พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุที่นำขึ้นมาจากใต้น้ำ ทั้งในทะเล และแม่น้ำ รวมถึงการจัดแสดงให้เห็นวิธีการ ขั้นตอนการปฏิบัติงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ วิถีชีวิตชาวเรือ และลักษณะของเรือต่างๆ ที่เคยใช้ในประเทศไทย เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับเรือสำเภอจำลองขนาดเท่าของจริง และหุ่นจำลองผู้คนที่ใช้ชีวิตบนเรือขนาดเท่าของจริงที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของการขนสินค้ามาค้าขายในสมัยโบราณ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายเนินวง ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เมื่อผ่านประตูป้อมค่ายเนินวงเข้าไป ก็จะเจอกับพิพิธภัณฑ์เลย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดสำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นการเก็บโบราณวัตถุ ที่ได้ศึกษาวิจัยด้านโบราณคดีใต้น้ำมาตั้งแต่ พ.ศ. 2517 และใช้พื้นที่ในค่ายเนินวง เปิดเป็นศูนย์ศึกษาการปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำ ขั้นตอน วิธีการสำรวจ เก็บกู้ และการอนุรักษ์โบราณวัตถุใต้ทะเล ที่จมอยู่มากมายในซากเรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2544 โดยสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นองค์ประธาน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี เป็นแหล่งความรู้ด้านโบราณคดีใต้น้ำ ประวัติและผลงานของพาณิชย์นาวีไทย ที่ได้ปฏิบัติการเก็บโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติของชาติ จากเรือสำเภาโบราณที่จมอยู่ใต้ทะเลอ่าวไทย นำมาจัดแสดงเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย
พิพิธภัณฑ์ เป็นอาคารแฝด 2 ชั้น ชั้นล่างจำลองการสำรวจและเก็บโบราณวัตถุใต้น้ำ จากซากเรือที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยมีนักดำน้ำชุดสำรวจ ส่วนชั้นบนเป็นห้องจัดแสดง ที่แบ่งออกได้เป็น 6 ห้อง ได้แก่
1.ห้องจัดแสดงสินค้าและชีวิตชาวเรือ
[:nonewline:]
ห้องแรก เป็นห้องที่โดดเด่นที่สุด เมื่อเข้ามาก็จะพบกับเรือสำเภาลำใหญ่มหึมา ชื่อว่า "บรรพนาวิน" ที่แปลว่า บรรพบุรุษแห่งการเดินเรือ เป็นเรือสำเภาโบราณที่ต่อขึ้นจากไม้ โดยจำลองจากขนาดเท่าของจริง (ใช้ขนาดจากลำที่เล็กที่สุด) ที่หัวเรือด้านหน้าวาดเป็นรูป "ราหู" ที่เป็นความเชื่อของชาวเรือว่า พายุและโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นระหว่างเดินเรือ ชาวเรือเชื่อว่าเกิดจากภูติผีปีศาจ ที่สามารถป้องกันได้ด้วยราหู ทำให้ลูกเรือมั่นใจว่าจะออกเรือเดินทางได้อย่างปลอดภัย ด้านท้ายเรือ วาดเป็นรูปนกฟินิกซ์เกาะอยู่บนภูเขากลางทะเล ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ เปรียบได้กับชาวเรือที่เรือไม่ล่ม ไม่จม และที่ด้านข้างของเรือทั้งซ้าย-ขวา วาดเป็นรูปตา (เหมือนกับเรือสำเภาที่วัดยานนาวา กรุงเทพฯ) ซึ่งก็เป็นกุศโลบายว่า เรือมีตามองไว้มองเส้นทาง สามารถวิ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่หลงทาง ลักษณะลูกตาเรือสามารถแยกประเภทของเรือได้ เช่น
