ข้อมูลโรงพยาบาลยันฮี ศัลยกรรมแบบต่างๆ รีวิว และการเดินทางไปยังไง

หัวข้อกระทู้ ใน 'คลังความรู้เรื่องความสวยความงามและสุขภาพ' เริ่มโพสต์โดย Number18, 14 ตุลาคม 2014.

  1. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    โรงพยาบาลยันฮี เป็นโรงพยาบาลที่เปิดมานานกว่า 30 ปี คนส่วนใหญ่พอได้ยินชื่อนี้ ก็มักจะนึกถึงเรื่องของการศัลยกรรมความงามมาเป็นอันดับหนึ่ง เป็นเพราะโรงพยาบาลยันฮีเปิดให้บริการด้านศัลยกรรมมาตั้งแต่ยุคแรกๆ จนทำให้มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกว้างขวาง

    ปัจจุบันนี้ทางโรงพยาบาลมีการขยายการให้บริการด้านศัลยกรรมครอบคลุมในแทบทุกด้าน รวมถึงการให้บริการตรวจเช็ค และดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย ล่าสุด ได้ออกผลิตภัณฑ์ความงามด้านผิวหนัง และใบหน้า รวมทั้งอาหารเสริม ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตเองจากโรงพยาบาล ออกจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป จนทำให้ชื่อของโรงพยาบาลยันฮีเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

    การให้บริการของโรงพยาบาลยันฮี
    โรงพยาบาลยันฮี เป็นเสมือนศูนย์รวมความทันสมัยด้านความสวยความงาม และสุขภาพ ที่แบ่งออกเป็นแผนกต่างๆ ได้แก่

    ศูนย์ศัลกรรมตกแต่ง
    ศูนย์ศัลกรรมตกแต่ง เป็นแผนกที่ดูแลด้านความสวยความงาม เสริมแต่ง ตัด ต่อ เติม เพิ่ม ลด ส่วนขอใบหน้าและร่างกาย เพื่อให้ได้สัดส่วน ออกมาสวย ดูดี ตั้งแต่หัว จรดปลายเท้า การทำศัลยกรรมแต่ละส่วนของร่างกาย มีความยากง่ายต่างกัน บางอย่างถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย แต่ศัลยกรรมบางอย่าง เป็นการผ่าตัดที่มีบาดแผลค่อนข้างใหญ่ และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 คืน
    - การปลูกผม (ค่าใช้จ่าย 80 บาท/กราฟท์)
    - การดึงหน้าผาก ดึงหน้าส่วนกลาง ดึงคอ (ค่าใช้จ่าย 60,000 - 95,000 บาท รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    - การทำตา 2 ชั้น (ค่าใช้จ่าย 18,000 บาท)
    - การเสริมจมูก ตัดปีกจมูก ลดขนาดจมูก (ค่าใช้จ่าย 20,000 - 65,000 บาท)
    รีวิวศัลยกรรมจมูก ยันฮี http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=185955
    - การเสริมโหนกแก้ม หรือลดโหนกแก้มด้วยการผ่าตัดยุบกระดูก (ค่าใช้จ่าย 45,000 - 110,000 บาท รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    - การเสริมคาง ตัดกราม (ค่าใช้จ่าย 33,000 - 92,000 บาท รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    - การผ่าตัดลูกกระเดือก (ค่าใช้จ่าย 26,000 บาท)
    - การผ่าตัดเปลี่ยนเสียง(ค่าใช้จ่าย 100,000 บาท รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    - การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ (ค่าใช้จ่าย 4,000 - 18,000 บาท)
    - การดูดไขมัน (ค่าใช้จ่าย 50,000 บาท/จุด รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    - การเสริมหน้าอก (ค่าใช้จ่าย 80,000 - 125,000 บาท รวมค่าห้องพักโรงพยาบาล)
    รีวิว เสริมหน้าอก ยันฮี


    - การฉีดโบท็อก
    - การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ การแปลงเพศ
    เว็บไซต์ : http://www.sexchangecenter.com/
    รีวิว แปลงเพศจากชายเป็นหญิง ยันฮี


