่อนหิน หลังจากนั้น ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ได้สร้างเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ และต่อมา ท่านได้เป็นประธานสงฆ์ในการสร้างวัดเขาสุกิมขึ้นในปี พ.ศ.2509
หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2468 มรณะภาพเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2548 สิริอายุ 80 ปี
(ข้อมูลจาก เว็บธรรมะไทย)

 


วัดเขาสุกิม มีเนื้อที่ประมาณ 3,344 ไร่ เป็นส่วนที่ขออนุญาติสร้างวัด 6 ไร่ 50 ตารางวา เป็นโรงเรียนมัธยมวัดเขาสุกิม 50 ไร่ และโรงพยาบาลวัดเขาสุกิม 14 ไร่ จึงเหลือเนื้อที่อีกประมาณ 3,280 ไร่ พื้นที่ของวัดมีส่วนที่เป็นราบเชิงเขา ทำเป็นลานจอดรถ และบึงขนาดใหญ่ด้านหน้า ส่วนตัววัด และอาคารต่างๆ ตั้งอยู่บนเขาสุกิม

 

เมื่อเข้ามาถึงบริเวณวัดเขาสุกิม สามารถเดินชมได้ตั้งแต่ด้านล่าง บริเวณรอบบึง ถัดจากลานจอดรถ จะประกอบด้วยพระพุทธรูปต่างๆ เช่น พระพุทธรูปปางลีลา ชื่อว่า "สมเด็จพระมงคลมุนีไพรีพินาศศาสดาจารย์" พระพุทธรูปนั่งปางต่างๆ เรียงรายอยู่หลายองค์ พระสังกัจจายน์ เป็นองค์คู่ และพระสิวลี ศรีสังวาลย์ นอกจากนี้ส่วนที่เป็นบึงขนาดใหญ่ ตรงกลางมีน้ำพุ ให้ความสดชื่น ร่มรื่นภายในบึงมีปลาและเต่าเป็นจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่โปรดปรานสำหรับเด็กๆ มาให้อาหารปลาและเต่า

เมื่อต้องการขึ้นไปยังวัด ที่ตั้งอยู่บนเขา สามารถเดินขึ้นบันไดนาค หรือจะนั่งรถราง(ลิฟท์) ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อขึ้นไปถึง จะมีหลวงพ่อ "ศิลามหามงคล" ประทับอยู่ในบุษบก เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะ

จุดที่น่าสนใจ ถือเป็นไฮไลท์ของวัดเขาสุกิม ที่ไม่ควรพลาดชม คือ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ ภายในตึก 60 ปี เฉลิมพระเกียรติฯ​ (อยู่วิทยาอนุสรณ์) เป็นอาคาร 4 ชั้น ที่สามารถเดินชมได้จนถึงชั้นบนสุด ที่เป็นจุดชมวิวมุมสูงจากบนยอดเขาสุกิม

อาคาร ตึก 60 ปี เฉลิมพระเกียรติฯ​ (อยู่วิทยาอนุสรณ์)
ชั้น 1 เป็นห้องประชุม อบรมธรรมปฏิบัติ ที่พักค้างคืนทั่วไป ห้องสุขา

 

