ข้อมูลเบื้องต้น อยากขายเึครื่องสำอางค์ อยากทำครีมขาย ต้องทำอย่างไรบ้าง?

หัวข้อกระทู้ ใน 'คลังความรู้เรื่องความสวยความงามและสุขภาพ' เริ่มโพสต์โดย Number18, 9 มิถุนายน 2014.

  1. Number18

    Number18 Moderator Staff Member

    2.jpg

    พอดีว่าช่วงนี้เห็นว่ากระแสมาทางนี้แรงมาก ๆ รวมถึงคนรู้จักผมหลายคนเริ่มหันมามองธุรกิจนี้กันบ้างแล้วด้วย ทำให้คิดว่าคงจะมีคนจำนวนมากอยากจะร่วมวง ลงมาแบ่งกำไรในตลาดนี้กันอย่างแน่นอน บวกกับการที่ผมไปสิงสถิตร้านหนังสืออยู่เป็นประจำ ทำให้เจอหนังสือที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะทำธุรกิจนี้ด้วย เดี๋ยวเอามาให้ดูว่าเล่มไหน (แต่ผมไม่ได้อะไรนะ ใครไม่ค่อยมีงบไปยืนแอบอ่านที่ร้านบ่อย ๆ ก็ได้ ไม่เปลือง)

    มาเริ่มกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นเลยผมบอกก่อนเลยว่าผมไม่ใช่คนในวงการธุรกิจ ขายครีม ขายเครื่องสำอางค์นะ เพียงแต่ว่าผมมีเพื่อนที่สนิทกันอยู่คนนึงอยู่ในวงการนี้มาระยะนึงแล้วล่ะ ซึ่งการได้รู้จักเพื่อนคนนี้ทำให้ผมพอจะทราบรายละเอียดระดับนึงว่า ธุรกิจนี้เค้าทำกันอย่างไร กำไรมากน้อยขนาดไหน

    ขอพูดถึงกำไรก่อนแล้วกันว่า ในตลาดความสวยความงาม เช่น ครีม วิตามินต่าง ๆ รวมถึงยาลดความอ้วนด้วย ถือว่ามีกำไรสูงมาก ๆ มากซะจน ผมเองคิดไม่ถึงเลยเช่นเดียวกัน ในวันที่รู้ข้อมูลตรงนี้ถึงกับอึ้งไปเลย และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้คนอยากลงมาเล่นธุรกิจนี้กันมาก คนไหนทำเก่งก็เพียงไม่นานก็รวยไปเลย แต่คนไหนไม่ค่อยเก่ง การตลาดไม่ค่อยดี พรีเซ้นต์ไม่เก่ง ก็ลำบากหน่อย ขาดทุนจนต้องปิดร้านไปเลยก็มี

    กำไรเยอะ ถึงกับอึ้ง!? แล้วมันขนาดไหนล่ะ! ที่จริงก็แล้วแต่ความสามารถนะ แต่ที่ผมเห็นมา กำไรเกิน 1000% น่ะ!! ประมาณว่า ต้นทุน 80 บาท ขาย 1,200 บาทอะไรแบบนั้น แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าจะขายราคานี้ได้ตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวมาใหม่ และกำลังเป็นกระแสขึ้นมา จึงจะกำไรมากขนาดนี้ แต่! ถามว่าถ้าเจ้าของมีความสามารถพอ กำไรลดลงไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะ ต่อให้ครีมลดลงเหลือ 200 ก็ยังกำไรอยู่ดี ที่สำคัญพอกระแสเริ่มเป็นขาลง ก็หาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาขาย ได้กำไรเยอะเท่าเดิม

    หลายคนอาจสงสัย ว่ากำไรเยอะขนาดนี้ แล้วคนซื้อ เค้าจะไม่คิดว่าราคามันสูง หรือแพงเกินไปเหรอ? คำตอบของเรื่องนี้ คงบอกได้เพียงว่า สำหรับผู้หญิงแล้ว อะไรที่ทำให้สวยได้ ต่อให้คิดว่าแพงเค้าก็ซื้อมาใช้อยู่ดี ที่สำคัญมันมีบางอย่างที่ทำให้คนเราคิดว่าสิ่งของเหล่านั้น “มีราคาสูง ไม่ใช่ของราคาถูก” ซึ่งนั่นก็คือ รูปลักษณ์ของสินค้า หรือก็คือ บรรจุภัณฑ์ (Packaging) นั่นแหละ