    ข้อมูลการแปลงเพศ


    ศูนย์ผิวหนังและเลเซอร์
    เป็นศูนย์ที่ดูแลเรื่องของผิวหนัง ทั้งการรักษาโรคทั่วไป เช่น กลาก เกลื้อน ภูมิแพ้ ผมร่วง การกำจัดไฝ หูด ขี้แมลงวัน ติ่งเนื้อ รวมถึงการดูแลเรื่องของความสวยความงาม เช่นการรักษาปาน กระ ผ้า รอยแผลเป็น เป็นต้น

    ศูนย์สัก เพื่อการรักษาและความงาม
    เป็นศูนย์ที่ทักษะการสักเพื่อตกแต่งให้ใบหน้าหรืออวัยวะบางส่วน ดูสวยงามขึ้น เช่น การสักคิ้วถาวร สักคิ้วสามมิติ สักขอบปาก สักหัวนม หรือการลบรอยสักที่ไม่ต้องการออก

    ศูนย์เส้นเลือดขอด และการกำจัดขนถาวร
    เป็นศูนย์ที่ผ่าตัดเส้นเลือดขอด เลเซอร์เส้นเลือดขอด กำจัดขนรักแร้ และขนหน้าแข้ง

    ศูนย์หู คอ จมูก และจิตเวช
    รักษาการนอนกรน เปลี่ยนเสียงจากชายเป็นหญิง แก้ไขเสียงแหบ ตรวจรักษาโรคภูมิแพ้

    ศูนย์ทันตกรรม
    เป็นศูนย์ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ดูแลในเรื่องการตรวจเช็คสภาพฟัน ทำความสะอาดฟัน ถอนฟัน เลเซอร์ฟอกฟันขาว นอกจากนี้ยังมีให้บริการทันตกรรมพิเศษ เช่น การจัดฟัน ครอบฟัน ฝังรากฟันเทียม ตกแต่งฟันห่าง ใส่ฟันปลอม

    ปัจจุบันมีคนนิยมจัดฟันกันเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะได้ฟันที่เรียงเป็นระเบียบสวยงาม อาจทำให้รูปหน้าเปลี่ยน ดูเรียวสวยขึ้นด้วย การจัดฟันนี้เป็นการดูแลรักษาแบบต่อเนื่อง ที่อาจต้องใช้ระยะเวลานานเป็นปีๆ ทางศูนย์ทันตกรรมของโรงพยาบาลยันฮี มีการจัดฟันให้เลือกหลายแบบ หลายประเภท ทั้งแบบถอดได้ ที่เป็นพลาสติก และแบบติดแน่น ชนิดโลหะ เซรามิค และแบบ Damon ที่สำคัญคุณหมอของศูนย์ทันตกรรมของโรงพยาบาลยันฮี เป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก หลายคนชื่นชอบฝีมือ จนกลายเป็นคุณหมอคิวทอง ที่จะต้องจองคิวกันยาวในแต่ละวัน เช่น คุณหมอปราณี คุณหมอดุษฎี เป็นต้น

    ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน 45,000 บาท (เป็นการจัดฟันแบบโลหะ ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่า x-ray และพิมพ์ฟัน)
    เว็บไซต์ http://www.yanhee.net/th/treatment-procedure/dental-procedure

    รีวิวการจัดฟันที่ ยันฮี http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2011/07/Q10864060/Q10864060.html


    ศูนย์เลสิคและรักษาสายตา
    คนที่มีปัญหาเรื่องของสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง อาจจะรู้สึกรำคาญการสวมใส่แว่นตา หรือการใส่คอนแทคเลนส์ทั้งวัน การแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกตินี้ สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดตา ที่เรียกว่า "การทำเลสิค"

    การทำเลสิค เป็นการแก้ไขปัญหาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร โดยใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า Excimer Laser ทำการขัดผิวกระจกตา เป็นการผ่าตัดที่เห็นผลทันที มีระยะพักฟื้นที่รวดเร็ว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลก็ได้ ส่วนผลของการรักษานั้นขึ้นอยู่กับภาวะสายตาของแต่ละคน ซึ่งก่อนทำการผ่าตัด แพทย์จะตรวจอย่างละเอียด และให้คำแนะนำเป็นรายๆ ไป

    สำหรับการทำเลสิคที่โรงพยาบาลยันฮี หลายคนมีความมั่นใจในอุปกรณ์เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และทีมแพทย์ที่มีความชำนาญ โดยทางโรงพยาบาลใช้เครื่องเลเซอร์ รุ่นที่ 4 (4th General Wavefront Laser) ซึ่งมีความแม่นยำสูง มีระบบโฟกัสแสงเลเซอร์ที่ง่ายต่อการผ่่าตัด

