วัดหัวสวน วัดที่มีโบสถ์เป็นสแตนเลสทั้งหลัง หนึ่งในสถานที่ unseen ในเขตอำเภอบางคล้า แวะชมความงดงามของโบสถ์สแตนเลสที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์งามตา กราบองค์พระประธาน พระพุทธมหาลาภ ปางทรงเครื่องกษัตริย์ที่ประดับด้วยหินสี อัญมณีแวววับ ส่องประกายเล่นแสงไฟภายในโบสถ์ ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสด ด้วยเทคนิคสไตล์แอร์บรัช วัดหัวสวนตั้งอยู่ใกล้ถนนสายหลัก ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี แวะง่าย
วัดหัวสวน ตั้งอยู่ในตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ใกล้ถนนสายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี
วัดหัวสวน มีเนื้อที่ 12 ไร่ 128 ตารางวา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2440 และได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ.2443 โดยหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก (พระครูนันทธีราจารย์) เป็นผู้เริ่มสร้างโบสถ์ ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2471
ในเวลาต่อมาเมื่อถึงช่วงที่จะต้องบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ พระครูภาวนาจริยกุล (ท่านเจ้าอาวาสปัจจุบัน) เห็นว่าโบสถ์เก่ามีความทรุดโทรมมาก จึงมีแนวคิดสร้างโบสถ์หลังใหม่ให้มีอายุยืนยาวกว่าการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนเดิมๆ โดยดำเนินการสร้างโบสถ์ทั้งหลังด้วยสแตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่อยู่ได้นานนับพันปี ท่านพระครูเป็นผู้ออกแบบ และควบคุมดูแลการก่อสร้างเอง เริ่มสร้างเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2552 และเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ.2553 งบประมาณการสร้างทั้งหมดได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมจัดสร้างเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท
โบสถ์สแตนเลสมีความกว้าง 7.50 เมตร ยาว 18 เมตร สูง 6.50 เมตร สร้างบนฐานคอนกรีตยกพื้นสูงจากพื้นดิน กำแพงแก้วรอบโบสถ์ ทำเป็นรั้วสแตนเลส ตรงกลางทำเป็นลายธรรมจักร แต่ละช่วงรั้วสลับด้วยเสาหงส์สีทองคาบโคมไฟ ตัวอาคารโบสถ์ทั้งหลังล้วนใช้วัสดุสแตนเลส ส่วนของหลังคาใช้เมทัลชีส (Metal Sheet) หรือแผ่นเหล็กรีดลอน เพื่อให้เกิดลอนสม่ำเสมอ ผนังรอบข้างโบสถ์ทำให้กลวงภายใน เพื่อใส่ฟรอยช่วยระบายความร้อน แต่ละส่วนของโบสถ์ล้วนใช้วัสดุสแตนเลสทั้งนั้น เช่น ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ใบเสมา เสาค้ำ ผนัง ใช้การเชื่อมสแตนเลสด้วยเครื่องอาร์กอน ทำให้ได้รอยต่อสวยเรียบเนียน เมื่อมองจากภายนอก จึงเห็นเป็นสีเงินประกายแวววาวจับตา และไม่ต้องกลัวด้วยว่าในวัดฝนตกฟ้าร้อง หากฟ้าผ่า โบสถ์สแตนเลสจะทำให้เกิดอันตรายหรือไม่ เพราะทางวัดได้มีการป้องกันด้วยการวางระบบสายล่อฟ้าไว้แล้ว
ลวดลายบนผนังด้านนอก ที่ฐานโบสถ์ช่วงล่าง ใช้การพ่นสีด้วยแอร์บรัชเป็นเรื่องราวการเสวยชาติของพระพุทธเจ้า ให้สีจัดจ้านตัดกับสีเงินโดยรอบ ผนังข้างหน้าต่างแกะลายลงบนสแตนเลส เป็นรูปพระอสีติมหาสาวก 80 พระองค์* เหนือกรอบหน้าต่างเป็นรูปพระพุทธโสธร ส่วนของหน้าบัน และบานหน้าต่าง เป็นรูปพระพุทธเจ้าและเทวดาต่างๆ ใช้เทคนิคการกัดกรด และลงสีเหลือง
ประตูทางเข้าโบสถ์ มีทางเข้าด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 2 ทาง ประตูด้านหน้าโบสถ์ประดิษฐานพระสิวลีมหาลาภ ส่วนด้านหลังเป็นพระพุทธมหาลาภปางทรงเครื่อง ลวดลายงดงาม สีทองอร่ามตัดกับสีของสแตนเลส
หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อเข้าไปภายในโบสถ์สแตนเลสแล้วจะรู้สึกร้อนหรือไม่ น่าแปลกตรงที่ว่า ภายในโบสถ์สแตนเลสที่สะท้อนตาภายนอก กลับให้ความรู้สึกเย็นสบายเมื่อเข้ามาข้างใน ภายในประดิษฐานพระพุทธมหาลาภ พระพุทธรูปทรงเครื่อง** ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องกษัตริย์ ประดับองค์พระด้วยพลอย หยก หินสีต่างๆ มูลค่านับสิบล้านบาท เวลาอัญมณีต้องแสงไฟ ดูระยิบระยับจับตา จิตรกรรมฝาผนังด้านใน วาดเป็นลายพระชาดก 10 ชาติของพระพุทธเจ้าโดยใช้ช่างจากจังหวัดราชบุรี วาดและลงสีโดยใช้แอร์บัส สีสันฉูดฉาดสดใส