- หากวาดลูกตาแบบมองไปข้างหน้า หมายถึง เรือนั้นเป็นเรือสำเภาค้าขาย เป็นเรือพาณิชย์นาวี
- หากวาดตาดำแบบมองลงด้านล่าง หมายถึง เป็นเรือสำเภาประมง กำลังมองหาปลา ปลาหมึก ทำให้จับสัตว์ทะเลได้ง่าย
ส่วนกลางลำเรือ ทำเป็นห้องกระจกให้เห็นภายในห้องเก็บสินค้าใต้ท้องเรือ (ที่เรียกว่าห้องระวางสินค้า) ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสังคโลก จานชาม ไห เครื่องบรรณาการ ผ้า แพรพรรณ โลหะทองแดง
จากบริเวณใต้ท้องเรือมีบันได สามารถขึ้นไปยังดาดฟ้าเรือได้ ด้านบนมีการจำลอง ลักษณะความเป็นอยู่ และการทำงานของผู้คนบนเรือ มีหุ่นปั้นผู้ที่ทำหน้าที่แต่ละอย่างบนเรือ เช่น ลูกเรือ (เรียก จุ่นจู๊) คนครัวทำกับข้าวเลี้ยงลูกเรือ (เรียก จุ่นโพ่) ผู้ดูแลเสากระโดงเรือ (เรียก อาปั๋น) ผู้ที่ขนสินค้า (เรียก กุลี) หุ่นจำลองเหล่านี้ทำให้เห็นถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่บนเรือ นอกจากนี้ยังจัดแสดงของมีค่าที่พบจากแหล่งเรือจมบริเวณอ่าวไทย เช่น จี้ทองคำฝังพลอยแดง และกำไลข้อมือทองคำ
2.ห้องแนะนำปฏิบัติงานโบราณคดีใต้น้ำ
[:nonewline:]
เป็นห้องจัดแสดงแสดงเรื่องราวเทคนิคการทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ ให้ความรู้ตั้งแต่โบราณคดีใต้น้ำคืออะไร แตกต่างจากโบราณคดีบนบกอย่างไร มีการจำลองลักษณะของแหล่งโบราณคดีใต้น้ำ แสดงวิธีการทำงาน เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
โดยทั่วไปแล้ว หากปล่อยโบราณวัตถุต่างๆ ไว้ใต้น้ำ ก็จะมีพวกนักล่าสมบัติมางมเพื่อนำไปขาย นักโบราณคดีจึงต้องทำการเคลื่อนย้ายวัตถุเหล่านั้นขึ้นมา ซึ่งตามหลักการแล้ว จะต้องมีการบันทึกก่อนการเคลื่อนย้าย ว่าวัตถุแต่ละชิ้น อยู่ในสภาพแบบไหนมาก่อน โดยมีนักประดาน้ำลงไปสเก็ตภาพใต้น้ำตามสภาพเดิมของวัตถุก่อนนำขึ้นจากน้ำ
3.ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ
[:nonewline:]
คลังเก็บโบราณวัตถุ เป็นห้องที่ไม่สามารถเข้าไปชมด้านในอย่างใกล้ชิดได้ เป็นการดูผ่านห้องกระจก ภายในห้องมีการเก็บรักษาโบราณวัตถุที่นำขึ้นมาจากใต้น้ำเรียงรายอยู่มากมาย บางส่วนได้จากการจับกุมผู้ลักลอบนำวัตถุโบราณมาขายทอดตลาด วัตถุโบราณส่วนใหญ่เป็นภาชนะกระเบื้อง และเซรามิค เช่น ถ้วยชาม หม้อ ไห กระปุก ตุ๊กตารูปคน รูปสัตว์ สังเกตได้ว่าหากโบราณวัตถุชิ้นไหนที่เคยจมอยู่ใต้พื้นทราย หรือโดนทรายถมทับอยู่ ก็จะยังคงมีความสมบูรณ์ หากชิ้นไหนโผล่พ้นทราย อาจมีพวกหอย เพลียงมาเกาะตามวัตถุ ทำให้วัตถุโบราณมีสภาพแปรเปลี่ยนไปบ้าง
โบราณวัตถุประเภทเครื่องสังคโลก ที่พบส่วนใหญ่มาจากแหล่งเตาเผา 2 แหล่ง คือเตาแม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี และเตาศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
4.ห้องแสดงเรือและชีวิตชาวเรือ
[:nonewline:]