    ค่าใช้จ่ายในการทำเลสิค 38,000 - 40,000 บาท
    เว็บไซต์ : http://www.lasikyanhee.com/lasik_yanhee/index.html

    รีวิวการทำเลสิก โรงพยาบาลยันฮี (ความคิดเห็นที่ 49) http://pantip.com/topic/31181153
    ประสบการณ์ทำเลสิก โรงพยาบาลยันฮี http://www.fourkosi.com/ประสบการณ์การทำเลสิก/

    รีวิวการทำเลสิค
    Last edited: 14 ตุลาคม 2014
  2. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    ศูนย์โรคหัวใจ
    ศูนย์ โรคหัวใจ โรงพยาบาลยันฮี มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการผ่าตัดหัวใจมากมากว่า 12 ปี และทางโรงพยาบาลมีแพทย์ด้านโรคหัวใจในทุกสาขา ประกอบด้วย อายุรแพทย์โรคหัวใจ แพทย์ตกแต่งหลอดเลือดหัวใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไฟฟ้าหัวใจ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก เป็นต้น
    โดย ทางศูนย์โรคหัวใจ ให้บริการตรวจฉีดสี ตรวจหลอดเลือดหัวใจ ขยายหลอดเลือดหัวใจ (ทำบอลลูน) การผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ การผ่าตัดใส่เครื่องช็อคไฟฟ้าหัวใจ ขยายหลอดเลือดหัวใจบริเวณคอ ไต
    ศูนย์โรคหัวใจ


    ศูนย์สูติ-นรีเวช และการตกแต่งทางนรีเวชเพื่อความงาม
    เป็น การดูแลเรื่องของการฝากครรภ์ คลอดบุตร ตรวจภายใน ผ่าตัดเนื้องอก ไปจนถึงการตกแต่งอวัยวะเพศหญิง เช่นการตกแต่งแคมให้เล็ก และมีขนาดสวยงาม ตกแต่งช่องคลอด หรือการรีแพร์ เพื่อกระชับช่องคลอดที่หย่อนยานหลังการคลอดบุตร การผ่าตัดยกมดลูก
    ค่าใช้จ่าย (ควรปรึกษาแพทย์)

    ศูนย์ล้างลำไส้ (Detox)
    การ ทำดีท็อกซ์เป็นที่นิยมและแพร่หลายสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพภายใน และคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย อยู่เป็นประจำ การล้างลำไส้จะช่วยขจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ ที่อาจค้างอยู่ตามรอยหยักของลำไส้ และอาจกลายเป็นของเสียที่มีพิษขึ้นมา ผลดีของการล้างลำไส้นี้ จะช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย และไปกระตุ้นการทำงานของเซลในเยื่อบุลำไส้ ให้มีการทำงานเป็นปกติขึ้น ส่งผลให้อวัยวะส่วนอื่นๆ ทำงานดีขึ้น ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

    สำหรับ การทำดีท็อกซ์กับทางศูนย์ล้างลำไส้ โรงพยาบาลยันฮี เป็นการสวนล้างด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จึงวางใจได้ว่าปลอดภัย น้ำที่ใช้สวนมีทั้ง น้ำเกลือแร่ น้ำสมุนไพร หรือกาแฟเข้มข้น ใช้ระบบน้ำไหลตามแรงโน้มถ่วง (ระบบกาลักน้ำ) โดยให้ผู้ทำได้นอนอยู่บนเตียงแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน ใช้เวลาในการดีท็อกซ์ประมาณ 30-60 นาที หลังจากทำเสร็จก็สามารถขับรถกลับบ้านได้ตามปกติ
    สำหรับคนที่เป็นความดันโลหิตก็สามารถทำได้ ยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้

    ค่าใช้จ่ายในการทำดีท็อกซ์ 800 - 900 บาท/ครั้ง (มีราคาพิเศษ สำหรับคนที่ต้องการทำเป็นคอร์สต่อเนื่อง)
    รีวิวดีท็อกซ์ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=on-myway&month=19-05-2013&group=4&gblog=3
    รีวิวดีท็อกซ์ http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2011/08/Q10904680/Q10904680.html