* พระอสีติมหาสาวก หมายถึงพระภิกษุสาวกผู้ยิ่งใหญ่ หรือพระสาวกสำคัญ 80 รูป ผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด แห่งอรหันตผล ซึ่งสงฆ์ทั้ง 80 รูปนี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
** พระพุทธรูปปางทรงเครื่อง หรือพระพุทธรูปปางทรงเครื่องกษัตริย์ เป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ เพื่อโปรดพญาชมพูบดี กษัตริย์ผู้มากด้วยฤทธิ์เดช อำนาจ และมีความริษยาต่อพระเจ้าพิมพิสาร พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า พญาชมพูบดียังพอมีกุศลที่จะเห็นธรรมได้ พระองค์จึงเนรมิตกายให้อยู่ในเครื่องทรงกษัตริย์ ที่ดูสง่างามและยิ่งใหญ่กว่า เพื่อปราบให้พญาชมพูบดีได้ลดทิฐิของตนลง
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
- โบสถ์สแตนเลส
- โบสถ์หลังเก่าอายุกว่า 100 ปี ประดิษฐานรูปหล่อของหลวงพ่อเหลือ (พระครูนันทธีราจารย์)
การเดินทาง
ห่างจากวัดหลวงพ่อโสธร 12 กิโลเมตร
ห่างจากวัดสมานรัตนาราม 7 กิโลเมตร
ห่างจากตลาดน้ำบางคล้า / วัดโพธิ์บางคล้า 18 กิโลเมตร
ห่างจากสถูปเจดีย์ พระเจ้าตากสินมหาราช / วัดปากน้ำโจ้โล้ 20 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 1 มอเตอร์เวย์ (หรือบางนา-ตราด) -> บางปะกง-ฉะเชิงเทรา (314) -> ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม (365) -> ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี (304)
1 | หากใช้เส้นทางจากมอเตอร์เวย์ (หรือบางนา-ตราด) ให้เลี้ยวตามป้ายมาทางจังหวัดฉะเชิงเทรา (314) |
2 | เมื่อเข้าเส้นบางปะกง - ฉะเชิงเทรา ให้ตรงตามเส้นทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง เห็นป้ายบอกทางเลี้ยวขวาไป อ.พนมสารคาม (365 หรือ 314 เดิม) จึงเลี้ยวขวา |
3 | เมื่อเลี้ยวขวามาแล้ว เส้นทางจะเปลี่ยนไปเป็นเส้น 304 (ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) ให้ตรงตามเส้นทางนี้ไปราว 9 กิโลเมตร |
4 | เมื่อผ่านทางเข้าวัดสมานไปราว 1 กิโลเมตรกว่าๆ จะเห็นทางเข้าวัดหัวสวนทางซ้ายมือ |
5 | เมื่อเลี้ยวซ้ายผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาหน่อยเดียว ก็ถึงวัดหัวสวน |
เส้นทางที่ 2 มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา (ถนนสุวินทวงศ์)(304) -> ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี (314) -> ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม (365) -> ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี (304)
1 | เส้นทางจากถนนสุวินทวงศ์ (มีนบุรี) ตรงมาทางจังหวัดฉะเชิงเทรา |
2 | เมื่อเข้าเขตฉะเชิงเทรา พอขึ้นบนสะพานข้ามทางรถไฟแล้ว จะมีป้ายบอกทางตรงไปชลบุรี (314) ให้ตรงไป (ไม่ต้องเลี้ยวเข้าเมืองฉะเชิงเทรา) |
3 | เส้นทางจะพาขึ้นสะพานยกระดับ ข้ามแยกมา จากนั้นให้ตามป้ายทางไป อ.พนมสารคาม (365 หรือ 314 เดิม) |
4 | แยกไฟแดงถัดมาจึงเลี้ยวซ้ายตามป้าย อ.พนมสารคาม (365) |
5 | เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว เส้นทางจะเปลี่ยนไปเป็นเส้น 304 (ฉะเชิงเทรา - กบินทร์บุรี) ให้ตรงตามเส้นทางไปกบินทร์บุรีอีกประมาณ 9 กิโลเมตร |
6 | เมื่อผ่านทางเข้าวัดสมานไปราว 1 กิโลเมตรกว่าๆ จะเห็นทางเข้าวัดหัวสวนทางซ้ายมือ |
7 | เมื่อเลี้ยวซ้ายผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาหน่อยเดียว ก็ถึงวัดหัวสวน |
จากวัดหลวงพ่อโสธร ไปวัดหัวสวน
1 | แนะนำให้ออกจากวัดแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงไปราว 1 กิโลเมตรกว่าๆ จะมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป อ.บางคล้า ให้เลี้ยวซ้าย |
2 | เส้นทางนี้จะไปบรรจบกับเส้นฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี (304) ซึ่งเป็นเส้นทางบังคับเลี้ยวซ้าย |
3 | เมื่อเลี้ยวซ้ายออกมายังถนนสายหลักแล้วจึงตรงไปตามเส้นทาง ผ่านทางเข้าวัดสมานไปหน่อย ก็จะเป็นวัดหัวสวน |
ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ หมู่ 4 ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110
โทร 038-583-988