    เคล็ดลับของคนที่สามารถบวกราคาสินค้าได้มากนั้น นอกจากการแนะนำสินค้าเก่งแล้ว แพ็คเกจจิ้ง ก็เป็นส่วนที่ช่วยในจุดนี้ได้มากเลยทีเดียว มันก็คล้าย ๆ กัที่เค้าว่ากันว่า สินค้าญี่ปุ่นบางอย่างนั้น ตัวบรรจุภัณฑ์ ต้นทุนสูงกว่าสินค้าที่อยู่ด้านในเสียอีก มันทำให้พอเราเห็นแล้ว รู้สึกว่ามันเป็นของมีระดับ หรู ไม่ต่างอะไรกับแบรนด์ต่างประเทศ เลย ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ แล้วการจัดทำบรรจุภัณฑ์พวกนี้ เจ้าของมานั่งแพ็คด้วยมือเอง ทีละชิ้น ละชิ้น ก็มีอยู่ไม่น้อย

    พูดง่าย ๆ ถ้าคุณคิดจะลงมาลุยตลาดนี้ สิ่งที่คุณต้องคิด และต้องยอมลงทุน ก็คือตัว บรรจุภัณฑ์เนี่ยแหละ

    package.jpg

    ในปัจจุบัน ร้านแพ็คเกจสำหรับเครื่องสำอางค์และครีม มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมือประมาณหลายปีที่แล้ว เพื่อนผมต้องไปเลือกหาดูที่กรุงเทพ (ผมเคยติดรถไปเดินเล่นครั้งสองครั้ง หุหุ) แต่ไม่แน่ใจว่าตรงนั้นเรียกว่าอะไร น่าจะแถวสำเพ็ง แต่นั่นแหละ เดี๋ยวนี้ ชลบุรีก็หาร้านแพ็คเกจได้ไม่ยากแล้ว แถมอยู่ในตัวเมืองเลยด้วย แต่มีสายบอกมาว่า บนห้างขายค่อนข้างแพงนะ จริงไม่จริงไม่รู้ ลองแว๊บ ๆ ไปสืบราคากันดูก่อนแล้วกัน
    สิ่งพิมพ์ที่ใช้คู่กันกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวด ก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่ตรงนี้ผมไม่มีข้อมูลเท่าไรต้องขออภัยจริง ๆ แต่คิดว่าเราน่าจะดูจากตัวอย่างของสินค้าที่เราชอบ แล้วเอาตัวอย่างไปให้ทางโรงพิมพ์ดู แล้วถามว่าเค้าทำได้มั้ย แล้วคิดราคาเท่าไร เพียงเท่านี้คุณก็จะได้แพ็จเกจที่สวยงามแล้ว

    ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณโปรโมทสินค้ายังไง ทำให้เค้ารู้จักสินค้าของเรา แล้วทำให้เค้ารู้ว่าใช้แล้วได้ผลจริง

    แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่ได้พูดถึงการผลิตสินค้าขึ้นมาขายเลยนี่นา ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ เพื่อนผมก็อาศัยไปคุยกับโรงงานผลิตเลย ซึ่งสามารถสั่งทำสูตรครีมได้เองด้วย เพราะทางโรงงานจะมีคนที่ให้รายละเอียดได้ว่า สารอะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง และตัวไหนห้ามใช้เกินกำหนดอะไรประมาณนี้ ที่ผมพอรู้ก็ประมาณนี้ล่ะ เพราะไม่เคยไปโรงงาน

    แต่ถ้าใครเป็นน้องใหม่ และอยากทำธุรกิจนี้จริง ๆ แนะนำให้ลองหาอ่าน หนังสือ “รวมข้ามคืน! ด้วยธุรกิจเครื่องสำอางค์ออนไลน์” ดู มีให้เห็นตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป โดยเนื้อหาคร่าว ๆ ก็จะมีบอกว่า การติดต่อโรงงานมีแบบไหนบ้าง สารประกอบต่าง ๆ ที่สามารถใช้ในการทำเครื่องสำอางค์ได้ และสารอะไรห้ามใช้ ความรู้เบื้องต้นการทำธุรกิจแบบออนไลน์ผ่าน Facebook / Instragram และกลยุทธ์ธุรกิจเครื่องสำอางค์ เป็นต้น อย่างที่บอกลองไปยืนอ่านเล่นที่ร้านก่อนก็ได้ ถ้าใครอยากซื้อก็ซื้อ ใครไม่อยากซื้อ ก็แวะไปบ่อย ๆ เดี๋ยวก็อ่านจบ

    ก็หวังว่า การแชร์ความรู้ในส่วนนี้ จะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจ หาทางเริ่มต้นธุรกิจนี้อยู่ก็แล้วกันนะ เอาเป็นว่าขอให้ร่ำรวยกันทุกคนเลย (ด้านล่างก็เป็นหนังสือเล่มที่ว่า)

    10466750_10202908408804481_147903786_n.jpg
    Last edited: 9 มิถุนายน 2014

แบ่งปันหน้านี้