    ศูนย์ลดน้ำหนัก

    ศูนย์ลดน้ำหนักของโรงพยาบาลยันฮี มีชื่อเสียงมานาน เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สำหรับคนที่เข้ามาปรึกษาคุณหมอเรื่องของการลดความอ้วนโดยการใช้ยา ยาของทางโรงพยาบาลจะเป็นยาที่ช่วยลดความอยากอาหาร ชะลอหรือขัดขวางการย่อย และการดูดซึมสารอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และยังช่วยขัดขวางการดูดซึมแป้งหรือไขมัน ลดการสร้างไขมันใต้ผิวหนัง และเพิ่มการเผาผลาญไขมันด้วย ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรเข้ารับการตรวจโดยตรงจากศูนย์ลดน้ำหนักของทางโรงพยาบาลก่อน เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนและกระบวนการการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง การได้รับยาควรอยู่ภายใต้การสั่งยาของแพทย์ ยาลดน้ำหนักไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไทรอยด์ โรคหัวใจ และคุณแม่ช่วงให้นมบุตร ราคายาลดความอ้วนที่ซื้อจากทางโรงพยาบาลมีราคาอยู่ที่ชุดละ 700 - 900 บาท

    คนที่ไม่สะดวกมารับยากับทางโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็รับส่งทางไปรษณีย์ หรือสามารถส่งกับเอเย่นที่รับจัดส่งยาให้ ซึ่งการเลือกซื้อยาผ่านเอเย่นนั้น ควรศึกษาข้อมูลของเอเย่นนั้นๆ ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน การรับยาให้นั้นควรมีบัตรของโรงพยาบาลแนบมาให้ด้วย พร้อมทั้งมีใบเสร็จการสั่งซื้อจริงจากทางโรงพยาบาล เพื่อเป็นหลักฐานในการซื้อยาโดยตรงจากโรงพยาบาล เป็นการป้องกันการใช้ยาปลอม หรือการสต็อคยาของเอเย่น

    รีวิวยาลดความอ้วนยันฮี




    รีวิวยาลดความอ้วนที่ได้จากโรงพยาบาล
  3. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    อาหารเสริม โรงพยาบาลยันฮี
    โรง พยาบาลยันฮี ได้ผลิตอาหารเสริมที่ได้รับการรับรองจาก อย. ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป หรือซื้อโดยตรงจากโรงพยาบาลยันฮีเลย ปัจจุบันมีผู้นำออกไปขายเอง ซึ่งการสั่งซื้ออาหารเสริมจากผู้ซื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่จากโรงพยาบาลโดยตรง หรือจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ควรตรวจสอบให้ดีก่อน เพราะอาจเป็นยาปลอม หรือของเลียนแบบ และควรตรวจดูวันผลิต และวันหมดอายุที่ซองก่อนซื้อทุกครั้ง อาหารเสริมของโรงพยาลมีอยู่ 2 ตัว คือ

    - ยันฮี คาร์นิทีนพลัส (Carnitine Plus)
    เป็นกล่องสีส้ม-เหลือง ใน 1 กล่องมี 3 ซองๆ ละ 14 เม็ด (ราคากล่องละ 297 บาท หรือซองละ 99 บาท)
    ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยแอล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท 500 มิลลิกรัม ผสมสารสกัดจากเมล็ดกาแฟที่ไม่ได้คั่ว และผงผักบุ้ง
    วิธีรับประทานคือ 1 เม็ด ก่อนหรือหลังอาหารเช้า (กินหลังอาหารสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะ)

    อาหาร เสริม คาร์นิทีนพลัส เป็นตัวที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอยากอาหาร รู้สึกอื่มนานขึ้น ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ลดไขมันในกระแสเลือด ลดไขมันส่วนเกิน ทำให้หน้าท้องแบนราบ เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้สดชื่น กระปรี่กระเปร่า ส่วนของสารสกัดจากเมล็ดกาแฟที่ไม่ได้คั่ว จะไม่มีสารคาเฟอีน ไม่รบกวนการทำงานของหัวใจ ช่วยในการลดน้ำหนัก ยับยั้งการดูดซึม สะสมของไขมัน และช่วยยับยั้งการดูดซึมของกลูโคสในร่างกาย ส่วนผงผักบุ้งจะช่วยเสริมด้านแร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ
    ข้อควรระวังสำหรับการกินอาหารเสริมคือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

