เงยหน้าขึ้นจากมือถือและปิดหน้าจอซะ

หัวข้อกระทู้ ใน 'มุมจิบกาแฟ ห้องนั่งเล่น ปรึกษาปัญหา สารพัดพูดคุย' เริ่มโพสต์โดย thanchogun, 11 มิถุนายน 2014.

  1. thanchogun

    thanchogun New Member



    เอาคลิปดีๆมาฝากกันครับ
    สำหรับผมคิดว่ามันเหมาะกับสังคมไทยของเราในทุกวันนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ต้องเจอ "สมาร์ทโฟน และ โซเชียล" หากคนที่มีครอบครัวแล้วได้ดูคลิปนี้ก็คงจะมีประโยชน์มากไม่น้อย และหากคลิปนี้บางท่านที่ได้รับชมไปแล้วอาจได้ข้อคิดที่เตือนใจ เตือนสติ ก็เป็นได้...

    *** หากใครได้ดูหรือฟังแล้ว ควรคิดตาม เพื่อหาจุดยืนของตัวเอง ว่าตัวคุณเองเป็นแบบนี้หรือไม่ สิ่งที่เราทำอยู่นั้นดีหรือเปล่า จะทำแบบไหนอย่างไร เพราะทั้งหมดนี้อยู่ที่การตัดสินใจของคุณเอง “ลิขิตชีวิตของฉัน” ***

    *** สุดท้านมันคือตัวตนของคุณเอง เส้นทางชีวิตของคุณเองที่ต้องตัดสินใจ ที่จะกำหนดเป้าหมายให้ตัวคุณเองและครอบครัวหรือคนรอบข้างที่คุณรักและห่วงใย จะดีหรือไม่อยู่ที่คุณเลือกกระทำ!!! เมื่อตัดสินใจเลือกแล้ว จงยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาให้ได้ก็พอ ว่ามันคือสิ่งที่ตัวเราต้องการและตัดสินใจทำลงไป ***

    รายละเอียดเนื้อหาภายในคลิปหรือซัพไทย :
    (สำหรับท่านใดอ่านหรือดูไม่ทัน แนะนำให้อ่านซัพก่อนสักรอบ แล้วค่อยดูคลิปตาม 2รอบ คุณก็จะเก็ทได้อย่างผม 555+)

    ผมมีเพื่อน 422 คน ผมคุยกับพวกเขาทุกวันแต่...ไม่มีสักคนที่รู้จักผมจริงๆ
    ปัญหาคือผมไม่อาจสบตาพวกเค้าขณะสนทนา ได้แต่มองชื่อบนหน้าจอ ผมจึงถอยออกมา เปิดตาดูอีกครั้ง
    ผมมองไปรอบๆและตระหนักได้ว่า สิ่งที่เราเรียกว่า “โซเชียล” นั้นคือ การเปิดหน้าจอคอมขึ้น แต่ปิดประตูห้องของเราลง
    เทคโนโลยีเหล่านี้ ล้วนเป็นเพียงมายาของชุมชน มิตรภาพและความรู้สึกร่วม แต่หากคุณถอยหลังจากเครื่องมือสร้างความหลงนี้ได้ คุณจะตื่นและเห็นโลกอันอลหม่าน โลกที่เราตกเป็นทาส ของสิ่งที่เราสร้างขึ้น โลกที่ข้อมูลของเราถูกขายโดยเหล่าคนโลภ โลกที่สนใจแต่ตนเอง ภาพลักษณ์ และโปรโมทตัวตน โลกที่เราแชร์สิ่งสวยงาม แต่กลับไร้ซึ่งอารมณ์ เราดูมีความสุขกับสิ่งที่เราแชร์ แต่จะยังเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า หากไม่มีใครอยู่ด้วยเลย จงอยู่กับเพื่อนของคุณ และเขาจะอยู่เช่นกัน แต่ไม่มีใครเลย หากการอยู่นั้นเป็นเพียงตัวอักษร เราตกแต่งเสริมเติม เพื่อถ้อยคำเยินยอ เราแสร้งทำเป็นไม่เห็น ความโดเดี่ยวในสังคม เราร้อยเรียงคำพูด เพื่อให้เราดูเจิดจรัสขึ้น โดยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามีใครฟังอยู่ไหม การอยู่คนเดียวไม่ใช่ปัญหา ขอให้ผมได้อธิบาย

    การอ่านหนังสือ วาดรูป หรือออกกำลังกาย นั่นคือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่โดดเดี่ยวเดียวดาย คุณกำลังตื่นรู้ ใส่ใจ และใช้เวลากับสิ่งดีๆ ดังนั้น เมื่ออยู่ในที่สาธารณะและรู้สึกโดดเดี่ยว “เก็บมือของคุณไว้ให้พ้นจากมือถือซะ” คุณไม่จำเป็นต้องจ้องหน้าจอมองมองหารายชื่อ ลองหันไปคุยกับคนอื่นๆ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ผมไม่ชอบความเงียบในขบวนรถไฟที่พลุกพล่าน ไม่มีใครกล้าพอที่จะเริ่มคุยเพราะกลัวถูกมองว่าประหลาด เราเริ่มกลายเป็นสัตว์ไร้สังคม เมื่อไม่ยินดีจะเชื่อมโยงกับผู้คน หรือแม้แต่สบตาผู้อื่น เราถูกรายล้อมด้วยเด็กๆที่เกิดมาเห็นเราใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ จนเข้าใจว่านี่คือเรื่องธรรมดา “คุณจะเป็นสุดยอดคุณพ่อได้อย่างไร หากไม่เล่นสนุกกับลูก โดยไม่ต้องพึ่ง iPad”