ชั้น 2 เป็นจุดแรกที่เข้าไปถึงในตัวอาคาร ภายในเป็นห้องโถงใหญ่ มีผังโมเดล "เจดีย์บูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี" ซึ่งเป็นเจดีย์ตามคำปรารภของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ที่กำลังอยู่ในการก่อสร้าง บริเวณนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา มีการติดตั้งกล้องไว้ตรงพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อถ่ายภาพในระยะใกล้ให้เห็นผ่านจอมอนิเตอร์ด้านนอก และมีที่ตั้งสรีระพระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกุม หุ่นปั้นขี้ผึ้ง และภาพถ่ายของท่าน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์มากราบสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ชั้น 3 เป็นห้องพิพิธภัณฑ์ มีสิ่งของเครื่องใช้ วัตถุโบราณ ของหายากมากมาย นับหมื่นนับพันชิ้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงบารมีของหลวงปู่สมชาย ที่มีผู้มีจิตศรัทธา เลื่อมใส นำมาถวาย รวมถึงของที่ผู้คนนำมาบริจาคให้กับทางวัด วัตถุสิ่งของต่างๆ ในชั้นนี้ มีตั้งแต่ชิ้นเล็กที่สุดที่ต้องใช้เลนส์ขยายดู ไปจนถึงชิ้นที่ใหญ่โตกว่าตัวคน ทางวัดได้จัดวางไว้เป็นหมวดหมู่ บ้างก็วางเรียงรายอยู่ตามพื้น บ้างก็จัดใส่ตู้กระจก มีคำบรรยายลักษณะสิ่งของหลายชิ้นที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก หรือไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ตัวอย่างของในพิพิธภัณฑ์ ได้แก่
- ของเก่า และวัตถุโบราณต่างๆ ที่ถือเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนรุ่นใหม่ เป็นของที่ปัจจุบันไม่ผลิต และอาจไม่มีให้เห็นโดยทั่วไปแล้ว เช่น กล้องถ่ายรูปในยุคแรกๆ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องอัดเสียง ถ้วยโถโอชาม แจกัน ชามเบญจรงค์ พาน ชุดน้ำชา ตะเกียง เหรียญโบราณ ก้องสูบยาโบราณ หุ้มเงินแท้ สมัย ร.5
- พระพุทธรูปต่างๆ ที่มาจากความศรัทธา และความเชื่อเรื่องการทำบุญด้วยการถวายพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปปั้นเทพต่างๆ เช่นพระพรหม พระอินทร์ องค์เทวรูป องค์พระพุทธรูปในปางต่างๆ รวมถึงพระผง ที่เป็นวัตถุมงคล
- สิ่งของมีค่า ทรัพย์ในดินที่หายาก เช่นอัญมณีต่างๆ หินหอยไดโนเสาร์หมื่นปี กระดูกไดโนเสาร์ ฟันไดโนเสาร์
- สิ่งของที่มาจากต่างประเทศ เช่น ชุดโต๊ะเก้าอี้ฝังมุก ชุดรับแขก แจกันขนาดใหญ่ ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน พระพุทธรูปหยกจากประเทศพม่า เป็นต้น
- สิ่งของมีขนาดใหญ่โตมากกว่าตัวคน เช่น ข้องและไซจับปลาขนาดยักษ์ แจกันที่มีขนาดสูงใหญ่ราว 2-3 เมตร
- สิ่งของที่เป็นความแปลกมหัศจรรย์ เช่น งาช้างขนาดเล็ก ที่มีการจารึกตัวอักษร คำอวยพร การวาดภาพเจ้าแม่กวนอิม ฮกลกซิ่ว ลงบนงาช้าง เพื่อให้เห็นความสามารถในการเขียนภาษาจีน เรียกได้ว่าเป็นการวาดภาพด้วยกำลังภายใน หรือการเขียนด้วยสมาธิ หรือพลังจิต ซึ่งทางวัดได้ติดเลนส์กำลังขยาย 10 เท่า เพื่อให้เห็นตัวอักษรและลวดลายที่เขียนอยู่บนงาช้างนั้นๆ

ชั้น 4 เรียกว่า “วิหารบูรพาจารย์อุทิศอยู่วิทยาอนุสรณ์” เปิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2531 เป็นห้องโถงแสดงหุ่นขี้ผึ้งพระสายกรรมฐาน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในรุ่นครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ (วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร), หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่สิงห์, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแจกันจากประเทศจีน ขนาดสูงใหญ่จรดเพดาน วาดลวดลายประดับสวยงาม และชุดหยก ชุดเครื่องมุกประดับต่างๆ

บริเวณระเบียงชั้น 4 นี้ สามารถเดินออกไปเพื่อชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ เป็นวิวมุมสูงจากเขาสุกิม ที่เห็นวิวได้ในระยะไกล