    รีวิวอาหารเสริม คาร์นิทีนพลัส


    - ยันฮี กลูต้าพลัส (Gluta Plus)
    เป็นกล่องสีชมพู ใน 1 กล่องมี 3 ซองๆ ละ 7 แคปซูล (ราคากล่องละ 297 บาท หรือซองละ 99 บาท)
    มี ส่วนผสมของ แอล กลูต้าไธโอน 250 มิลลิกรัม (อยู่ในปริมาณที่ อย.ในเมืองไทยกำหนดไว้ว่าอยู่ในระดับปลอดภัย) วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก แมกนีเซียม ออกไซด์ นิโคทินาไมด์
    วิธีรับประทานคือ 1 เม็ด ก่อนหรือหลังอาหารเช้า (กินหลังอาหารสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะ)

    อาหาร เสริม กลูต้าพลัส เป็นตัวที่ช่วยเรื่องผิวสวย กระจ่างใส ดูสุขภาพดี แบบสีขาวอมชมพู ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ปกป้องผิวจากมลภาวะ การกินให้ได้ผลในเรื่องผิว ควรกินติดกันอย่างน้อย 2 เดือน

    รีวิวอาหารเสริม http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bungza&month=23-04-2014&group=16&gblog=78
    รีวิวอาหารเสริม


    รีวิวอาหารเสริม รพ.ยันฮี (ยูทูป)


    รีวิวอาหารเสริม



    ผลิตภัณฑ์ครีมทาหน้า ยันฮี
    ทาง โรงพยาบาลยันฮี ได้ผลิตครีมที่ใช้กับใบหน้า ในราคาที่ไม่แพง หาซื้อได้ง่าย โดยวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นอิเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท วัตสัน หรือจะซื้อจากทางโรงพยาบาลโดยตรงเลยก็ได้ การหาซื้อครีมยันฮีควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ และควร หากซื้อจากผู้ซื้อรายอื่นๆ ควรตรวจสอบก่อนว่า เป็นสินค้าจริงที่ผลิตจากทางโรงพยาบาล ตรวจดูวันผลิตและวันหมดอายุก่อนซื้อทุกครั้ง ไม่ควรหลงเชื่อผู้ขายที่ขายสินค้าลดราคาเกินจริง ระวังของลอกเลียนแบบ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อยันฮี แต่ไม่ได้ผลิตจริงจากทางโรงพยาบาล
    ผลิตภัณฑ์ครีมทาหน้า ยันฮี มีด้วยกัน 3 ตัว คือ

    - ครีมแต้มสิว (Acne Cream)
    เป็นหลอดสีฟ้า-ขาว บรรจุในปริมาณ 10 กรัม ราคา 99 บาท
    เป็นครีมใช้แต้มสิว สำหรับสิวที่เกิดจากความมันของใบหน้า หรือมีสิ่งอุตันรูขุมขน ใช้แต้มเฉพาะบริเวณหัวสิว จะช่วยให้สิวแห้งเร็ว

    - ครีมหน้าขาว (Whitening Cream)
    เป็นหลอดสีชมพู-ขาว กล่องด้านหน้าเป็นพลาสติกใสเห็นหลอดด้านใน ครีมบรรจุในปริมาณ 20 กรัม ราคา 129 บาท
    ครีม หน้าขาว เป็นสูตรเฉพาะของยันฮี ที่ช่วยปรับสีผิวของใบหน้าและช่วงคอให้ดูสว่างใสขึ้น และยังช่วยลดจุดด่างดำให้ดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของอาร์บูติน และกลูต้าไธโอน ช่วยเร่งการผลัดเซลผิวหนัง ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาร์
    ช่วยลดรอยด่างดำ
    รีวิว ครีมหน้าขาว http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bungza&month=04-2014&date=30&group=16&gblog=80
    รีวิว ครีมหน้าขาว http://pantip.com/topic/30191705

    - ครีมเบบี้เฟส หรือครีมหน้าเด็ก (Yanhee Baby Face Cream)
    เป็นกล่องสีชมพู-ขาว บรรจุในปริมาณ 20 กรัม ราคา 169 บาท
    ครีมนี้จะช่วยลดความเสื่อมของผิว ให้ผิวทนต่อแสงแดด ดูเต่งตึง กระจ่างใส การใช้ จะใช้นวดใบหน้าประมาณ 5 นาที ทาเช้า-เย็น