ห้องนี้น่าจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รักและหลงใหลเรือแบบต่างๆ เพราะมีเรือโมเดลจำลองย่อส่วน จากสัดส่วนจริง เรือแต่ละลำ มีการใช้ตุ๊กตาประกอบการใช้งานจริง ซึ่งเมืองไทยถือว่าเป็นเมืองที่มีเรือมากกว่า 100 ชนิด และบางชนิดไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เช่นเรือผีหลอก เรืออีโปง เรือบด เรือมาดเก๋ง เรือเมล์ เรือประมง เรือฉลอมท้ายญวน เรือทูลกระหม่อม (เรือที่เข้าต่อสู้กับฝรั่งเศสในช่วง ร.ศ.112)
5.ห้องของดีเมืองจันทร์
[:nonewline:]
เป็นห้องจัดแสดงประวัติ ความเป็นมาของเมืองจันทบุรี การก่อตั้งเมือง มรดกทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวและของดีที่มีชื่อเสียงของจันทบุรี เช่น ผลไม้ อัญมณี เสื่อ
6.ห้องบุคคลสำคัญ
เป็นห้องที่แสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้ที่ทำให้เมืองจันทบุรี เป็นเมืองที่มีบทบาทในการกอบกู้เอกราช จากการเสียกรุงครั้งที่ 2 มีการมีการจำลองภาพเหตุการณ์ครั้งสำคัญ เช่นพิธีปราบดาภิเษก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี
ที่อยู่ 80 หมู่ 8 โบราณสถานค่ายเนินวง ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000
ติดต่อ 039-391-431
เว็บไซต์ http://kaineonwong.blogspot.com/
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/207171695986671
ค่าธรรมเนียมเข้าชมพิพิธภัณฑ์
ชาวไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท
เวลาทำการ
เปิดวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น.
ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
(อาจหยุดชดเชยในกรณีวันหยุดนักขัตฤกษ์ตรงกับวันจันทร์-อังคาร ควรโทรสอบถามอีกครั้ง)
โบราณสถานค่ายเนินวง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี และวัดโยธานิมิต อยู่ในบริเวณใกล้กัน ใช้เส้นทางเดียวกันได้
1 | หากใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (หมายเลข 3) มาจากจังหวัดระยอง ตรงมาทางจันทบุรี ก่อนถึงแยกเข้าตัวเมือง ให้เลี้ยวขวาตรงสี่แยกเนินสูง (แยกไฟแดง) เพื่อเข้าถนนหมายเลข 3323 |
2 | พอเลี้ยวตรงแยกเนินสูงมาแล้ว ให้ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 กิโลเมตร จะเจอสามแยกรูปตัวที (T) ให้เลี้ยวซ้ายไปทางจันทบุรี |
3 | เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้ว ตรงตามทางไปสัก 700 เมตร จะมีทางแยก (เหมือนเป็นสามแยกแบบสามเหลี่ยม) ซึ่งตรงแยกนี้ ให้ตรงไปตามป้ายบอกทางไปค่ายเนินวง (แต่แยกนี้ต้องระวัง เพราะทางหลักเป็นทางโค้งซ้าย ไปตรงต้องระวังรถเลี้ยวที่สวนมาจากทางขวาด้วย) |
4 | จากนั้นตรงไปตามทางหลักเรื่อย ๆ (ไกลพอประมาณ) แล้วจะเจอ ร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล บางกะจะ |
5 | หลังจากเจอ ร.พ. แล้ว ตรงไปตามทางหลักอีกสักระยะ จะเจอป้ายพิพิธภัณฑ์ พาณิชย์นาวี ให้เลี้ยวซ้าย ตามป้ายไป |
6 | พอเลี้ยวเข้ามาก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ พานิชย์นาวี เลย |