นอกจากอาคารพิพิธภัณฑ์ บนเขาสุกิมยังมีอาคารอื่นๆ อีกหลายอาคาร เช่น อุโบสถ ตำหนักเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ห้องสมุดฟูตระกูลอนุสรณ์ ตึกธรรมวิจัย ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช ตึกพระวิสุทธิญาณ ตึกอบรมพระกรรมฐาน ตึกธรรมสาธิต

วัดเขาสุกิม ยังเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ศูนย์พัฒนาจิต เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง และเป็นอุทยานการศึกษา หากใครต้องการมาฝึกปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน ตามแนวพระอาจารย์มั่น (ใช้คำบริกรรม “พุทโธ”) ก็สามารถติดต่อมาทางวัด มีศาลาที่พักสะดวกสบาย ห้องมุ้งลวด มีเตียง ที่นอน และหมอนให้

ข้อแนะนำ
- ควรแต่งกายสุภาพ ไม่สวมกางเกงขาสั้น ไม่แต่งตัวโป๊
- ไม่วิ่งเล่น หรือปล่อยบุตรหลานให้วิ่งเล่นภายในอาคารพิพิธิภัณฑ์ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

การเดินทาง
ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กิโลเมตร
ห่างจากเขื่อนพลวง 20 กิโลเมตร
ห่างจากน้ำตกกระทิง 22 กิโลเมตร
ห่างจากวัดพลวง (ทางขึ้นเขารอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ) 28 กิโลเมตร
ห่างจากน้ำตกคลองไพบูลย์ 30 กิโลเมตร

 

วัดเขาสุกิม อยู่ก่อนเข้าตัวเมืองจันทบุรี อยู่ไม่ไกลจากเขาคิชฌกูฏ และน้ำตกต่างๆ

|||Front gate of Wat Khao Sukim|||ซุ้มทางเข้าวัดเขาสุกิม|||

มาจากจังหวัดระยอง

1ใช้เส้นทางสุขุมวิท (หมายเลข 3) จากแกลงมาจันทบุรี
2เมื่อผ่านแยกหนองสีงามาสัก 3 กิโลเมตร จะผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท.ไป แล้วจะเจอสามแยกไฟแดง (แยกห้วยสะท้อน) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 3322 (มี ร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ตรงทางแยก)
 
3จากนั้นตรงตามเส้นทางหลักไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 13 กิโลเมตร จะเห็นซุ้มทางเข้าวัดเขาสุกิมทางขวามือ ชัดเจน
 

มาจากตัวเมืองจันทบุรี

 

1ออกจากตัวเมืองจันทบุรี มาทางสี่แยกเขาไร่ยา
2จากนั้นก็ตรงตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอป้ายบอกทางแยกซ้ายไปวัดเขาสุกิม (สังเกตว่าเป็นช่วงพ้นทางโค้งขวาไปนิดนึง)
3เมื่อเลี้ยวซ้ายไปแล้ว (ยังคงเป็นเส้น 3249) ตรงตามเส้นทางไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะเห็นวัดเขาสุกิมอยู่ทางซ้ายมือ

เวลาทำการพิพิธภัณฑ์
ทุกวัน 6.30 - 17.00 น.

 

ติดต่อสอบถามเพิมเติม
ที่อยู่ 50 หมู่ 12 ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี 22120
ติดต่อ 039-495-243, 081-941-8384
เว็บไซต์ http://www.khaosukim.org
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/watkhaosukim

 

ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip :123
Image
Gallery

แผนที่

แสดงร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่เที่ยวใกล้เคียง
ไม่มีสถานที่ใกล้เคียง
ร้านอาหารใกล้เคียง
Tourism Authority of Thailand    Amazing Thailand     Pattaya Concierge     ChonHub     Kanchanaburi dot Co
Copyright © 2016 - 2024 | Ceediz.Com Contact: info@ceediz.com, info.ceediz@gmail.com