    รีวิวผลิตภัณฑ์ ยันฮี http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kbaicha&month=04-2014&date=27&group=4&gblog=48
    รีวิว ครีมยันฮีปลอม http://pantip.com/topic/30288279
    รีวิวผลิตภัณฑ์ ยันฮี



    ที่อยู่ : 454 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
    ติดต่อ : 0-2879-0300 (Hotline 1723)
    เว็บไซต์ http://www.yanhee.co.th/
    เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/YanheeHospital.YH?fref=nf
    Last edited: 14 ตุลาคม 2014
  4. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    การเดินทาง ไปโรงพยาบาลยันฮี
    โรงพยาบาลยันฮี ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้สะพานพระราม 7 เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างรถติด(มาก) โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า และตอนเย็นในแต่ละวัน ช่วงที่ยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้ายังไม่เสร็จ ก็ทำให้การจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ต้องการเลี่ยงรถติด หรือคนที่ไม่ได้นำรถยนต์ส่วนตัวไป มีทางเลือกเดินทางได้หลายทาง

    - ห่างจากสยามสแควร์ 13 กิโลเมตร
    - ห่างจากอนุสาวรีย์ชัย 10 กิโลเมตร
    - ห่างจากสนามหลวง 8 กิโลเมตร

    1. รถยนต์ส่วนตัว
    สำหรับคนที่ขับรถไป สามารถไปได้หลายเส้นทาง ขึ้นอยู่กับว่าสะดวกในการเดินทางจากเส้นทางไหน ซึ่งจุดที่จะข้ามมายังฝั่งธนบุรี มีสะพานข้ามที่สะดวกอยู่ 4 สะพาน คือ สะพานพระราม 7 สะพานกรุงธน (หรือสะพานซังฮี้) สะพานพระราม 8 สะพานปิ่นเกล้า
    yanhee_1.jpg

    ข้ามสะพานพระราม 7
    เส้นนี้จะสะดวกสำหรับคนที่มาจากทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ เช่น นนทบุรี ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ หรือส่วนที่ใกล้ถนนวิภาวดี เช่นลาดพร้าว จตุจักร ดินแดง การมาข้ามสะพานพระราม 7 จะค่อนข้างใกล้ และสะดวกกว่า ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดมากนัก

    - วิ่งบนถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้าเมือง) เลยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิ่งตามป้ายบอกทางไปสะพานพระราม 7 (หรือตามป้ายประชาชื่น - กำแพงเพชร 2) วิ่งตรงตามถนนรัชดาภิเษก ต่อด้วยถนนวงศ์สว่าง ข้ามสะพานพระราม 7 มาจะต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์ สังเกต.. ถัดจากซอยจรัญฯ 92 จะเป็นทางเข้าโรงพยาบาลยันฮีอยู่ทางซ้ายมือ

    - วิ่งบนถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออกนอกเมือง) ถัดจากห้าแยกลาดพร้าว จะมีป้ายแยกซ้ายไปสะพานพระราม 7 (หรือตามป้ายประชาชื่น - กำแพงเพชร 2) วิ่งตรงตามถนนรัชดาภิเษก ต่อด้วยถนนวงศ์สว่าง ข้ามสะพานพระราม 7 มาจะต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์ สังเกต.. ถัดจากซอยจรัญฯ 92 จะเป็นทางเข้าโรงพยาบาลยันฮีอยู่ทางซ้ายมือ

    - ใช้ทางด่วน
    หากขึ้นทางด่วนจากทางขึ้นไหนก็ตาม แนะนำให้ตามป้าย งามวงศ์วาน - แจ้งวัฒนะ พอเลยช่วงถนนกำแพงเพชร 2 ให้ลงทางด่วนตามป้าย "ถ.รัชดาภิเษก (สี่แยกประชานุกูล-ถนนวิภาวดีรังสิต)" เลี้ยวซ้ายไปทางประชาชื่น ตรงไปตลอดจะเห็นป้ายสะพานพระราม 7 ข้ามสะพาน ไปเป็นถนนจรัญสนิทวงศ์ สังเกต.. ถัดจากซอยจรัญฯ 92 จะเป็นทางเข้าโรงพยาบาลยันฮีอยู่ทางซ้ายมือ