    ตอนผมยังเป็นเด็ก ผมแทบอยู่ไม่ติดบ้าน ผมมักไปข้างนอกกับเพื่อน ขี่จักรยานไปทั่ว เราเล่นซนจนรองเท้าขาด หกล้มเข่าถลอกเป็นประจำ เราสร้างฐานลับของเรากัน สูงขึ้นไปบนต้นไม้ แต่ตอนนี้สวนสาธารณะกลับเงียบเหงา ไร้ซึ่งเด็กๆวิ่งเล่นและชิงช้าไม่ไหวติง ไม่มีใครเล่นกระโดดข้ามช่อง ไม่เข้าโบสถ์ ห่างไกลศาสนา เราคือคนที่โง่งม "ใช้สมาร์ทโฟนแต่กลับโง่เขลาลง"

    "เงยหน้าจากมือถือ ปิดหน้าจอซะ" หันมองสิ่งรอบตัว ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ลองสนทนาจริงๆดูสักครั้ง แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของการ “อยู่ตรงนั้น”
    จงอยู่ในขณะที่เธอมองคุณด้วยสายตาหวานละมุนในห้วงขณะของความรักที่คุณจะไม่มีวันลืม ครั้งแรกที่จูงมือหรือครั้งที่จุมพิต ยามที่ทะเลาะและคืนดีกันครั้งแรก ยามที่คุณไม่ต้องบอกใครว่าคุณกำลังทำอะไร เพราะคุณอยากแบ่งปันเวลานี้กับเธอเท่านั้น ยามที่คุณขายคอมพิวเตอร์เพื่อนำเงินไปซื้อแหวน ให้แก่หญิงสาวในฝันซึ่งได้กลายเป็นจริง ยามเมื่อคุณอยากสร้างครอบครัว ยามคุณอุ้มเด็กสาวตัวน้อยและตกหลุมรักครั้งแรก ยามเมื่อเธองอแงจนคุณตื่น ทั้งที่อยากจะนอน ยามที่คุณเสียน้ำตาเมื่อเธอโผบินจากรัง ยามที่เธอกลับมาพร้อมเจ้าตัวน้อยให้คุณอุ้ม ยามที่ถูกเรียกกว่า “คุณตา” ทำให้รู้สึกว่าช่างแก่เสียจริง ยามที่คุณใช้เวลากับสิ่งที่คุณสร้างมาด้วยชีวิต และรู้สึกดีที่ไม่ได้เสียมันไปกับการจ้องมองสิ่งประดิษฐ์ ยามที่คุณกุมมือภรรยา อยู่เคียงข้างบนเตียงของเธอ บอกเธอว่าคุณรักเธอ จุมพิตเธอลงบนหน้าผาก ฟังเสียงกระซิบแผ่วเบาจวบจนเสียงเต้นสุดท้ายของหัวใจ เธอว่า “ช่างโชคดีที่ได้เจอหนุ่มหลงทางบนถนนสายนั้น”

    แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น จะไม่มีโอกาสเหล่านี้เลย หากคุณยังก้มหน้า ไม่เห็นในสิ่งที่คุณพลาดไป “เงยหน้าขึ้นจากมือถือและปิดหน้าจอซะ” ชีวิตเรามีจำกัด วันเวลาของเรามีไม่มาก “อย่าเสียเวลาจมจ่อไปกับโลกอินเตอร์เน็ต” เพราะเมื่อถึงคราวจากลา คุณอาจต้องพบกับความเสียใจ ผมเองก็ผิดเช่นกันที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ โลกดิจิตอลได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัวจริง ที่ซึ่งเราพิมพ์แทนที่จะพูด ที่ซึ่งเราใช้เวลาร่วมกันแต่ปราศจากการสบตา อย่าให้ชีวิตของคุณไหลไปตามกระแสนี้ จงมอบความรัก อย่าได้แค่กดไลค์ ยุติความอยากโอ่ประโคมตัวตน ไปสู่โลกกว้าง ทิ้งสิ่งล่อลวงไว้ข้างหลัง

    เงยหน้าจากมือถือและปิดหน้าจอซะ หยุดดูวีดีโอนี้ และใช้ชีวิตจริงๆเสียที...
    Last edited: 11 มิถุนายน 2014
  2. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    หุหุหุ เดี๋ยวนี้ นั่งกินข้าวกันกับเพื่อน ยังนั่งกดมือถือ ไม่คุยกันเลยคร้บ

แบ่งปันหน้านี้