    ข้ามสะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้)
    เส้นทางนี้สะดวกสำหรับคนที่มาจากแถวใจกลางกรุงเทพฯ เช่น อนุสาวรีย์ชัยฯ พญาไท ราชเทวี ดินแดง เส้นทางนี้มีระยะทางสั้น แต่อาจมีรถค่อนข้างหนาแน่นบ้าง ในช่วงเวลาเย็น หลังเลิกงาน
    - จากอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าถนนราชวิถี (ตรงข้างโรงพยาบาลราชวิถี) ตรงไปทางสะพานกรุงธน ข้ามสะพานกรุงธน แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายสะพานพระราม 7 (เข้าถนนจรัญสนิทวงศ์) วิ่งไปจะเห็นป้ายโรงพยาบาลยันฮี (ตึกสูงๆ) อยู่ทางขวามือ วิ่งไปกลับรถ สังเกต.. ทางเข้าโรงพยาบาลอยู่ถัดจากซอยจรัญฯ 92

    ข้ามสะพานปิ่นเกล้า
    เส้นทางนี้สะดวกสำหรับคนที่มาจากเส้นศูนย์กลางกรุงเทพฯ เช่น สนามหลวง เยาวราช หัวลำโพง ถนนราชดำเนิน สยาม ให้วิ่งมาข้ามสะพานปิ่นเกล้า วิ่งข้ามสี่แยกอรุณอมรินทร์ แยกถัดไปเลี้ยวขวาไปทางบางพลัด วิ่งตามถนนจรัญสนิทวงศ์ ไปทางสะพานพระราม 7 ตรงซอยจรัญฯ 91 จะเห็นตึกยันฮี (ป้ายบนยอดตึกสูงๆ) อยู่ฝั่งตรงข้าม วิ่งไปกลับรถ สังเกต.. ทางเข้าโรงพยาบาลยันฮี อยู่ถัดจากซอยจรัญฯ 92

    ** สำหรับคนที่จะข้ามสะพานพระราม 8 (มาจากถนนราชดำเนิน) ข้ามสะพานมาแล้วให้ลงตามป้ายอรุณอมรินทร์ สี่แยกไฟแดงอรุณอมรินทร์เลี้ยวขวา ถึงแยกจรัญฯ ให้เลี้ยวขวาไปทางบางพลัด วิ่งตามถนนจรัญฯ โรงพยาบาลอยู่ฝั่งตรงข้าม

    2. รถเมล์
    สำหรับคนที่นั่งรถเมล์ไปโรงพยาบาลยันฮี สามารถไปได้ทั้งฝั่งที่ผ่านหน้าโรงพยาบาล และที่ผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล หากมาจากสะพานพระราม 7 รถจะวิ่งผ่านหน้าโรงพยาบาลเลย ป้ายรถเมล์อยู่ตรงกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 แล้วเดินต่อไปทางสะพานลอยคนข้าม จะเห็นโรงพยาบาลยันฮีทางซ้ายมือ หากมาฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล (หรือมาจากทางปิ่นเกล้า) ให้ลงตรงซอยจรัญสนิทวงศ์ 91 แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปฝั่งโรงพยาบาล (ตรงสะพานลอยทั้งสองฝั่งมีร้านมินิมาร์ทอยู่)
    สายรถเมล์ที่ผ่านหน้าโรงพยาบาล : สาย 18, 110, 175, 203, 170

    สาย 18 อนุสาวรีย์ชัยฯ - อู่ท่าอิฐ (รัตนาธิเบศร์)
    อนุสาวรีย์ชัยฯ (ขึ้นป้ายหน้าโรงพยาบาลราชวิถี) - ถนนราชวิถี - โรงพยาบาลเด็ก - โรงพยาบาลพระมงกุฎ - ข้ามสะพานกรุงธน - ถนนจรัญสนิทวงศ์ - โลตัสบางพลัด - โรงพยาบาลยันฮี (ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล ลงป้ายซอยจรัญฯ 91) - การไฟฟ้าฝ่ายผลิต - ข้ามสะพานพระราม 7 - บิ๊กซีวงศ์สว่าง - โรงพยาบาลศรีธัญญา - โรงพยาบาลบำราศนราดูร - ถนนติวานนท์ - สะพานพระนั่งเกล้า - ถนนรัตนาธิเบศร์ - อู่ท่าอิฐ
    yanhee_2.jpg

    สาย 110 เทเวศน์ - สะพานพระราม 7
    สี่เสาเทเวศน์ - สะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้) - แยกบางพลัด - โลตัสจรัญฯ (ฝั่งตรงข้าม) - โรงพยาบาลยันฮี (ฝั่งตรงข้าม ลงป้ายซอยจรัญฯ 91) - สะพานพระราม 7

    สาย 170 : หมอชิต 2 - แยกพุทธมณฑลสาย 4
    หมอชิต 2 (อาคารผู้โดยสาร) - แยกวงศ์สว่าง - บิ๊กซีวงศ์สว่าง - สะพานพระราม 7 - โรงพยาบาลยันฮี (ลงป้ายซอยจรัญ 92) - แยกบางพลัด - แยกบรมราชชนนี - เซ็นทรัลปิ่นเกล้า - สายใต้ใหม่ - แยกพุทธมณฑลสาย 4 ตัดเพชรเกษม

    สาย 175 : ท่าน้ำภาษีเจริญ - ท่าน้ำนนท์
    ท่าน้ำภาษีเจริญ - ตลาดพลู - แยกบางยี่เรือ - ถนนจรัญสนิทวงศ์ - แยกบางขุนนนท์ - แยกบรมราชชนนี - โลตัสจรัญฯ (ฝั่งตรงข้าม) - โรงพยาบาลยันฮี (ฝั่งตรงข้าม ลงป้ายซอยจรัญฯ 91) - สะพานพระราม 7 - ถนนพิบูลย์สงคราม - ตลาดนนท์ - ท่าน้ำนนท์

    สาย 203 สนามหลวง - อู่ท่าอิฐ (รัตนาธิเบศร์)
    สนามหลวง (ป้ายตรงข้ามศาลฎีกา) - สะพานปิ่นเกล้า - ถนนจรัญสนิทวงศ์ - โรงพยาบาลยันฮี (ฝั่งตรงข้าม ลงป้ายซอยจรัญฯ 91) - สะพานพระราม 7 - ท่าน้ำนนท์ - เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ - อู่ท่าอิฐ (รัตนาธิเบศร์)
    yanhee_3.jpg

    ข้อแนะนำ
    - สำหรับคนที่มาจากมาบุญครอง สยาม สามารถขึ้นรถเมล์สาย 15 หรือ 47 ตรงป้ายสนามกีฬาแห่งชาติ มาลงที่สนามหลวง แล้วต่อรถเมล์สาย 203 รถเมล์วิ่งผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลยันฮี
    - คนที่มารถตู้จากต่างจังหวัด หากมาลงที่อนุสาวรีย์ชัยฯ สะดวกที่สุดคือต่อรถสาย 18 ตรงป้ายโรงพยาบาลราชวิถี รถเมล์วิ่งผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลยันฮี
    - คนจากต่างจังหวัดที่มาลงที่สถานีขนส่ง หมอชิต 2 สามารถนั่งรถเมล์สาย 170 (ผ่านหน้าโรงพยาบาลยันฮีเลย) หรือต่อแท็กซี่
    - คนจากต่างจังหวัดที่มาจากสถานีขนส่ง เอกมัย สามารถนั่ง BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ แล้วต่อรถเมล์สาย 18 (ตรงป้ายโรงพยาบาลราชวิถี) รถเมล์วิ่งผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลยันฮี

    3. รถไฟฟ้า BTS + รถเมล์ (หรือต่อแท็กซี่)
    วิธีนี้ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่ชอบเดินทางในแนวรถไฟฟ้า คือ
    - ลงสถานี อนุสาวรีย์ชัยฯ เดินมาขึ้นรถเมล์สาย 18 (ตรงฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี) ผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลยันฮี (ลงป้ายจรัญฯ 91 แล้วเดินข้ามสะพานลอย)

    4. รถไฟใต้ดิน MRT + ต่อแท็กซี่
    - ขึ้นสถานี บางซื่อ ต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร

    5. เรือด่วนเจ้าพระยา + รถเมล์ (ต่อแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง)
    - นั่งเรือด่วนเจ้าพระยา (นั่งได้ทั้งธงเขียว เหลือง ส้ม และไม่มีธง) ขึ้นท่าพระราม 7 ต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงใต้สะพาน หรือขึ้นรถเมล์สาย 110
    yanhee_4.jpg
  5. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    ขอเก็บพื้นที่ไว้สำหรับการอัพเดทข้อมูลหน่อยนะ

แบ่งปันหน้านี้